Bitazza Thailand Blog

Ethereum คืออะไร เหรียญ ETH ยังน่าลงทุนหรือไม่

Ethereum symbol yellow and black triangular structure under cloudy sky during sunset

 

ไม่ว่ากระแสการลงทุนปัจจุบันจะเป็นอย่างไร Ethereum คือ อีกหนึ่งชื่ออันดับต้น ๆ ของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องได้ยินและรู้จักเป็นวงกว้าง บทความนี้ จะพามาทำความรู้จักว่า Ethereum คืออะไร มีเทคโนโลยีอะไรบ้าง นำไปใช้แบบไหน ข้อดีและข้อจำกัดของ Ethereum ต้องพิจารณาเรื่องอะไรเหรียญ ETH มีแนวโน้มราคาเป็นอย่างไรบ้าง แล้ววิธีการซื้อเหรียญต้องทำอย่างไร

 


ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ Ethereum 

  • Ethereum กำลังพิจารณาข้อเสนอ EIP-9698 เพื่อเพิ่มขีดจำกัดของ gas limit จาก 30 ล้าน เป็น 3 พันล้านภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผลธุรกรรม และรองรับการขยายตัวของเครือข่ายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน Ethereum Foundation และการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคอื่น ๆ ที่สำคัญ

  • Blockchain News รายงานว่า Ethereum แสดงสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มราคาขาขึ้น โดยมีปริมาณการซื้อขายและกิจกรรมบนเครือข่ายเพิ่มขึ้น เช่น จำนวน Address ที่ใช้งานรายวันเพิ่มขึ้น 12% การฝากเหรียญเพื่อ Staking เพิ่มขึ้น 8,000 ETH ภายใน 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว

  • ในเดือนเมษายน 2025 Ethereum ครองส่วนแบ่ง 60% ของมูลค่าทรัพย์สินจริง (Real-World Assets - RWA) ที่ถูกโทเคน ซึ่งแสดงถึงการยอมรับที่เพิ่มขึ้นของ Ethereum ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้กับสินทรัพย์ในโลกจริง อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาความสามารถในการขยายตัวของเครือข่ายที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตในอนาคต

 


Ethereum coin gold and black star print round ornament

 

Ethereum คืออะไร

Ethereum คือ แพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์หรือ Decentralized โดยพัฒนาและสร้างเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีของเครือข่ายออกมาชื่อว่าเหรียญ Ether (ETH) เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยให้เครือข่าย Ethereum สร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมดิจิทัล 

หากเทียบกับ Bitcoin แล้ว ทั้งสองเหรียญนี้ต่างมีทั้งจุดเหมือนและจุดต่างอันเป็นทั้งข้อดีและข้อจำกัดของเครือข่ายตน ทั้งนี้ Ethereum ใช้กลไกตรวจสอบธุรกรรมแบบ Proof-of-Stake อีกทั้งยังถือเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่เน้นหลักพัฒนาเริ่มต้นมาจากบล็อกเชนอีกด้วย

 


Ethereum and bitcoin

 

ความแตกต่างระหว่าง Ethereum กับ Bitcoin

จริง ๆ แล้ว ทั้ง Ethereum และ Bitcoin ต่างมีจุดเหมือนร่วมกันหลายอย่าง แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีจุดต่างให้พิจารณาและน่าสนใจไม่น้อยทั้งในกลุ่มนักลงทุนและนักพัฒนา 

หากว่ากันถึงการวาง Position ของเครือข่ายและเหรียญ ฝั่งผู้ก่อตั้ง Ethereum มองว่าเครือข่ายของตนมุ่งเน้นสู่การเป็น “เครือข่ายบล็อกเชนที่ติดตั้งโปรแกรมในระดับโลก” กล่าวคือ พวกเขาต่างมองว่า Ethereum จะกลายเป็นเครือข่ายที่นักพัฒนาสามารถเข้าถึง Ethereum เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันจาก Resource ที่มีได้ ในขณะที่ Bitcoin มุ่งสร้างขึ้นมา เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้เป็นสื่อกลางชำระเงินที่นอกเหนือไปจากการใช้สื่อกลางจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม 

