Share this
กับดัก ‘Rug Pull’ กลลวง หลอกลงทุนในโลกคริปโตฯ

เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และการลงทุน ย่อมหลีกหนีไม่พ้นการต้มตุ๋น หลอกลวง แน่นอนว่าในโลกคริปโตฯ ก็หนีไม่พ้นเช่นกัน วันนี้เราจะชวนมาทำความเข้าใจ และรับมือการโกงที่เกิดขึ้นในโลกของการเทรดเหรียญคริปโตฯ ว่า ‘Rug Pull’ คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร จะป้องกันและรับมือกันได้อย่างไร ผลกระทบมากน้อยแค่ไหน และเอาเงินคืนมาได้หรือไม่? มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
Rug Pull คืออะไร?
‘Rug Pull’ คือ รูปแบบการโกงที่คลาสสิคที่สุดในโลกการเงิน นั่นคือ การหลอกให้ลงทุน โดยการแปลตรงตัวตามคำศัพท์คือ การดึงพรม เพื่อให้คนที่ยืนอยู่ล้มทั้งยืน โดยพรมที่ว่า ก็คือ โปรเจกต์ที่สวยหรู ดูแพง ชวนให้นักลงทุนฝันถึงผลตอบแทน และปลุกให้มาเผชิญกับความจริง ด้วยการปิดโปรเจกต์ เทกระดาน พร้อมหอบเหรียญคริปโตฯ หายเข้ากลีบเมฆนั่นเอง ถึงแม้พรมจะไม่ถูกดึงออกไปจริง ๆ แต่เหล่านักลงทุนทั้งรายเล็กรายใหญ่ก็ล้มอย่างรุนแรง
วิธีการเกิด Rug Pull มีรูปแบบไหนบ้าง
โดยอุบายการโกงของ ‘Rug Pull’ แบ่งด้วยกันง่าย ๆ อยู่ 3 แบบ
1. ล็อกคำสั่งเหรียญ (Disabling the ability to sell)
เป็นการล็อกคคำสั่งขายเหรียญหรือคำสั่งถอนเหรียญออก ทำให้ผู้ที่สนใจลงทุนกับโปรเจกต์นั้น ๆ ไม่สามารถถอนเงินลงทุนหรือขายเหรียญออกมาได้
2. การขโมยสภาพคล่องของคู่เหรียญ (Stealing Liquidity)
Rug pull รูปแบบนี้เป็นการทำให้เหรียญสูญเสียมูลค่าไป โดยการปั่นเหรียญให้น่าสนใจ เพื่อดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในเหรียญนั้น ๆ โดยการนำ ALT Coin มาทำการแลกเปลี่ยนใน Decentralized Exchanges (DEX) หรือระบบแลกเปลี่ยนโดยไม่มีตัวกลาง ทำให้สามารถสลับคู่โทเคนกับสกุลเหรียญดิจิทัลชั้นนำได้ เมื่อมีนักลงทุนสนใจและนำเหรียญที่มีมูลค่า อย่าง Ethereum (ETH), Tether (USDT) เข้ามาแลกเป็นโทเคนในเหรียญเหล่านั้น เจ้าของโปรเจ็กซ์จะทำการทุ่มขายเพื่อทำกำไร และแลกสลับโทเคนกลับไปด้วยเหรียญ ETH,USDT ในคราวเดียว จนทำให้มูลค่าของโทเคนที่ได้สูญเสียไปในที่สุด และเหรียญที่นำมาแลกก็หายออกไปด้วยนั่นเอง
3. ผู้พัฒนาถอนเงินพร้อมกัน (Developers cashing out)
Rug pull รูปแบบสุดท้าย คือการที่ผู้พัฒนาพร้อมใจกันถอนการลงทุนออกพร้อมกัน เมื่อระดมทุนจากนักลงทุนด้วยโปรเจกต์การลงทุนที่น่าสนใจได้เป็นเงินทุนจำนวนมาก หลังจากนั้นผู้พัฒนาโปรเจกต์ก็พร้อมใจกันถอนการลงทุน ขายหุ้นส่วนในโปรเจกต์นี้ไปและถอนตัวจากโปรเจกต์นั้นไปนั่นเอง

