Share this
Fintech คืออะไร สำคัญยังไงกับการเงินยุคดิจิทัล

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นตาหรือคุ้นหูกันมานานแล้วกับคำว่า Fintech จนอดสงสัยและเกิดคำถามขึ้นมาว่า Fintech คืออะไร ทำไรได้ หน้าตาเป็นอย่างไร แล้วทำไมหลาย ๆ คนในวงการการเงินจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวงการการเงินดิจิทัล วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกันว่าฟินเทค (Fintech) ให้มากขึ้น
Fintech คืออะไร?
‘Fintech’ คือ เทคโนโลยีการเงิน โดยเป็นการผสมคำกันระหว่าง ‘Finance’ และ ‘Technology’ หรือเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้กับระบบการเงินเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีการเงินเติบโตเคียงและพัฒนาไปพร้อม ๆ กับเทคโนโลยีเสมอ ถ้าจะให้เห็นภาพใกล้ตัวมากขึ้น ก็คงเริ่มตั้งแต่ยุคฝาก-ถอนเงินที่ต้องต่อคิวนาน ๆ มีระบบที่ซับซ้อนยุ่งยาก ไปจนถึงการใช้โทรศัพท์เพื่อโอน ฝาก ถอน จ่าย ได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว สิ่งนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็ก ๆ ในการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับการเงินเพื่อความสะดวกสบายกับผู้ใช้งานมากขึ้น แล้วโลกของฟินเทค (Fintech) มีความน่าสนใจมากแค่ไหน มีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

Fintech มีทั้งหมดกี่ประเภท อะไรบ้าง
‘Fintech’ มีหลากหลายรูปแบบแต่ที่นิยมใช้และคุ้นเคยกันดีสามารถแบ่งได้ถึง 9 ประเภท โดยมีรายละเอียดและความน่าสนใจดังนี้
- Mobile Banking: แอปฯ ธนาคาร ใช้ฝาก ถอน โอน จ่ายบิล ลงทุน เปิดบัญชีไปจนถึงแลกคะแนน ให้บริการแบบครบจบในแอปฯ เดียว
- Digital Payment: การชำระเงินแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น 2C2P , Wallet ต่าง ๆ เป็นระบบเพย์เมนต์ที่เป็นตัวกลางรับชำระเงินแบบออนไลน์ระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย โอนจ่ายรับเงินกันได้สะดวกมากขึ้น
- Online Lending: กู้ยืมทางออนไลน์ สินเชื่อออนไลน์ที่นำบริการมาใช้เพื่อให้ผู้ที่ต้องการใช้เงินกู้ยืมได้ง่ายขึ้น โดยใช้อัลกอริธึ่มมาวิเคราะห์การอนุมัติสินเชื่อนั่นเอง มีตั้งแต่กู้ยืมเพื่อการศึกษาไปจนถึงการจำนองทรัพย์สิน เป็นต้น
- Robo-Advisors: AI แนะนำการลงทุน เป็นการนำเทคโนโลยี AI ผสมกับการแนะนำทางการเงินโดยใช้อัลกอริธึ่มและการวิเคราะห์ต่าง ๆ แสดงผลเป็นแผนการลงทุนที่เหมาะสมตามต้องการ แถมค่าธรรมเนียมและต้นทุนต่ำด้วย
- Crowdfunding: ระดมทุน เป็นการเปิดระดมทุนผ่านแอปฯ หรือแพลตฟอร์มที่ให้บริการ เพื่อระดมเงินลงทุนไปกับแผนธุรกิจที่น่าสนใจ ที่ให้ประโยชน์ต่อการเติบโตของ Startup และสร้างผลกำไรต่อนักลงทุน
- Blockchain & Cryptocurrencies: บล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล เรียกว่าเป็น ฟินเทค (Fintech) ที่เปลี่ยนโลกการเงินไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมีข้อดีที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เป็นเทคโนโลยีทางการเงินที่เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ให้กับโลกทางการเงินได้ชัดเจนและเห็นผลที่สุด
- Insurtech: เทคโนโลยีด้านการประกันภัย เป็นการนำเทคโนโลยีการเงินไปผสมกับการประกันภัยทำให้สามารถวางแผนประกัน ออกแบบการคุ้มครอง และผลประโยชน์ได้แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น จนสามารถเปิด-ปิดการใช้ประกันได้แค่ปลายนิ้วเลยทีเดียว
- Regtech: เทคโนโลยีด้านกฎระเบียบ เป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้การใช้กฏ (Regulation) ในองค์กร ได้แม่นยำ และควบคุมเกณฑ์ต่าง ๆ ในการทำธุรกรรมออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยต่อข้อมูลและป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับลูกค้าขณะใช้งาน เช่น การบังคับพิสูจน์ตัวตน (KYC) เป็นต้น
- Personal Finance Management: จัดการการเงินส่วนบุคคล เป็นการนำข้อมูลการเงินมาวิเคราะห์ ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อจัดทำงบประมาณ ดูค่าใช้จ่าย และวางแผนทางการเงินแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ดียิ่งขึ้น