นอกจากนี้ จำนวนเหรียญบิตคอยน์ก็มีปริมาณหมุนเวียนในเครือข่ายจำกัด ซึ่งปริมาณหมุนเวียนของเหรียญอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ ในขณะที่อีเธอเรียมจะถูกสร้างขึ้นมาได้ไม่จำกัด 

ที่สำคัญ ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมของทั้งสองเครือข่ายถือเป็นจุดต่างสำคัญ กล่าวคือ ค่าธรรมเนียมหรือค่าแก๊สของเครือข่ายอีเธอเรียมจะเป็นความรับผิดชอบของผู้เข้าร่วมทำธุรกรรมบนเครือข่าย และจะเครือข่ายเผาไป ต่างจากเครือข่ายบิตคอยน์ที่นักขุดจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนั้นแทน

 


Ethereum 2.0

 

Ethereum 2.0 คืออะไร

Ethereum 2.0 คือ เครือข่ายอีเธอเรียมแบบอัปเกรดขึ้นมาอีกขั้น ถือเป็นต้นแบบการเปลี่ยนผ่านจากกลไกการตรวจสอบธุรกรรมจาก Proof-of-Stake มาเป็น Proof-of-Work จุดมุ่งหมายของ Ethereum 2.0 คือต้องการยกระดับเครือข่ายให้ดีขึ้น ทั้งในแง่ของการปรับตัวของเครือข่าย การเข้าถึงเครือข่าย รวมทั้งความราบรื่นในการทำธุรกรรม 

ทั้งนี้ Ethereum 2.0 จะต้องดำเนินการอัปเกรดอีกหลายครั้ง เพื่อให้เวอร์ชันของเครือข่ายนี้ที่สมบูรณ์ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพทำงานของเครือข่ายให้ทำธุรกรรมได้มากกว่า 100,000 ธุรกรรมต่อวินาที 

 


เทคโนโลยีเบื้องหลัง Ethereum

จริง ๆ แล้ว เครือข่าย  Ethereum ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาในเครือข่ายหลายอย่าง ดังนี้

  • Smart Contracts คืออะไร

Smart Contracts คือ โปรแกรมที่ติดตั้งและดำเนินการบนบล็อกเชน Ethereum ถือเป็นชุดข้อมูลและโค้ดที่อยู่ใน Address เฉพาะของเครือข่าย มีส่วนสำคัญในการใช้ทำข้อมูลธุรกรรม การทำงานของ Smart Contracts จะทำงานด้วยโปรแกรมที่ได้รับการป้อนข้อมูลมาแล้ว ไม่ต้องมีคนหรือผู้ใช้งานอื่นมาควบคุมการทำงาน นอกจากนี้ Smart Contracts ยังช่วยกำหนดกฎเกณฑ์และบังคับปรับใช้ผ่านโค้ดอัตโนมัติ ไม่สามารถลบข้อมูลหรือแก้ไขได้ 

  • dApps (Decentralized Applications)

dApps มีเป้าหมายสู่การมุ่งเน้นการสร้างบริการทางการเงินที่ใช้เหรียญคริปโคเคอร์เรนซี ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการให้ยืม ยืม เก็งกำไร และชำระใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัว 

  • Ethereum Virtual Machine (EVM)

Ethereum Virtual Machine หรือ EVM ถือเป็นโปรแกรมที่เอื้อให้เกิดโลกเสมือนของการเงินแบบกระจายศูนย์ โดยจะใช้การจัดการผ่านโค้ดผ่านโหนดต่าง ๆ ภายในเครือข่าย Ethereum โหนดจะเรียกใช้งาน EVM จากนั้น EVM จะดำเนินการกับ Smart Contracts หน่วยการทำงานจะใช้ว่า “แก๊ส” เพื่อวัดประสิทธิภาพในการคำนวณสำหรับการดำเนินการต่าง ๆ มีส่วนช่วยในการจัดสรรทรัพยากรและรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย 

