NEAR Coin เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการขยายขนาดและความเป็นมิตรกับนักพัฒนาทำให้ NEAR Protocol กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีศักยภาพสูง บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ NEAR Coin และระบบนิเวศ รวมถึงเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์ม Layer 1 อื่น ๆ และแนวโน้มการลงทุนในอนาคต
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 NEAR Protocol ได้ประกาศการอัปเกรดเครือข่ายหลักที่สำคัญ โดยลดเวลาในการสร้างบล็อกลงเหลือเพียง 600 มิลลิวินาที และเวลายืนยันธุรกรรมเหลือ 1.2 วินาที การพัฒนานี้เป็นผลมาจากการใช้งาน Nightshade 2.0 "optimistic block" implementation ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลธุรกรรมมากกว่าครึ่งหนึ่ง
NEAR Protocol พยามปรับตัวเพื่อมุ่งสู่การเป็น "The Blockchain for AI" โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบที่ AI สามารถทำงานในนามของผู้ใช้ ไม่เพียงแค่การคำนวณ แต่รวมถึงการทำธุรกรรม การประสานงาน และการพัฒนาตัวเอง
ปัจจุบัน NEAR มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $2.86 - $2.93 USD โดยมีปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาประมาณ $181-191 ล้าน USD ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น 13.40% จากวันก่อนหน้า
NEAR Coin เป็นโทเค็นหลักของ NEAR Protocol ซึ่งเป็น Layer1 blockchain ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งาน AI และแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ Decentralized applications (DApps) โดยใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake (PoS) และเทคโนโลยี Nightshade Sharding เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลธุรกรรม NEAR Coin สามารถใช้ชำระค่าธรรมเนียมธุรกรรม (Gas fee) และใช้ในการ Staking เพื่อรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย นอกจากนั้นผู้ถือครองยังมีสิทธิ์ตัดสินใจร่วมกันในโปรเจคหรือการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ของ NEAR Coin
NEAR Protocol หรือเหรียญ NEAR เป็นระบบนิเวศน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รองรับแอปพลิเคชั่นที่หลากหลาย ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ที่ใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพสูง และสามารถขยายขนาดได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ Web3 เข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้ง่ายขึ้น โดยมีองค์ประกอบหลักในระบบนิเวศน์ ดังนี้
NEAR Protocol คือบล็อกเชนเลเยอร์ 1 (Layer 1) ที่ใช้เทคโนโลยี Nightshade ซึ่งเป็นรูปแบบของ Sharding ที่ช่วยให้เครือข่ายสามารถขยายตัวได้โดยการแบ่งการประมวลผลออกเป็นส่วนย่อย ทำให้สามารถประมวลผลธุรกรรมได้หลายรายการพร้อมกันโดยไม่ทำให้ช้าลง
Proof of Stake (POS) ระบบใช้กลไก Proof of Stake ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและใช้พลังงานน้อย ผู้ถือ NEAR สามารถ Stake เหรียญของตนเพื่อรับรางวัลและมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย
เหรียญ NEAR ใช้เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมของระบบ และเป็นรางวัลสำหรับผู้ตรวจสอบ รวมถึงผู้ที่ถือครองเหรียญ NEAR จะได้มีส่วนร่วมในระบบการกำกับดูแล
NEAR มีเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาหลายตัว ที่รองรับระบบที่หลากหลาย เช่น NEAR SDKs รองรับ Rust และ JavaScript NEAR CLI สำหรับการจัดการและ Deploy Smart Contracts NEAR Wallet และ NEAR Explorer การรองรับ Web3 Standards นอกจากนั้นยังมีการสนับสนุนนักพัฒนาด้วยเอกสารประกอบการพัฒนาที่ครบถ้วน และ NEAR University การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่าง Developer และชุมชน
DeFi เช่น Ref Finance ที่เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ Aurora – EVM-compatible chain บน NEAR ทำให้สามารถรัน dApps ของ Ethereum ได้ Octopus Network – รองรับการสร้าง Appchains Sweat Economy – แอป move-to-earn ที่ใช้เหรียญ SWEAT บน NEAR AI และ Web3 ที่ช่วยให้ NEAR สามารถรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้ AI และการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ นอกจากนั้นยังมี NFT และ GamrFi NFT Marketplace เช่น Paras ที่เน้นการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Mintbase เครื่องมือสำหรับสร้าง NFT อย่างง่าย และเกมต่าง ๆ เช่น OP Games, NEAR Lands
Rainbow Bridge สะพานเชื่อมระหว่าง NEAR และ Ethereum ที่ช่วยให้สามารถโอนย้าย assets ระหว่าง blockchain ได้อย่างปลอดภัย Aurora Network Layer 2 solution ที่รองรับ Ethereum dApps บน NEAR Protocol ทำให้นักพัฒนา Ethereum สามารถใช้งาน NEAR ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังเชื่อมต่อกับบล็อกเชนอื่น ๆ เช่น BNB Chai, Polygon ผ่านการใช้ Protocol อื่น
NEAR foundation และ Pagoda เป็นองค์กรหลักที่ดูแลการพัฒนา และชุมชน NEAR มีขนาดใหญ่ พร้อมที่จะสนับสนุนโครงการใหม่ ๆ และร่วมมือกับองค์กรอื่น