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง Fintech
จะเห็นว่าการพัฒนาฟินเทค (Fintech) มักจะมีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาพัฒนาอยู่ด้วยเสมอ อย่างไรก็ตามการพัฒนาเครื่องมือลักษณะนี้มักจะมีเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้และนักพัฒนาเป็นเบื้องหลังการพัฒนาหลัก ๆ ดังนี้
- Blockchain และ Cryptocurrencies เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คอนเซ็ปท์ ‘Decentralisation’ ในการตรวจสอบความโปร่งใสของธุรกรรม ความปลอดภัย และการตรวจสอบได้ การประยุกต์เทคโนโลยีนี้กับโลกการเงิน จึงเกิดการ Disrupt ขนาดใหญ่เปลี่ยนมุมมองการใช้เงินพฤติกรรมการใช้เงิน และการลงทุนของผู้คนไปโดยปริยาย เกิดทั้ง เหรียญคริปโตฯ การลงทุนแบบดิจิทัล การใข้งานสื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เรียกว่าเปลี่ยนโฉมการเงินไปอย่างสิ้นเชิง
- AI และ Machine Learning อีกเทคโนโลยีเบื้องหลังการรวม ‘Fintech’ เข้ากับโลกการเงิน โดยนำ AI และใช้ Machine Learning มาวิเคราะห์ วางแผน ฝึกสอนระบบ และให้คำแนะนำในเรื่องการเงิน ตั้งแต่วางแผนรายรับ รายจ่าย ทำประกันภัย ไปจนถึงการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินหรือแม้กระทั่งแนะนำการลงทุนรายบุคคลให้กับลูกค้าที่มีเงื่อนไขและความต้องการที่แตกต่างกัน
- Big Data และ Analytics เป็นโทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อนำมาใช้กับการเงินทั้งในแง่การรวบรวมข้อมูลเพื่อประมวลผล การรวบรวมปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์ ไปจนถึงการแสดงผลของข้อมูลที่ได้ นำมาวิเคราะห์ วางแผน วางกลยุทธ์เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่คุ้มค่าคุ้มทุนในการตัดสินใจทางด้านการเงินมากที่สุด

ตัวอย่าง Fintech ที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน
หากจะให้เห็นภาพมากขึ้นก็มีตัวอย่าง การใช้ Fintech เข้ามาใช้กับการเงินในชีวิตประจำวัน และอำนวยความสะดวกในการใช้งานที่น่าสนใจ และใกล้ตัวมากที่สุด ดังนี้
- 2C2P เป็นการใช้ Fintech อำนวยความสะดวกในการจ่ายเงินระหว่างลูกค้ากับร้านค้า หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าเทคโนโลยีนี้จะอยู่กับเราตลอดเวลาจนอาจมองข้ามไปเลยก็ได้ แต่จะมีความสำคัญที่สุดเมื่อเวลาเราต้องการจ่ายเงินออนไลน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ 2C2P จะเข้ามาเป็นตัวกลางและยืนยันธุรกรรมเสมอ โดยผ่านการกรอกรหัสยืนยันขณะชำระธุรกรรมออนไลน์นั่นเอง
- Cryptocurrencies Exchange เป็นการนำ Fintech มาใช้ได้อย่างใกล้ตัวไม่แพ้กัน เพราะเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเงินเฟียตไปเป็นเงินดิจิทัล โดยมีค่าบริการในการเทรดซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแพลตฟอร์มที่ใช้งาน ที่สำคัญเทรดเดอร์จำเป็นต้องเลือก Exchange ที่น่าเชื่อถือในการฝากเงินเฟียตไปเทรดหรือลงทุนในเงินดิจิทัลเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดการ Rug pull ขึ้น หรือเสี่ยงต่อการโดนโจมตีทางไซเบอร์จนเกิดการสูญเสียเงินที่ฝากไว้นั่นเอง
Fintech มีธุรกิจอะไรบ้าง
จะเห็นได้ว่า Fintech เมื่อนำไปประยุกต์ใช้ในทางการเงินแล้วจะเกิดธุรกิจมากมายหลากหลายแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเงินให้กับผู้ใช้งานมากมาย ตั้งแต่ ธุรกิจดิจิทัลวัลเลต ธุรกิจวางแผนบัญชี ธุรกิจประเมินความเสี่ยง ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการเงิน ฯลฯ ขึ้นอยู่กับไอเดียในการนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางการเงินนั่นเอง