 


Ethereum Crypto Currency Coin

 

การใช้งาน Ethereum ในชีวิตจริง

เมื่อว่ากันถึงการประยุกต์ใช้ Ethereum แล้ว เหรียญนี้ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างกว้าวขวาง ดังนี้ 

  • Ethereum ในเกม

Ethereum ถูกนำไปปรับใช้กับเกมโลกเสมือน ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ Decentraland เกมบล็อกเชนว่าด้วยการซื้อขายที่ดินในโลกเสมือนนั้นใช้งานเครือข่ายบล็อกเชน Ethereum เพื่อรักษาความปลอดภัยของไอเทมต่าง ๆ ภายในเดม นอกจากนี้ ตัวอวตาร เครื่องแต่งกาย ตึกอาคาร และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในเกมก็ยังถูกทำออกมาในรูปของโทเคน ซึ่งใช้เป็นสื่อกลางแสดงความเป็นเจ้าของ

  • Ethereum กับ NFTs 

NFTs ใช้โทเคนแทนดิจิทัลไอเทม ซึ่งโทเคนดังกล่าวใช้ Ethereum ในการสร้างขึ้นมา โดยโทเคน 1 โทเคน จะแทนดิจิทัลไอเทมที่มาพร้อม Private Key ทำให้เจ้าของ NFTs จะมีสิทธิถือครองงาน NFTs แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ งาน NFTs จะนำไปขายหรือเทรดก็ได้ ซึ่งจะทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายบล็อกเชน เมื่อเครือข่ายตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมแล้ว กรรมสิทธิเจ้าของงานก็จะถ่ายโอนไปยังอีกฝ่ายอย่างถูกต้อง

หากว่ากันถึงงาน NFTs แล้วนั้น ต้องยอมรับว่า ถูกนำไปปรับใช้ในหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา Trading Card ไปจนถึงวิดีโอ

  • The Development of DAOs

Decentralized Autonomous Organization หรือ DAOs คือ วิธีการตัดสินใจร่วมกันของทั้งเครือข่าย เป้าหมายของการสร้าง DAOs นั้น ก็เพื่อตอบสนองหลายเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา Web 3 ทำเกม หรือการลงทุน โดย DAOs สามารถใช้งาน Smart Contracts และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อรวบรวมจำนวนโหวตจากเหล่าสมาชิก ลงทุนกิจการต่าง ๆ ตามเสียงโหวตข้างมาก และสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ โดยไม่ต้องใช้การตัดสินจากบุคคลที่สาม 

 


 

วิธีซื้อ Ethereum ในประเทศไทยผ่าน Bitazza 

หากใครสนใจลงทุนเหรียญ ETH นอกจากศึกษาความเป็นไปของตลาด ทิศทางและแนวโน้มราคาของสินทรัพย์แล้ว การเลือกแพลตฟอร์ม Exchage ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดย Bitazza  เป็นอีกทางเลือกของแพลตฟอร์มการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย โดยสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนได้ง่าย ๆ ดังนี้ 

  • สมัครสมาชิกกับ Bitazza ลงทะเบียนเปิดบัญชีสำหรับใช้งานในเว็บไซต์ Bitazza 
  • เข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่ใช้ลงทะเบียน พร้อมตรวจสอบการเปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตน 2FA 
  • เข้าใช้งานเมนู “ตลาด” เพื่อสำรวจความเป็นไปของตลาดและราคาสินทรัพย์ 
  • เลือกคู่สินทรัพย์เหรียญที่ต้องการซื้อ โดยปัจจุบันระบบรองรับการจับคู่เหรียญ  ETH/THB 
  • พิจารณาความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ของคู่เหรียญที่เลือก โดยจะแสดงผลออกมาเป็นกราฟหลากหลายรูปแบบ 
  • เมื่อพิจารณาจนตัดสินใจได้แล้ว ให้เลือกปุ่ม “ซื้อ” เพื่อกรอกรายละเอียดข้อมูลอื่น ๆ ต่อไป 
  • ระบุราคาสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อ พร้อมใส่จำนวนเหรียญที่ต้องการซื้อ เมื่อตรวจสอบรายละเอียดเรียบร้อยแล้วนั้น ให้ยืนยันรายละเอียด
  • ระบบจะดำเนินการทำธุรกรรม โดยอัปเดตยอดเงินอัตโนมัติ ถือเป็นการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น

