Share this
Metaverse คืออะไร? เจาะลึกสู่ประตูโลกเสมือนจริง

ตั้งแต่ปี 2021 Mark Zuckerberg ที่ผู้ก่อตั้งโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Facebook ได้ประกาศให้ทุกคนได้รู้จักกับคำว่า “Metaverse” มากขึ้น ทำให้จุดประกายความสนใจ และถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการเทคโนโลยีทั่วโลก หลายคนอาจยังสงสัยว่า Metaverse คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร? บทความนี้จะพาคุณสำรวจความหมายของโลกเสมือนจริงนี้อย่างละเอียด รวมถึงข้อดี ข้อเสียและข้อสรุปต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจว่าทำไม Metaverse จึงมีศักยภาพและถูกมองเป็นก้าวสำคัญของวงการดิจิตทัลในอนาคต
Metaverse คืออะไร
Metaverse คือโลกเสมือนจริงขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในรูปแบบ 3 มิติ ที่ทุกคนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ได้แบบเรียลไทม์ ผ่าน Avatar ที่เป็นตัวแทนผู้ใช้งาน ทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และสามารถโต้ตอบกับผู้อื่นได้ทันที เปรียบได้กับการใช้ชีวิตเสมือนจริงในมหานครดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานจากทั่วทุกมุมโลก
Metaverse เป็นวิวัฒนาการที่พัฒนาต่อยอดบนพื้นฐานของอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่ เพื่อสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่เราสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนโลกจริงอย่างไรขีดจำกัด ในโลกของ Metaverse ผู้คนสามารถพบปะสังสรรค์ ทำกิจกรรม และสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้อย่างไร้ขีดจำ รวมไปถึงการเปิดโอกาสทางธุรกิจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การซื้อขายที่ดินใน Metaverse การสร้างและขายสินค้าดิจิทัล (NFT) และอื่นๆ อีกมากมาย

ประเภทของ Metaverse มีอะไรบ้าง
โลก Metaverse สามารถจำแนกได้ทั้งหมด 4 ประเภท
- Metaverse แบบ Game-based: เน้นการเล่นเกมและประสบการณ์ของผู้เล่นที่จะได้รับ ผ่านเกมใน Metaverse เช่น Roblox, The Sand Box, และ Alien Worlds
- Metaverse แบบ Social-based: มุ่งเน้นที่การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม สื่อสาร พบปะผู้คน และเน้นความเชื่อมโยงทางสังคมระหว่างผู้ใข้งานในโลกเสมือนจริง
- Metaverse แบบ Commerce-based: เปรียบเสมือนตลาดดิจิทัลเน้นการส่งเสริมการค้าที่ให้ผู้ใช้งานสามารถทำการซื้อ ขายสินค้า หรือบริการเสมือจริง
- Metaverse แบบ Education-based: เป็นการยกระดับประสบการณ์และโอกาสทางการศึกษาที่แตกต่างจากวิธีการเรียนรู้แบบดั้งเดิม ที่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริง จำลองเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้ใช้งานสนุกกับการเรียนมากขึ้น นักเรียนสามารถเข้ามาทำงานกลุ่ม และเข้าร่วมชั้นเรียนกับผู้สอนได้บนพื้นที่ดิจิทัล
ประโยชน์ของ Metaverse
ด้านการศึกษา
Metaverse สามารถเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้แบบดั้งเดิม ทำให้ผู้เรียนสามารถมีประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจ และเข้าถึงเนื้อหาการเรียนได้อย่างสนุกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทดลองวิทยาศาสตร์ที่สมจริง การเรียนประวัติศาสตร์จะสามารถย้อนเวลาจำลองเหตุการณ์ในอดีต ทำให้การเรียนนั้นมีความสนุก มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
ด้านความบันเทิง
ผู้ชมสามารถเข้าร่วมคอนเสิร์ต นิทรรศการหรืออีเวนต์ต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสถานที่จัดงานจริง สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับดาราศิลปินได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงการท่องเที่ยวที่เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น ที่สามารถเยี่ยมชมสถานที่ได้ทั่วโลก เช่น หอไอเฟลที่ปารีส เทพีเสรีภาพที่นิวยอร์ก หรือพีระมิดที่อียิปต์ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางจริง
ด้านการทำงาน
ใน Metaverse คุณสามารถที่จะเข้าประชุมเสมือนจริงได้ ผ่านการสร้างพื้นที่การทำงานในรูปแบบของ 3 มิติ ในสภาพแวดล้อมที่สมจริง เหมือนนั่งประชุมด้วยกัน เป็นการลดข้อจำกัดด้านระยะทางและเวลานั้นเอง
ด้านการธุรกิจ
โลก Metaverse เปิดประสบการณ์แบบใหม่ที่เหนือกว่าในการซื้อของออนไลน์แบบเดิมๆ เพราะผู้ใช้งานสามารถ เดินชมสินค้า พูดคุยกับพนักงานได้เหมือนกับการไปหน้าร้านจริง รวมถึงโอกาสในการสร้างสรรค์สินค้าดิจิทัลอย่าง NFTs ที่สามารถสร้างรายได้จากผลงานดิจิทัลของตนเองได้
ด้านการแพทย์
Metaverse สามารถช่วยจำลองร่างกายของมนุษย์ในรูปแบบ 3 มิติเพื่อวิเคราะห์และวางแผนการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ นักศึกษาแพทย์สามารถฝึกผ่าตัดสภาพแวดล้อมที่ถูกจำลองให้เหมือนจริงได้อย่างปลอดภัย ปราศจากความเสี่ยงของผู้ป่วยที่จะได้รับ รวมถึงความสามารถในการให้ประสบการณ์เสมือนจริงในการรักษากับผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดในการเดินทางไกลอีกด้วย

