ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกของบล็อกเชนได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (DApps) ทั้งในรูปแบบ DeFi, NFT ไปจนถึงเกมบล็อกเชน ต่างก็ต้องพึ่งพาข้อมูลจากโลกภายนอกเพื่อให้ทำงานได้อย่างแม่นยำ แต่ Smart Contract ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้โดยตรง
Chainlink หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Chain Link จึงเข้ามาเป็นตัวกลางสำคัญ และหนึ่งในหัวใจหลักของระบบนี้ก็คือ LINK coin – เหรียญดิจิทัลที่ใช้ในการให้รางวัล, ค้ำประกัน และเป็นค่าสำหรับเรียกใช้งานข้อมูลจากโลกจริง
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า LINK coin คืออะไร มีบทบาทอย่างไรในระบบ Link Chain พร้อมสรุปข่าวสารล่าสุด ประโยชน์ของเหรียญ LINK วิธีซื้อ และแนวโน้มในอนาคตที่นักลงทุนไม่ควรพลาด ถ้าพร้อมแล้วสไลด์หน้าจอดูพร้อม ๆ กันเลย
Chainlink เปิดตัวโปรแกรม “Build on Solana” เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Web3 และระบบ Oracle บนเครือข่าย Solana ซึ่งมีจุดเด่นด้านความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ โครงการนี้จะช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถใช้บริการ Oracle, Automation และข้อมูลแบบเรียลไทม์จาก Chainlink ได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นการเปิดประตูสำคัญสำหรับการนำเหรียญนี้ไปใช้ในระบบ DeFi, GameFi และ DApps ต่าง ๆ บน Solana
จากบทวิเคราะห์ของ Brave New Coin พบว่า LINK coin กำลังเคลื่อนไหวใกล้แนวต้านสำคัญที่ $21.99 โดยมีแรงหนุนจากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในแพลตฟอร์ม DeFi ชั้นนำ เช่น Aave และ Synthetix นอกจากนี้ โครงการอย่าง Chainlink BUILD และ SCALE ยังช่วยขยายการใช้งานจริงของ Oracle Network ให้หลากหลายมากขึ้น หาก LINK ยืนเหนือระดับ $18.50 ได้ในระยะสั้น มีแนวโน้มเกิด “breakout” สู่ระดับราคาที่สูงขึ้นในไตรมาสหน้า
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ On-chain รายงานว่า มีการโอนเหรียญ LINK มากกว่า 300,000 เหรียญ (มูลค่าราว 6 ล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (CEX) ภายในวันเดียว สถานการณ์นี้อาจสะท้อนถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนรายใหญ่ (whales) และสร้างแรงกดดันต่อราคาตลาดในระยะสั้น นักลงทุนจึงควรติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
LINK Coin คือโทเคนดิจิทัลของเครือข่าย Chainlink ซึ่งเป็นระบบ Decentralized Oracle Network ที่ช่วยให้ Smart Contract สามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลจากโลกภายนอกได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำ เช่น ราคาคริปโต ผลกีฬา หรือข้อมูลทางการเงิน ที่ Smart Contract ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรง
บทบาทหลักของเหรียญนี้ คือ ใช้เป็น ค่าตอบแทน สำหรับผู้ให้บริการข้อมูล (Oracles), เป็น ค่าธรรมเนียม สำหรับการเข้าถึงข้อมูล และใช้เป็น หลักประกัน (staking) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในระบบ
แม้จะพัฒนาบน Ethereum (ERC-677) แต่ LINK สามารถใช้งานข้ามเครือข่าย เช่น BNB Chain, Polygon และ Solana ทำให้เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน Web3 ที่ต้องการข้อมูลเรียลไทม์ที่เชื่อถือได้