 


ข้อดีและข้อเสียของ Ethereum

แม้ Ethereum จะได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโตที่ได้รับความสนใจจากนักเทรดและนักลงทุนไม่น้อย แต่ก่อนพิจารณาซื้อเหรียญนั้น ควรศึกษาถึงข้อดีและข้อจำกัดของเหรียญนี้ให้ดี ดังนี้ 

ข้อดีของ Ethereum

  • เครือข่าย Ethereum ดำเนินการภายใต้แนวคิด Decentralized หรือกระจายศูนย์ กล่าวคือ เครือข่ายจะไม่ขึ้นอยู่กับการผูกขาดอำนาจที่ส่วนกลางหรือใครคนใดคนหนึ่ง ส่งผลให้ผู้ใช้งานบนเครือข่ายเกิดความเชื่อใจกัน รวมทั้งระบบเกิดความปลอดภัยภายในเครือข่าย ที่สำคัญ จะมั่นใจได้ว่าทุกการทำธุรกรรมจะได้รับการเข้ารหัสและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้เอง 

  • เครือข่ายยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนการดำเนินการได้ โดยนักพัฒนาสามารถสร้าง dApps และโทเคนต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับกรณี Use Case ได้ เพราะเครือข่าย Ethereum มีนวัตกรรมอย่าง Solidity Programming Language ช่วยซัพพอร์ตการใช้งาน Smart Contracts ข้อดีข้อนี้ยังนำไปสู่โอกาสการสร้างโปรเจกต์ใหม่ ๆ อีกหลากหลายอย่าง ซึ่งรวมไปถึงการสร้างแพลตฟอร์ม DeFi, NFTs และมาร์เก็ตเพลสอีกมากมาย 

  • Ethereum ยังคงเติบโตและขยายเครือข่ายของระบบนิเวศอยู่ อย่างที่รู้กันดีว่า เครือข่าย Ethereum ได้ชื่อว่าเป็น Open-Source ที่เปิดให้นักพัฒนาเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ จนนำไปสู่การพัฒนาโปรเจกต์ โปรโตคอล และอีกหลายอย่าง ทั้งนี้ การปรับใช้โทเคนหรือ dApps ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งดึงดูดให้นักลงทุนและผู้ใช้งานเข้ามาร่วมกับเครือข่ายมากขึ้น นำไปสู่การขยายขอบเขตของเครือข่ายที่ใหญ่กว่าเดิม 

มีมาตรฐานและการทำงานร่วมกันที่ดี เครือข่าย Ethereum ได้รับการพัฒนาบนมาตรฐานของ ERC-20 และ ERC-721 ซึ่งช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพด้านการทำงานร่วมกันของสินทรัพย์บนเครือข่ายบล็อกเชน และได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง 

  • กระตุ้นผู้ใช้งานในเครือข่ายให้มีส่วนร่วมในการพัฒนา อย่างที่รู้กันว่าเครือข่าย Ethereum ดำเนินการด้วยเทคโนโลยีอย่าง Smart Contracts กระตุ้นให้ผู้ใช้งานส่วนในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม พัฒนา dApps รวมทัั้งสร้างความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศ 

  • เปลี่ยนผ่านสู่ Ethereum 2.0 หากการเปลี่ยนผ่านจากการทำงานแบบ PoS สู่ PoW จะช่วยยกระดับด้านการขยายสมรถถนะและขนาดของเครือข่ายและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสียของ Ethereum