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse
โลกของ Metaverse นั้นมีการใช้ 3 เทคโนโลยีหลักที่สามารถทำให้เกิดโลกเสมือนจริงขึ้นได้ ดังนี้
Blockchain
เทคโนโลยี Blockchain คือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญใน Metaverse ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลัง ทำให้สามารถสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมที่น่าเชื่อถือมากขึ้น การนำ Blockchain มาใช้ใน Metaverse จะช่วยสร้างความปลอดภัยผ่านระการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ที่ไม่มีองค์กรใดองค์กรหนึ่งควบคุมระบบ ไม่ต้องพึ่งตัวกลาง เช่น ธนาคาร และมี NFT รองรับความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลในโลกเสมือนจริง ทำให้ระบบมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้
AR/VR
Metaverse คือการผสมผสานเทคโนโลยีที่จำลองวัตถุ 3 มิติของ AR (Augmented Reality) และ การจำลองสถานที่ของ VR (Virtual Reality) ผสานเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างโลกเสมือนจริงที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนในโลกที่อาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปฎิสัมพันธ์กับผู้คน สิ่งของ หรือสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้สมจริงมากยิ่งขึ้น เช่น บนโลก Metaverse คุณกำลังเดินไปที่ซุปเปอรมาร์เก็ตเพื่อซื้อของ แต่จริง ๆ แล้วคุณกำลังนั่งอยู่บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่นของคุณนั้นเอง
AI
บทบาทของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) นั้นสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของโลก Metaverse ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่สมจริงและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น รวมถึงการใช้ Avatar หรือตัวละครเสมือนของผู้ใช้ ให้มีการแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางที่เป็นธรมมชาติ นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยี AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ และปรับแต่งประสบการณ์เฉพาะบุคคลทำให้ Metaverse มีความสมจริง และมีชีวิตชีวามากขึ้น
ตัวอย่างเกม Metaverse ที่น่าสนใจ
lluvium
ลักษณะเกม: RPG (Open-World)
รายละเอียดเกม: Illuvium เป็นเกมแนวสำรวจผจญภัย โดยผู้เล่นจะต้องสะสมสัตว์ประหลาดที่มีชื่อว่า “Illuvials” ที่มีการเล่นแบบ “Play-to-Earn” หรือ เล่นเพื่อสร้างรายได้ ผู้เล่นจะออกล่าสัตว์ประหลาดในโลก Open-World ที่สามารถสำรวจและเก็บทรัพยากรต่าง ๆ ได้ จากนั้นจับมาต่อสู้ใน Arena หรือแลกเป็นเหรียญได้ รวมถึงสามารถใช้ NFT เป็นตัวละครของผู้เล่นที่สามารถแลกเปลี่ยนในตลาดได้เช่นกัน
Axie
ลักษณะเกม: เกมต่อสู้แบบ Turn-based
รายละเอียดเกม: Axie เป็นเกม Metaverse ที่ได้แรงบันดาลใจจากเกม Pokemon Go มีการเล่นเน้นการสร้างรายได้แบบ “Play-to-Earn” โดยผู้เล่นจะต้องสะสม เลี้ยงดู ฝึกฝนและเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยง NFT ที่มีชื่อ “Axies” แต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน สามารถซื้อขายได้
Decentraland
ลักษณะเกม: สร้างโลกเสมือน (Virtual World)
รายละเอียดเกม: เกมสร้างโลกเสมือนที่ผู้เล่นสามารถสร้าง ซื้อขายและเป็นเจ้าของที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบผ่านการครอบครอง NFTs รวมถึงสามารถสร้างสรรค์ออกแบบสิ่งปลูกสร้างต่างหรือกิจกรรมที่ให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ เข้าร่วมได้ เช่น การประชุม อีเวนต์ นิทรรศการ เกม คอนเสิร์ต