NEAR Protocol เป็นบล็อกเชน Layer 1 ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาความสามารถในการขยายขนาดของบล็อกเชนแบบเดิม และรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบกระจายศูนย์ (dApps) อย่างมีประสิทธิภาพสูง โดยใช้เทคโนโลยี Nightshade Sharding ซึ่งช่วยให้สามารถประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ และมีเป้าหมายหลักคือการทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนและ Web3 เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น
ในโลกของบล็อกเชนเลเยอร์ 1 (Layer 1) มีหลายแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) โดยแต่ละระบบก็มีจุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางเฉพาะของตัวเอง ในบทความนี้จะเปรียบเทียบ 3 โปรเจกต์เด่น ได้แก่ NEAR Protocol, Solana และ Avalanche ว่าแตกต่างกันอย่างไร
NEAR เป็นบล็อกเชนที่เน้นประสบการณ์ใช้งานง่าย ทั้งสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา จุดเด่นของ NEAR คือการใช้เทคโนโลยี Sharding (แบบ Nightshade) ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถขยายรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากได้อย่างราบรื่น ระบบของ NEAR ถูกออกแบบให้เหมาะกับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาใหม่ ๆ ที่อยากเริ่มต้นในโลก Web3 ได้อย่างง่ายดาย ส่วน Solana โดดเด่นในเรื่องความเร็ว และสามารถประมวลผลธุรกรรมได้จำนวนมากต่อวินาที เหมาะมากกับแอปที่ต้องการความเร็ว เช่น เกม หรือแอปการเงินความถี่สูง แต่ Solana เคยล่มหลายครั้งในช่วงปี 2022–2023 ทำให้เกิดความกังวลเรื่องเสถียรภาพ
ส่วน Avalanche มีแนวคิดที่ต่างออกไป เพราะเปิดโอกาสให้องค์กรหรือโครงการต่าง ๆ สามารถสร้าง “เชนย่อย” หรือ Subnets ของตัวเองบนระบบหลักได้ เหมาะกับองค์กรที่ต้องการควบคุมระบบของตัวเอง เช่น เกม การเงิน หรือแม้แต่รัฐบาล อย่างไรก็ตาม Avalanche ยังไม่มีระบบ sharding แบบจริงจัง และการจัดการ Subnet อาจซับซ้อนสำหรับมือใหม่
หากต้องการซื้อเหรียญ NEAR จะต้องหาแพลตฟอร์มที่รองรับเสียก่อน แพลตฟอร์ม Bitazza เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่รองรับการซื้อขาย NEAR และได้รับการรับรองจากกลต. ดังนั้นนักลงทุนจึงสามารถซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม Bitazza ได้โดยไม่ต้องกังวล วิธีการซื้อขายง่าย ๆ ดังนี้
การซื้อขาย NEAR coin บน Bitazza สามารถทำได้ง่ายและสะดวกมาก ทำธุรกรรมได้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
ราคาปัจจุบัน (พฤษภาคม 2025): ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2025 NEAR มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $2.86-2.93 USD โดยมี Market Cap อยู่ที่ประมาณ $3.5-3.7 พันล้าน USD ทำให้ NEAR อยู่ในอันดับ Top 30 ของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด
CoinCodex Prediction:
Crypto.news Analysis:
Coinpedia Forecast:
ความซับซ้อนของ Sharding และการใช้งาน Dynamic Sharding ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงทางเทคนิค หากเกิดปัญหาใน Nightshade protocol อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครือข่ายทั้งหมด การแก้ไขปัญหาอาจใช้เวลานานและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้
นอกจากนั้นยังมีการแข่งขันด้านเทคโนโลยี ตลาด Layer 1 blockchain มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว หาก NEAR ไม่สามารถติดตามการพัฒนาหรือมีนวัตกรรมใหม่ ๆ อาจสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยเฉพาะจากคู่แข่งที่มีทรัพยากรมากกว่า เช่น Ethereum หรือ Solana ในส่วน Market Share และ Network Effect NEAR ยังคงมี Total Value Locked (TVL) และจำนวนผู้ใช้ที่น้อยกว่าคู่แข่งรายใหญ่อย่างมาก การสร้าง network effect ที่แข็งแกร่งเป็นความท้าทายสำคัญ หากไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้และนักพัฒนาเพิ่มขึ้นได้ อาจส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาว
ปัจจุบันยังมีการพึ่งพิงนักลงทุนสถาบัน แม้การได้รับการสนับสนุนจาก VCs จะเป็นข้อดี แต่ก็เป็นความเสี่ยงเมื่อนักลงทุนเหล่านี้ตัดสินใจขาย Token ในปริมาณมาก อาจส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรุนแรง นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของคริปโตเคอร์เรนซี่ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอีกด้วย
อ้างอิงจาก ccn.com
เหรียญ NEAR (NEAR Token) ถูกกำหนดไว้ในระบบเมื่อเริ่มต้นที่ 1 พันล้านเหรียญ (1,000,000,000 NEAR) และมีการกระจายและปลดล็อกเป็นระยะ ๆ ตามแผนของโครงการ ปัจจุบัน Near Coin มีประมาณ 1.219 พันล้าน
เพื่อเริ่มใช้งาน NEAR Protocol สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้
NEAR Protocol มีระบบนิเวศที่หลากหลายและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นหนักไปที่การบูรณาการกับ AI การพัฒนาของ NEAR มุ่งเน้นไปที่การเป็น "The Blockchain for AI" ซึ่งทำให้มีความโดดเด่นในด้านการรองรับแอปพลิเคชัน AI และการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ DApp ที่โดดเด่นใน NEAR ได้แก่
NEAR Protocol เป็นบล็อกเชนที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและเน้นการใช้งานที่ง่ายดาย โดยมีระบบนิเวศน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีแอปพลิเคชันที่หลากหลาย แม้ว่าจะมีความเสี่ยงในการลงทุน แต่ด้วยแนวโน้มราคาที่เป็นบวกและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง NEAR จึงเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าจับตามองในวงการคริปโต
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
อ้างอิง