  • Ethereum เผชิญข้อจำกัดด้านการขยายขนาดของเครือข่าย โดยเฉพาะในช่วงที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น ส่งผลให้การตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมช้าลง และค่าธรรมเนียมสูง ปัจจุบัน Ethereum รองรับได้เพียงประมาณ 30 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ซึ่งยังห่างไกลเมื่อเทียบกับระบบชำระเงินแบบดั้งเดิมอย่าง Visa ที่รองรับได้หลายพัน TPS

  • ใช้พลังประมวลผลและพลังงานจำนวนมาก เพราะ Ethereum ยังคงใช้กลไก Proof-of-Work (PoW) เช่นเดียวกับ Bitcoin ซึ่งต้องอาศัยการขุด (mining) ผ่านการแก้สมการที่ซับซ้อน ประเด็นนี้ก่อให้เกิดความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดคาร์บอนฟุตพริ้นต์จากการขุดคริปโต

  • เผชิญความท้าทายด้านกฎระเบียบ เมื่อ Ethereum และคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ก็ยิ่งถูกจับตามองจากหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก กรอบกฎหมายที่ยังไม่ชัดเจนส่งผลให้โครงการต่าง ๆ บน Ethereum ต้องปรับตัวและเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

  • Ethereum เผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Binance Smart Chain, Solana และ Polkadot ซึ่งต่างพัฒนาเครือข่ายให้รองรับธุรกรรมได้มากกว่าและค่าธรรมเนียมถูกลง จุดนี้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่าสำหรับทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อ Ethereum ประสบปัญหาเครือข่ายหนาแน่นในช่วงที่มีการใช้งานสูง

  • การพัฒนาแอปพลิเคชันบน Ethereum ถือว่าซับซ้อน โดยเฉพาะนักพัฒนาหน้าใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยกับโครงสร้างระบบและภาษาการเขียนโปรแกรมอย่าง Solidity อีกทั้งการตรวจสอบจุดบกพร่องใน Smart Contract ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่มักต้องใช้ทรัพยากรและเวลาจำนวนมาก

  • ยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แม้ Ethereum ถือเป็นเครือข่ายที่มีความปลอดภัยสูง แต่ช่องโหว่ใน Smart Contract ก็นำไปสู่การสูญเสียเงินทุนจำนวนมากได้ ย้อนดูในอดีตพบว่าเคยเกิดเหตุการณ์แฮกและโจมตีบนแพลตฟอร์ม DeFi ที่พัฒนาบน Ethereum อยู่หลายครั้ง ซึ่งทำให้ประเด็นเรื่องความปลอดภัยยังคงเป็นจุดที่ต้องเฝ้าระวังและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 


Person Holding a Smartphone

 

แนวโน้มและอนาคตของ Ethereum

ตามที่กล่าวไปบ้างข้างต้น ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของ Ethereum มีทั้งการพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่องอย่างการอัปเกรด Dencun ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดและลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เป็นต้น 

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างสนใจเหรียญดังกล่าวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับการนำ Ethereum ไปใช้ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ก็เป็นแรงผลักดันสำคัญที่อาจส่งผลให้ราคา ETH เพิ่มขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ หากมองถึงแนวโน้มราคาเหรียญ Ethereum ในช่วง 5 ต่อจากนี้ ก็ได้มีการวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้ 