เหรียญ Metaverse มีอะไรบ้าง
หากบนโลกของเรามีเงินสำหรับใช้จ่าย โลก Metaverse ก็มีการใช้สกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซีที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนของระบบเศรษฐกิจใน Metaverse เช่นกัน ทำให้ผู้เล่นสามารถซื้อขายสินค้าบริการ สร้างรายได้จากการขาย NFT ต่าง ๆ ได้ เหรียญ Metaverse ยอดนิยม มีดังนี้
- MANA (Decentraland): เงินสกุลหลักที่ใช้ในเกมแนว Virtual World อย่าง Decentraland ที่ผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าไปออกแบบอวตาร ซื้อขายที่ดิน และสร้างอาณาจักของตัวเองได้ เช่น บ้าน คลับ อีเวนต์ หรือสิ่งก่อสร้างเสมือนจริงอื่น ๆ สกุล MANA สามารถครอบครองได้จากการสำรวจในเกม รวมถึงการใช้โหวตเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังมีโปรแกรม ‘Token Burn’ ที่จะเผาเหรียญ MANA บางส่วนเพื่อควบคุมอุปสงค์อุปทานสำหรับการรักษามูลค่าระยะยาว
- AXS (Axie Infinity): สกุลเงินหลักที่ใช้ในเกม Axie Infinity ซึ่งผู้เล่นจะได้สะสมมอนสเตอร์สที่ชื่อว่า “Axie” ที่แต่ละตัวเป็น NFT มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โทเคนนี้ถูกใช้ในเกมเพื่อการผสมพันธุ์ของ Axie ให้เกิดตัวใหม่ขึ้นมา อีกทั้งสามารถรับเหรียญ AXS จากการต่อสู้ในโหมด Arena และการทำภารกิจประจำวัน
- SAND (The Sandbox): โทเคนหลักที่ใช้ในระบบนิเวศของเกม The Sandbox ที่มีจุดเด่นคือ การมุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจที่ผู้เล่นสามารถสร้าง ครอบครอง ทำธุรกรรม และสร้างรายได้จากการเล่นเกม และไอเทมทุกอย่างที่ผู้เล่นสร้างขึ้นนั้นจะอยู่ในรูปแบบของสินทรัพ์ดิจิทัล (NFT)
โทเคนดิจิทัลเหล่านี้ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการซื้อขายบนโลกเหมือนจริง แต่ยังสะท้อนถึงการเติบโตและโอกาสทางเศรษฐกิจใน Metaverse ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงอีกด้วย
อนาคตของ Metaverse
Metaverse มีแนวโน้มที่จะพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์จาก ‘McKinsey’ บริษัทที่ปรึกษายักษ์ใหญ่ของโลก คาดว่า Metaverse จะมีมูลค่าสูงถึง 175 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030 นอกเหนือจากนี้ มีความเป็นไปได้มากกว่า 50% ที่จะจัดอีเวนต์ และ 80% ของการค้าขายถูกจัดขึ้นในจักรวาลนฤมิตรนี้ และคาดว่าจะมีการนำไปใช้ในอุตสากรรมที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การท่องเที่ยวและการบริการ การออกแบบ สถาปัตยกรรม
นอกเหนือจากนี้ ในอนาคต Metaverse จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราพูดคุย พบปะ หรือสังสรรค์ทางสังคม ให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 54% คาดการณ์ว่า ภายในปี 2024 โลกเสมือนจริงนี้จะได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์แบบ สมจริง และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Metaverse
Metaverse แตกต่างจากเกมออนไลน์อย่างไร
เกม Metaverse มีการผสมผสานการใช้ Blockchain VR และ AR ให้ความสำคัญกับโลกสมจริงขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงกันเหมือนจักวลาหนึ่ง สามารถทำให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การร่วมกิจกรรม การชุมชน รวมถึงการมีระบบเศรษฐิกิจจริงที่ผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินดิจิทัลได้ ผ่าน NFTs และ Cryptocurrency และอื่น ๆ ในขณะที่เกมออนไลน์ทั่วไป ใช้เทคโนโลยีการพัฒนาเกมแบบดั้งเดิมที่เน้นเฉพาะการเล่นเกมเท่านั้น ระบบเศรฐกิจจริงจะมีอยู่แค่ในเกม ไม่สามารถครอบครองทรัพย์สินบนเกมได้จริง เน้นไปที่ความสนุกของเกมเป็นหลักนั้นเอง
