Bitazza Thailand Blog

คริปโต เล่นยังไง? คู่มือเริ่มต้นสู่การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี

เขียนโดย Bitazza Team - 30 ก.ย. 2025, 5:45:59

 

โลกของคริปโตเคอร์เรนซีได้กลายเป็นหนึ่งในหัวข้อด้านการลงทุนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในทศวรรษนี้ ด้วยโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงเช่นกัน คำถามที่ว่า "คริปโต เล่นยังไง" จึงเป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายคนที่ต้องการก้าวเข้ามาในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล บทความนี้คือคู่มือที่จะช่วยปูพื้นฐานและอธิบายขั้นตอนการเริ่มต้นลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจและเข้าใจในสิ่งที่กำลังจะลงทุน

 

คริปโตคืออะไร

คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "คริปโต" คือสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ประเภทหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัส (Cryptography) เพื่อความปลอดภัย และทำงานอยู่บนเทคโนโลยีที่เรียกว่า "บล็อกเชน" (Blockchain)

หัวใจสำคัญของคริปโตคือการเป็นระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ซึ่งหมายความว่าไม่มีตัวกลาง เช่น ธนาคารหรือสถาบันการเงิน มาควบคุมการทำธุรกรรม ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกและตรวจสอบโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ทำให้มีความโปร่งใสและเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ยาก สกุลเงินคริปโตที่รู้จักกันดีที่สุดคือ Bitcoin (BTC) และยังมีเหรียญอื่น ๆ อีกหลายพันสกุลที่เรียกรวมกันว่า Altcoins เช่น Ethereum (ETH), Solana (SOL), และอีกมากมาย

 

 

คริปโต เล่นยังไง

คำว่า "เล่นคริปโต" โดยส่วนใหญ่หมายถึงการ "ซื้อขาย" หรือ "เทรด" คริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มตัวกลางที่เรียกว่า Exchange ซึ่งเป็นเหมือนตลาดหรือกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงาน ก.ล.ต. ในประเทศไทย

สำหรับแพลตฟอร์มอย่าง Bitazza ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการในไทยที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.ล.ต. ขั้นตอนพื้นฐานจะคล้ายคลึงกัน คือ ผู้ใช้ต้องสมัครเปิดบัญชี, ยืนยันตัวตน, ฝากเงินบาทเข้าไปในระบบ, จากนั้นจึงนำเงินบาทนั้นไปแลกเปลี่ยนหรือซื้อเหรียญคริปโตที่ต้องการ เมื่อซื้อเหรียญมาแล้ว ก็สามารถถือครองไว้รอราคาปรับตัวขึ้น หรือจะทำการซื้อขายเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาก็ได้ แพลตฟอร์ม Bitazza เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ และสะดวกรวดเร็ว สามารถซื้อขายได้ทั้งทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น

 

 

วิธีการเริ่มต้นเล่นคริปโต

การเริ่มต้นเข้าสู่โลกคริปโตมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน สามารถสรุปได้ดังนี้

  1. สมัครเปิดบัญชี Exchange:

    ขั้นตอนแรกคือการเลือกผู้ให้บริการ Exchange ที่น่าเชื่อถือและได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ในประเทศไทย จากนั้นทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือเข้าไปที่เว็บไซต์เพื่อทำการสมัครสมาชิก โดยกรอกข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้น เช่น อีเมลและตั้งรหัสผ่าน

  2. ยืนยันตัวตน (KYC):

    KYC ย่อมาจาก "Know Your Customer" เป็นกระบวนการที่ผู้ให้บริการต้องทำการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของลูกค้าตามกฎหมายเพื่อป้องกันการฟอกเงิน ผู้สมัครจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน และทำการถ่ายรูปใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนตามขั้นตอนที่แพลตฟอร์มกำหนด เมื่อการยืนยันตัวตนเสร็จสมบูรณ์ บัญชีก็จะพร้อมใช้งาน