Chainlink มีบทบาทเป็น “สะพานข้อมูล” ระหว่างโลกจริงกับบล็อกเชน โดยนำข้อมูลภายนอก เช่น ราคาสินทรัพย์ ข่าวเศรษฐกิจ หรือผลกีฬา มาเชื่อมต่อกับ Smart Contract ที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้เองโดยตรง บริการนี้ทำให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำงานได้อย่างอัตโนมัติและแม่นยำ
ระบบของ Chainlink ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายใน DeFi เช่น การอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์, ใน NFT เช่น การสุ่มคุณสมบัติอย่างโปร่งใส และในระบบ GameFi, Insurance, Cross-chain ที่ต้องใช้ข้อมูลนอกบล็อกเชนแบบน่าเชื่อถือ จึงกล่าวได้ว่า Chainlink เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของโลก Web3
ผู้ให้บริการข้อมูล (Oracles) จะได้รับเหรียญ LINK เป็นรางวัลตอบแทนเมื่อส่งข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้เข้าสู่ระบบ Chainlink สิ่งนี้เป็นแรงจูงใจสำคัญที่ช่วยให้เครือข่ายมีข้อมูลที่แม่นยำ ปลอดภัย และไม่ถูกควบคุมโดยศูนย์กลาง
เพื่อให้ข้อมูลที่ส่งเข้าระบบมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น Oracles จะต้องวางเหรียญ LINK เป็นหลักประกัน หากส่งข้อมูลผิดพลาดหรือมีเจตนาไม่โปร่งใส อาจถูกหักเหรียญบางส่วนในกระบวนการที่เรียกว่า “slashing” ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน
นักพัฒนาและแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้ข้อมูลจาก Chainlink จำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็น LINK Token เพื่อเรียกใช้งานข้อมูลภายนอก เช่น ราคาสินทรัพย์หรือค่าความสุ่ม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานของระบบ DeFi, NFT, และ GameFi
ผู้ถือ LINK มีสิทธิในการมีส่วนร่วมกับทิศทางของเครือข่ายในอนาคต ทั้งผ่านระบบการมีส่วนร่วม (เช่น staking node) และการแสดงความเห็นในการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้ LINK ไม่ใช่แค่โทเคนใช้งาน แต่ยังเป็นโทเคนที่มีบทบาทในการกำกับดูแลระบบ
Chainlink ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการ Oracle ทั่วไป แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้โลกของบล็อกเชนสามารถทำงานร่วมกับข้อมูลจริงได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ โดยเฉพาะในยุคที่แอปพลิเคชัน Web3 ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งในภาคการเงินดิจิทัล เกม สินทรัพย์ดิจิทัล และการสื่อสารข้ามเครือข่าย การใช้งานของเหรียญนี้ จึงครอบคลุมหลายด้าน และกำลังกลายเป็นมาตรฐานในหลากหลายโปรเจกต์คริปโต
ด้านล่างนี้คือกรณีการใช้งานหลักที่โดดเด่นของเหรียญนี้ ในโลกบล็อกเชนปัจจุบัน
แนวโน้มราคา LINK Coin ในปี 2025 สะท้อนมุมมองที่หลากหลายจากนักวิเคราะห์ในวงการคริปโต โดย CoinPedia มองในเชิงบวกว่า หาก Chainlink สามารถขยายการใช้งานได้ต่อเนื่องในภาค DeFi และได้รับความร่วมมือจากองค์กรขนาดใหญ่ ราคาของ LINK อาจพุ่งขึ้นไปถึง $47 ได้ในปีนี้ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $39 และแนวรับที่ $31
ขณะที่ Changelly ให้มุมมองที่ระมัดระวังกว่า โดยคาดว่า LINK อาจอยู่ในช่วง $16.04 – $19.17 ซึ่งสะท้อนความไม่แน่นอนจากตลาดคริปโตโดยรวม รวมถึงปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายกำกับดูแล
ทางด้าน CoinCodex เสนอกรอบราคากลางที่ $18.31 – $33.16 โดยอิงจากการวิเคราะห์เชิงเทคนิคและแนวโน้มตลาดในปัจจุบัน ซึ่งมองว่าราคาน่าจะค่อย ๆ เติบโตแบบมีเสถียรภาพ
โดยสรุป LINK Coin ยังคงมีศักยภาพการเติบโตในฐานะโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของระบบ Web3 และ DeFi แต่ก็ยังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากตลาดโลก ความผันผวนของคริปโต และทิศทางเศรษฐกิจ นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยงควบคู่กับโอกาสก่อนตัดสินใจลงทุน