การเข้าสู่ Metaverse ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?
- คอมพิวเตอร์ PC: จำเป็นต้องมีสเปคเครื่องที่รอบรับการแสดงผลภาพ 3 มิติ พร้อมการ์ดจอ หน่วยประมวลผล(CPU) หน่วยความจำ(RAM) ที่มีประสิทธิภาพและขนาดใหญ่เพียงพอแต่การเข้าสู่โลก Metaverse
- แว่นตา AR: มีลักษณะเหมือนแว่นตาทั่วไป แต่สามารถใช้ในการเพิ่มประสบการณ์โลกเสมือนจริงได้ผ่านเทคโนโลยีที่ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพดิจิทัลซ้อนทับกับภาพในโลกจริง มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อม
- VR Headset: อุปกรณ์สวมศรีษะพร้อมหน้าจอแสดงภาพเหมือนจริง โดยภาพจะแสดงออกมาในรูปแบบ 3 มิติและสามารถมองได้แบบ 360 องศา ให้ประสบการณ์เสมือนจริงเต็มรูปแบบ
- อุปกรณ์เสริมอื่นๆ: เช่น ถุงมือ Haptic ที่ใช้สำหรับรับความรู้สึกสัมผัส ไมโครโฟนและหูฟังคุณภาพสูง ชุดสวมใส่พิเศษที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
Metaverse ฟังดูเหมือนเป็นอะไรที่ไกลเกินตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกเสมือนจริงนี้ใหญ่เกินกว่าที่เราจะเฉยเมินได้ Metaverse เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลหรือเกม ที่จะเป็นการยกระดับการใช้ชีวิตของเราไปอีกขั้น สามารถทำให้เราได้เปิดโอกาสการ ใช้ชีวิต ทำงาน และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่เหนือข้อจำกัดของโลกที่อาศัยอยู่
จึงเป็นเหตุผลที่ธุรกิจ แบรนด์ต่างๆ ควรให้ความสำคัญ และทำความเข้าใจกับ Metaverse ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะหากเราเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง จะสามารถช่วยให้เราใช้ประโยชน์จาก Metaverse ได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตแน่นอน
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
อ้างอิง
Share this
- Bitazza Blog (96)
- Crypto Weekly (44)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- Tether (USDt) (8)
- บล็อกเชน (8)
- bitcoin (7)
- missions (7)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Campaigns (3)
- Security (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Stablecoin (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- ENJ (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- KYC (1)
- NFTs (1)
- SEC (1)
- Social Features (1)
- TRUMP (1)
- TradingView (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)
Subscribe by email

Trump Media เตรียมระดมทุนซื้อ Bitcoin 2.5 พันล้านดอลลาร์และยื่นจัดตั้ง Bitcoin ETF

RSI คืออะไร? เจาะลึกอินดิเคเตอร์ยอดฮิต เข้าใจภายใน 5 นาที

Swap คืออะไร? ทำไมสาย DeFi ต้องรู้ก่อนพลาดโอกาสในโลกคริปโต

Yield คืออะไร? เข้าใจผลตอบแทนแบบนักลงทุนมือโปร

IPO คืออะไร? รู้ก่อนลงทุนในหุ้นน้องใหม่

อุปทาน (Supply) คืออะไร? ทำไมส่งผลต่อราคาสินทรัพย์

SSF คืออะไร? ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ เหมาะกับใคร?

Ultron Coin คืออะไร? ทำความรู้จักกับเหรียญดิจิทัลมาแรงในปี 2025

Bitazza on the Road! โพสต์ภาพเราบนถนนในกรุงเทพ รับเมิร์ชสุดคูล