  3. ฝากเงินหรือเชื่อมบัญชีธนาคาร:

    หลังจากบัญชีผ่านการอนุมัติแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการฝากเงินบาท (THB) เข้าไปยังบัญชี Exchange ของตนเอง โดยส่วนใหญ่มักทำผ่าน Mobile Banking ด้วยระบบ QR Code หรือการโอนเงินเข้าบัญชีที่กำหนด เมื่อเงินเข้าสู่ระบบแล้ว ก็จะพร้อมสำหรับการซื้อขายเหรียญคริปโต

 

 

การซื้อขายคริปโต

เมื่อมีเงินบาทในบัญชีแล้ว ก็สามารถเริ่มต้นการซื้อขายได้

  • การซื้อเหรียญด้วยเงินบาทหรือ USDT:

    ผู้ใช้สามารถนำเงินบาทไปซื้อเหรียญคริปโตที่ต้องการได้โดยตรง เช่น ซื้อ Bitcoin (BTC) หรือ Ethereum (ETH) นอกจากนี้ ในตลาดคริปโตยังมีสิ่งที่เรียกว่า Stablecoin ซึ่งเป็นเหรียญที่มีมูลค่าคงที่อ้างอิงกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น USDT (Tether) นักเทรดจำนวนมากนิยมแลกเงินบาทเป็น USDT ก่อน เพื่อใช้ในการซื้อขายเหรียญอื่น ๆ ต่อไป เพราะเป็นคู่เทรดที่ได้รับความนิยมและมีสภาพคล่องสูง

  • การเทรดแบบ Spot และ Futures:

    • Spot: คือการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบปกติ เป็นการซื้อมาขายไปตามราคาตลาด ณ ขณะนั้น เมื่อซื้อเหรียญแล้วก็จะได้เหรียญนั้นมาครอบครองจริง ๆ เหมาะสำหรับมือใหม่และนักลงทุนระยะยาว
    • Futures: คือการซื้อขาย "สัญญา" ที่อ้างอิงกับราคาสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โดยที่ไม่จำเป็นต้องถือครองเหรียญจริง ๆ และสามารถใช้ "Leverage" หรืออัตราทดเพื่อเพิ่มกำลังซื้อได้ ซึ่งหมายถึงโอกาสทำกำไรที่สูงขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นมากเช่นกัน และไม่เหมาะสำหรับมือใหม่

  • การเก็บรักษาเหรียญใน Wallet:

    หลังจากซื้อเหรียญแล้ว สินทรัพย์จะถูกเก็บไว้ใน Wallet ของ Exchange ซึ่งสะดวกต่อการซื้อขาย แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับการถือครองระยะยาว นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะโอนเหรียญไปเก็บไว้ใน "กระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนตัว" (Personal Wallet) ซึ่งมีทั้งแบบซอฟต์แวร์บนมือถือ/คอมพิวเตอร์ (Software Wallet) และแบบฮาร์ดแวร์ที่จับต้องได้คล้าย USB (Hardware Wallet) ซึ่งจะให้สิทธิ์ในการควบคุมสินทรัพย์อย่างเต็มที่

 

วิธีการลงทุนคริปโต

นอกจากการซื้อขายเก็งกำไร ยังมีวิธีการลงทุนในคริปโตอีกหลากหลายรูปแบบ

  • ซื้อแล้วถือ (HODL): เป็นกลยุทธ์ที่เรียบง่ายที่สุด คือการซื้อเหรียญที่มีพื้นฐานดีและเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาว แล้วถือครองไว้โดยไม่ขาย แม้ราคาจะมีความผันผวนในระยะสั้นก็ตาม
  • การเทรด (Trading): คือการซื้อขายเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นถึงกลาง ซึ่งต้องอาศัยความรู้ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
  • Staking / Yield Farming: เป็นรูปแบบการสร้างผลตอบแทนที่คล้ายกับการฝากเงินกินดอกเบี้ย โดยการนำเหรียญที่เราถืออยู่ไป "Stake" หรือฝากไว้ในระบบของเครือข่ายบล็อกเชนนั้น ๆ เพื่อช่วยตรวจสอบธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย โดยจะได้รับรางวัลเป็นเหรียญเพิ่มเติมกลับมา
  • NFT และ GameFi: เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น ๆ ที่อยู่บนบล็อกเชน NFT (Non-Fungible Token) คือสินทรัพย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว เช่น งานศิลปะ หรือไอเท็มในเกม ส่วน GameFi คือเกมที่ผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จากการเล่นเกมได้จริง (Play-to-Earn)