แม้ว่า LINK Coin จะมีบทบาทสำคัญในระบบ Chainlink และได้รับความนิยมในโลกคริปโต แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ควรพิจารณาก่อนลงทุน โดยเฉพาะความผันผวนของราคา ล่าสุด CCN รายงานว่ามีการโอนเหรียญ LINK จำนวนมากเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแรงขายและกดดันราคาลงต่ำกว่าระดับ $14.98
ด้านเทคโนโลยี PrimeXBT เตือนว่าหากมีช่องโหว่ในระบบ Oracle หรือถูกโจมตี อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของเครือข่าย และยังมีการแข่งขันจากโปรเจกต์อื่นอย่าง Band และ API3 ที่อาจแย่งส่วนแบ่งตลาด
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางกฎหมายยังเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบต่อการใช้งานของ LINK Coin โดยเฉพาะในตลาดที่มีการควบคุมเข้มงวด Securities.io ก็ชี้ประเด็นนี้ไว้ชัดเจน
สุดท้าย ยังมีคำถามจากเทรดเดอร์บางส่วนเกี่ยวกับบทบาทของ LINK Token ในฝั่งผู้ใช้งานทั่วไป ว่าจำเป็นต้องถือเหรียญจริงหรือไม่จึงจะได้ประโยชน์จากระบบ Chainlink ก็เป็นอีกประเด้นที่น่าจะเก็บไปคิดและตัดสินใจต่อ โดยรวมแล้ว LINK Coin เป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ แต่ก็ควรลงทุนอย่างมีข้อมูลและระมัดระวังในทุกมิติ
คู่แข่งในตลาด Oracle เช่น Band Protocol (จากเอเชีย) ที่เน้นความเร็วและต้นทุนต่ำ และ API3 ที่ผลักดันแนวคิด “First-party Oracle” คือให้เจ้าของข้อมูลส่งตรงเข้าบล็อกเชนโดยไม่ผ่านคนกลาง ทั้งสองโปรเจกต์พยายามแก้จุดอ่อนที่อาจมีในระบบ Chainlink เช่น ค่าธรรมเนียมหรือการรวมศูนย์ของ Node บางกลุ่ม อย่างไรก็ตามระบบนี้ ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดด้วยการรองรับหลายบล็อกเชนและพันธมิตรเชิงลึกกับ DeFi รายใหญ่
LINK Coin มีจำนวนจำกัดที่ 1,000,000,000 เหรียญ โดยถูกสร้างทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น และไม่มีการขุดเพิ่ม (pre-mined) เหรียญส่วนใหญ่กระจายอยู่ในตลาดและอีกส่วนถือโดยทีมพัฒนาและใช้ในระบบ เช่น staking และรางวัลสำหรับ Oracle การมี Supply จำกัดนี้ช่วยควบคุมเงินเฟ้อ และอาจส่งผลเชิงบวกต่อราคาหากความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้น
LINK Coin เป็นโทเคนที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูลจากโลกภายนอกเข้าสู่สมาร์ตคอนแทรกต์บนบล็อกเชน ผ่านเครือข่าย Chainlink ซึ่งเป็นระบบ Decentralized Oracle Network ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการคริปโต ด้วยจุดเด่นด้านความน่าเชื่อถือ ความแม่นยำ และความปลอดภัยของข้อมูล
LINK ถูกนำไปใช้ในระบบ DeFi เช่น การคำนวณราคาสินทรัพย์แบบเรียลไทม์, ใน NFT สำหรับการสุ่มคุณสมบัติอย่างโปร่งใส รวมถึง Cross-chain เพื่อให้บล็อกเชนต่างระบบสามารถสื่อสารกันได้ ขณะเดียวกัน Chainlink ก็ยังขยายพันธมิตรกับองค์กรระดับโลก เช่น SWIFT และ Google Cloud ซึ่งยิ่งตอกย้ำบทบาทในโลก Web3
ด้วยศักยภาพดังกล่าว LINK Coin จึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในโทเคนที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยง เช่น ความผันผวนของตลาด, การแข่งขันจาก Oracle อื่น ๆ และข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ ควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้สามารถบริหารความเสี่ยงและโอกาสได้อย่างเหมาะสม
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
อ้างอิง