วิธีการป้องกันตัวเองจาก Rug Pull
วิธีการป้องกันและรู้เท่าทันการโดนโกงหรือโดนหลอกลวงจากการ ‘Rug Pull’ คือ การเตรียมตัวและตรวจสอบความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด ตรวจสอบสิ่งผิดปกติ ลงทุนในเหรียญที่น่าเชื่อถือ โดยการป้องกันหลัก ๆ สามารถเช็กลิสต์ได้ดังนี้
- สังเกตกลุ่มผู้พัฒนาหรือเจ้าของโปรเจกต์เป็นบุคคลหรือองค์กรที่มีตัวตนจริงหรือไม่
- หลีกเลี่ยงเหรียญที่มีสภาพคล่องต่ำ เพราะง่ายต่อการปั่นราคา โดยมูลค่าเหรียญต่าง ๆ
สามารถสังเกตและเปรียบเทียบได้จากการดูกราฟและเปรียบเทียบกันว่าใน 1 ชม. มูลค่าการเทรดรวมเป็นเท่าไหร่หรือกราฟ 24 ชม. มีมูลค่าการเทรดรวมกันมากน้อยเท่าไหร่นั่นเอง - รายละเอียดใน White Paper ความเชื่อถือต่ำ ไม่เป็นทางการ อ้างอิงข้อมูลและแหล่งที่มาไม่ชัดเจน ทำให้ตรวจสอบได้ยาก
- มักพบได้บ่อยในการการแลกเปลี่ยนแบบ Decentralized Exchanges (DEX) ซึ่งเปิดให้ใครก็ได้เข้ามานำเหรียญที่สร้างขึ้น เปิดการเทรดได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้ต่างจากการเทรดเหรียญในแบบ Centralized Exchanges (CEX) ที่มีผู้ตรวจสอบบัญชีคริปโตฯ นั่นเอง
- สังเกตโค้ดในโปรเจกต์ที่สนใจว่ามีช่องว่างหรือช่องโหว่ที่อาจเปิดโอกาสให้โดน ‘Rug Pull’ มากน้อยแค่ไหน
ความเสี่ยงและผลกระทบของ Rug Pull
การเกิดเหตุการณ์ ‘Rug Pull’ ทำให้นักลงทุนสูญเสียเหรียญที่มีได้ง่าย ๆ และรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว ผลกระทบย่อมเกิดขึ้นในวงกว้าง ยากแก่การแก้ไข และการตามเงินคืนนั้นเป็นไปไม่ได้เลย โดยเมื่อเกิดขึ้นแล้วทำได้เพียงแค่ทำใจเท่านั้น
โดยผลกระทบที่หนักที่สุดของการ ‘Rug Pull’ คือ การสูญเสียเงินไปในคราวเดียวถึง 8.5 หมื่นล้านบาท โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนเม.ย. 2021 จากเว็บเทรดบิตคอยน์แห่งแรกของตุรกีในชื่อ ‘Thodex’ ที่ผู้ก่อตั้งชื่อ Faruk Fatih Özer ปิดเว็บเทรดกระทันหันและนำเงินบินออกนอกประเทศไปในทันที ทำให้ลูกค้ากว่า 400,000 ราย ไม่สามารถเข้าถึงเงินฝากได้ ต่อมาได้ถอนเงินออกจากบัญชีจำนวนหลายล้านบาท จากนั้นจึงถูกตำรวจสากลออกหมายแดงเพื่อตามจับกุมปัจจุบันผู้ก่อตั้งถูกจับกุมในปี 2023 และศาลลงโทษจำคุก 11,196 ปี 10 เดือน 15 วัน พร้อมค่าปรับ 5 ล้านดอลลาร์ นั่นเอง
ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ ๆ มาไม่นาน ก็มีเหตุการณ์ ‘Rug Pull’ ที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเดือนธ.ค. 2024 ขึ้น โดยอินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อว่า ‘Haliey Welch’ หรือชาวเน็ตรู้จักกันในชื่อ ‘Hawk Tuah’ ได้ทำการปล่อยเหรียญมีมของตัวเองในชื่อ Hawk Tuah ($HAWK) บน Meteora ในวันที่ 5 ธ.ค. 2024 แน่นอนว่าการที่เหรียญนี้สร้างความน่าเชื่อถือจากอินฟลูเอนเซอร์ จึงทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก สร้างมูลค่าตลาดสูงถึง 490 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่จู่ ๆ ก็เกิดการ ‘Rug Pull’ ขึ้น ทำให้มูลค่าตลาดในปัจจุบันเหลือเพียง 117,097.87 เหรียญสหรัฐ (20 ม.ค. 2025) เท่านั้น โดยคาดว่าเกิดจากการสไนเปอร์ที่ตุนเหรียญไว้เป็นจำนวนมากตั้งแต่ตอนเปิดตัว และเทขายเหรียญจนหมดในคราวเดียว อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในเหตุการณ์นี้ทำให้ ‘Welch’ ได้กำไรไปถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Rug Pull