ข้อดีและข้อเสียของ Fintech
สำหรับข้อดีและข้อเสียของการนำ Fintech ไปใช้งานมีอยู่เสมออีกด้านคือช่วยในเรื่องความสะดวกในด้านธุรกรรมการเงิน และอีกด้านคือความเสี่ยงจากการสูญเงินที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยแบ่งเป็น 2 ข้อดังนี้
ข้อดีของ Fintech
- สะดวกสบาย เข้าถึงง่าย โอนเงิน ชำระเงิน ทำธุรกรรมการเงินง่ายขึ้น ประหยัดเวลา เข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว
- ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมต่ำ ไปจนถึงไม่มีค่าธรรมเนียม
- อัปเดตเทคโนโลยีการใช้งานได้สม่ำเสมอ รองรับพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนไปได้รวดเร็ว
- มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เลือกได้หลากหลาย ทั้งการออม การประกันภัย การจัดการเงิน และเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น
- มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีรายละเอียดชัดเจน
- สนับสนุนการเข้าถึงเงินทุนของธุรกิจได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น สร้างโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็ก เติบโตได้มากขึ้น
ข้อเสียของ Fintech
- ความเสี่ยงด้านข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอาจหลุดออกไปโดยไม่ได้รับความยินยอม
- บางเทคโนโลยีกฏหมายยังไม่รับรอง มีโอกาสถูกฉ้อโกงได้
- การพึ่งพาเทคโนโลยีอาจเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการแฮค ระบบเซิร์ฟเวอร์ล่ม เป็นต้น
- การเสี่ยงต่อการขาดการซัพพอร์ตของเทคโนโลยี หากบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีเหล่านั้นล้มละลายอาจทำให้ต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์มหรือโยกย้ายการใช้งานไปยังผู้ให้บริการเจ้าอื่นได้
- ความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบ ที่อาจเกิดขึ้นจากความประมาทและความน่าเชื่อถือของบริษัท เช่น การอัปเดตซอฟต์แวร์ของสแกนไวรัส จนทำให้เกิดการ Blue Screen ทั่วโลก หรือเรียกว่าเป็นเหตุการณ์ The Blues Screen of Death
การนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้กับการเงินหรือ ‘Fintech’ เป็นก้าวกระโดดสำคัญของการใช้เทคโนโลยีที่ส่งผลต่อโลกการเงินและชีวิตประจำวันของผู้คนทั้งโลก ตั้งแต่เริ่มต้นจากการเกิดขึ้นของบัตรเครดิต ช่วงค.ศ. 1950 การเทรดหุ้นออนไลน์ ธนาคารออนไลน์ในช่วง ค.ศ. 1980 จนมาถึงปัจจุบันที่มีบล็อกเชนและเงินดิจิทัล โดยใช้ ‘Fintech’ เข้ามาเพิ่มความสะดวก แม่นยำ และโปร่งใสในการทำธุรกรรม ทำให้เทคโนโลยีนี้จะพัฒนาไปพร้อมกับการเงินแบบคู่ขนานกันไปเรื่อย ๆ เพื่อรองรับการเงินที่มีความซับซ้อนและสะดวกสบายมากขึ้น โดยเทคโนโลยีนี้ต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียที่จำเป็นต้องระมัดระวังและรู้เท่าทันการใช้งาน เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ทางด้านการเงินกับเรามากที่สุดนั่นเอง
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
อ้างอิง
Share this
- Bitazza Blog (111)
- Crypto Weekly (47)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- Tether (USDt) (8)
- บล็อกเชน (8)
- bitcoin (7)
- missions (7)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Campaigns (3)
- Security (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Social Features (2)
- Stablecoin (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- TradingView (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- ENJ (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- KYC (1)
- NFTs (1)
- SEC (1)
- TRUMP (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)
Subscribe by email

WAN Coin คืออะไร? เหรียญจาก Wanchain กับโซลูชันเชื่อมต่อบล็อกเชน

NEAR Coin คืออะไร? แพลตฟอร์มบล็อกเชนใช้งานง่ายสำหรับทุกคน

มาเลเซียเปิดตัวฮับสินทรัพย์ดิจิทัล เตรียมทดลอง Stablecoin ผูกเงินริงกิต

DOT Coin คืออะไร? เจาะลึก Polkadot และระบบเชื่อมบล็อกเชนแห่งอนาคต

ส่อง PNUT Coin เหรียญมีมมาแรงบน Solana

TON Coin คืออะไร? ทำความรู้จักเหรียญจาก Telegram และอนาคตของ Web3

รู้จัก NOT Coin คืออะไร? เหรียญไวรัลจาก Telegram ที่กำลังเปลี่ยนเกมคริปโตฯ

BabyDoge คืออะไร? วิเคราะห์อนาคตเหรียญมีมในตลาดคริปโตปี 2025

AAVE คืออะไร? แพลตฟอร์มกู้ยืมในโลก DeFi ที่นักลงทุนต้องรู้