 

 

เครื่องมือและความรู้ที่ควรมี

  • การอ่านกราฟแท่งเทียน: เพื่อทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • Indicator ต่าง ๆ: เช่น Moving Average (MA), Relative Strength Index (RSI) เป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและความแข็งแกร่งของราคา เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อขาย
  • การใช้ข่าวสารและวิเคราะห์ตลาด: การติดตามข่าวสารในวงการคริปโต ทั้งข่าวเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญนั้น ๆ และภาพรวมเศรษฐกิจโลก เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะราคามีความอ่อนไหวต่อข่าวสารมาก

 

ความเสี่ยงและสิ่งที่ควรระวังก่อนลงทุนในคริปโต

  • ความผันผวนของราคา: ราคาคริปโตสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว ต้องเตรียมใจยอมรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้
  • การหลอกลวง (Scams): มีมิจฉาชีพจำนวนมากที่สร้างโปรเจกต์ปลอมหรือหลอกลวงให้นำเหรียญไปลงทุน ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและลงทุนผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
  • กฎระเบียบที่ไม่แน่นอน: กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเป็นเรื่องใหม่และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

 

คำถามที่พบบ่อยการลงทุนในคริปโต

  • คริปโต เล่นยังไงให้ไม่ขาดทุน

ไม่มีการลงทุนใดที่การันตีว่าจะไม่ขาดทุน แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการกระจายความเสี่ยง (ไม่ลงทุนในเหรียญเดียว), การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และลงทุนด้วยเงินเย็น คือเงินที่พร้อมจะสูญเสียได้โดยไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต

  • มือใหม่ควรเริ่มซื้อเหรียญไหน

สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นศึกษาและลงทุนในเหรียญขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เช่น Bitcoin (BTC) ซึ่งเปรียบเสมือนทองคำดิจิทัล และ Ethereum (ETH) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดและมีแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) ทำงานอยู่มากมาย

  • ลงทุนคริปโตเริ่มต้นกี่บาท

แพลตฟอร์ม Exchange ในไทยส่วนใหญ่ไม่มีกำหนดยอดฝากขั้นต่ำ หรือมีในระดับที่ต่ำมาก และสามารถเริ่มต้นซื้อขายได้ด้วยเงินเพียง 10 บาท ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตได้

  • เล่นคริปโตเสียภาษีไหม

การลงทุนในคริปโตมีภาระทางภาษี กำไรจากการขายหรือเทรดคริปโตถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 4 ซึ่งต้องนำไปคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี อย่างไรก็ตาม ควรติดตามประกาศล่าสุดจากกรมสรรพากร เนื่องจากกฎเกณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

 

Conclusion

การเริ่มต้นลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยการศึกษา ความเข้าใจ และการตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงสูงอยู่เสมอ การเริ่มต้นจากขั้นตอนพื้นฐาน ตั้งแต่การเลือก Exchange, การยืนยันตัวตน, ไปจนถึงการเรียนรู้วิธีการซื้อขายและกลยุทธ์ต่าง ๆ จะเป็นรากฐานที่สำคัญในการเดินทางในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล สิ่งสำคัญที่สุดคือการลงทุนด้วยความรู้ และลงทุนในจำนวนเงินที่ยอมรับความเสี่ยงได้เท่านั้น

 

 

คำเตือน

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด

 

Ref: www.sec.or.th

coinmarketcap.com