  • 2025 ราคา Ethereum มีโอกาสแตะจุดต่ำสุดที่ 1,532.17 ดอลลาร์สหรัฐฯ และอาจพุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 1,958.62 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ราคาเฉลี่ยในการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2,385.07 ดอลลาร์สหรัฐฯ  ปีนี้ยังคงได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาเครือข่ายและความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
  • 2026 หากอิงข้อมูลราคาย้อนหลัง Ethereum มีแนวโน้มราคาต่ำสุดในปีนี้ โดยจะอยู่ที่ราว ๆ 6,953 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ราคาสูงสุดอาจแตะถึง 8,646 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 7,158 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นปีที่ ETH เริ่มกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • 2027 ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตคาดว่า Ethereum อาจมีราคาต่ำสุดที่ 9,745 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแนวโน้มขึ้นไปถึง 12,166 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีราคาค่าเฉลี่ยประมาณ 10,103 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากแนวโน้มนี้เป็นจริง ปีนี้อาจกลายเป็นช่วงที่นักลงทุนเริ่มกลับมาเข้าตลาดอย่างจริงจัง
  • 2028 อาจมีราคาต่ำสุดอยู่ที่ 14,318 ดอลลาร์สหรัฐฯ และขยับขึ้นไปสูงสุดที่ 16,977 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งปีที่สะท้อนถึงการเติบโตอย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพมากขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้
  • 2029 การซื้อขาย Ethereum จะอยู่ในช่วงระหว่าง 21,649 - 25,096 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีราคาค่าเฉลี่ยที่ 22,390 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นระยะยาวและการนำไปใช้งานจริงในภาคส่วนต่าง ๆ ของระบบการเงินแบบ Decentralized
  • 2030 เมื่อเข้าสู่ทศวรรษใหม่ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า Ethereum จะมีราคาค่าเฉลี่ยราว 35,154 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอาจลงไปต่ำสุดที่ 34,259 ดอลลาร์สหรัฐฯ และพุ่งสูงถึง 38,769 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ETH ยังถูกมองว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของ Web 3 และเทคโนโลยีทางการเงินในอนาคต

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักถึงความผันผวนของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีและศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน แม้ว่าแนวโน้มระยะยาวของ Ethereum จะดูเป็นบวก แต่ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายหรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ ก็อาจส่งผลต่อราคาได้เช่นกัน

 


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ethereum

  • 1 เหรียญ ETH เท่ากับกี่บาท

ตามที่กล่าวไปข้างต้น ราคาเหรียญ ETH หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ล้วนมีความผันผวนเสมอ ก่อนตัดสินใจลงทุน สามารถเข้ามาอัปเดตราคาเหรียญ EHT/THB กันก่อนได้

  • ETH เคยสูงสุดกี่บาท

Ethereum เคยทำสถิติราคาสูงสุดตลอดกาล (All-Time High) ไว้ที่ 4,721.07 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาดังกล่าวสะท้อนถึงมูลค่าสูงที่สุดที่เคยมีการซื้อขายเหรียญ Ethereum ตั้งแต่มีการเปิดตัวในตลาดคริปโตจนถึงปัจจุบัน

  • Ethereum มีทั้งหมดกี่เหรียญ

จากข้อมูลล่าสุด Ethereum มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 3,762.59 ดอลลาร์สหรัฐฯ และยังคงครองอันดับที่ 2 ในระบบนิเวศคริปโตทั้งหมดในปัจจุบัน อีกทั้งมีมูลค่าหมุนเวียนในตลาดรวมกว่า 451,994,509,854.32 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีจำนวนเหรียญหมุนเวียนในระบบอยู่ที่ 120,128,511 ETH

 


Conclusion

Ethereum ยังคงเป็นหนึ่งในเครือข่ายบล็อกเชนที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศคริปโต ด้วยจุดเด่นด้านการรองรับ Smart Contract การพัฒนา dApps ที่ตอบโจทย์เรื่อง Decentralized และการมีระบบเศรษฐกิจของตนเองอย่างสมบูรณ์ แม้จะเผชิญความท้าทายด้านความสามารถในการขยายตัว ค่าธรรมเนียม และการแข่งขันจากเครือข่ายอื่น ๆ แต่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Ethereum เป็นรากฐานสำคัญของ Web3 ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรติดตามความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีและกฎระเบียบอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ

 

 


คำเตือน

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด

 


อ้างอิง