Rug Pull เกิดขึ้นบ่อยหรือไม่
เหตุการณ์เหล่านี้มีสถิติที่น่าสนใจ โดยในปี 2024 มีเหตุการณ์โกงคริปโตฯ สูงถึง 21.4% มูลค่ากว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจำนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพิ่งจาก 282 เคส ไปที่ 303 เคส เมื่อเทียบกับในปี 2023 โดยเเป้าหมายใหญ่ในการโจรกรรมอยู่ที่ ‘DeFi’ เป็นหลักอีกด้วย
อ้างอิง: chainalysis.com
สามารถเอาเงินคืนจากการ Rug Pull ได้หรือไม่
การได้เงินลงทุนคืนมาจากการ ‘Rug Pull’ เรียกได้ว่าโอกาสน้อยมาก ๆ หรือเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเกิดจากการการไม่มีตัวกลางในการควบคุม จึงทำให้การหาคนรับผิดชอบหรือตามเงินกลับมามีความเป็นไปได้น้อย
การ ‘Rug Pull’ ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมายโดนจับในฐานฟอกเงิน ฉ้อโกง ไปจนถึงการตามจับด้วยหมายแดงจากตำรวจสากล ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นข้อหาที่ร้ายแรง และเป็นการเอาผิดที่ตามจับได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายเคสที่ตามจับไม่ได้ และยังลอยนวลอยู่ อย่างไรก็ตามถึงแม้จะยังมีการโกงหรือการทำผิดกฏหมาย การลงทุนคริปโตฯ ยังคงเป็นการลงทุนที่ดึงดูดนักเทรดให้เข้ามาลงทุนในตลาด เพราะหากเข้าใจและศึกษามาอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ก็สามารถลดการเจอเหตุการณ์ฉ้อโกงได้ และป้องกันได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
Share this
- Bitazza Blog (96)
- Crypto Weekly (44)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- Tether (USDt) (8)
- บล็อกเชน (8)
- bitcoin (7)
- missions (7)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Campaigns (3)
- Security (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Stablecoin (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- ENJ (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- KYC (1)
- NFTs (1)
- SEC (1)
- Social Features (1)
- TRUMP (1)
- TradingView (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)
Subscribe by email

Trump Media เตรียมระดมทุนซื้อ Bitcoin 2.5 พันล้านดอลลาร์และยื่นจัดตั้ง Bitcoin ETF

RSI คืออะไร? เจาะลึกอินดิเคเตอร์ยอดฮิต เข้าใจภายใน 5 นาที

Swap คืออะไร? ทำไมสาย DeFi ต้องรู้ก่อนพลาดโอกาสในโลกคริปโต

Yield คืออะไร? เข้าใจผลตอบแทนแบบนักลงทุนมือโปร

IPO คืออะไร? รู้ก่อนลงทุนในหุ้นน้องใหม่

อุปทาน (Supply) คืออะไร? ทำไมส่งผลต่อราคาสินทรัพย์

SSF คืออะไร? ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ เหมาะกับใคร?

Ultron Coin คืออะไร? ทำความรู้จักกับเหรียญดิจิทัลมาแรงในปี 2025

Bitazza on the Road! โพสต์ภาพเราบนถนนในกรุงเทพ รับเมิร์ชสุดคูล
