สกุลเงินที่เปลี่ยนโฉมโลกการเงินในศตวรรษนี้ คงหนีไม่พ้นสกุลเงินดิจิตอลอย่างแน่นอน เพราะเป็นหมุดหมายของยุคสมัยที่เปลี่ยนจากเงินกระดาษไปสู่เงินออนไลน์ได้อย่างน่าสนใจและขยายภูมิทัศน์และความรู้เรื่องการเงินได้ลึกและซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นเพื่อเข้าใจโลกของเงินดิจิตอลได้มากขึ้น บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจว่าเงินดิจิตอลคืออะไร มีกี่ประเภท มีประโยชน์อย่างไร และใช้งานอย่างไร
เงินดิจิตอล คือ เงินที่อยู่ในรูปแบบโค้ดที่เข้ารหัส ‘Cryptography’ เพื่อรักษาความปลอดภัยทางธุรกรรม สามารถใช้แลกเปลี่ยนได้อย่างเสรี เพราะไม่มีตัวกลางมาคอยควบคุมการทำธุรกรรมไม่ว่าจะเป็นธนาคาร สถาบันการเงินไปจนถึงรัฐบาล โดยมีเข้าและถอดรหัสด้วยระบบบล็อกเชน (Block Chain) ทำให้ธุรกรรมที่เกิดขึ้นมีความโปร่งใส ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่ครอบครอง
การใช้เงินดิจิตอลจึงเริ่มแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญการที่ไม่มีตัวกลางทำให้การดำเนินธุรกรรมรวดเร็ว เป็นส่วนตัว มีความมั่นคง ถือครองได้คล่องตัว และปลอดภัย ทำให้เกิดความต้องการในการถือครองมากขึ้น จึงทำให้เกิดสกุลเงินดิจิตอลเพิ่มขึ้น ให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ได้เข้าไปถือครองได้ตามความต้องการนั่นเอง
เงินดิจิตอลที่สำคัญ ๆ ในตลาดการลงทุนแบ่งได้ 3 ประเภทหลัก ๆ โดยมีข้อแตกต่างในการใช้งานที่น่าสนใจโดยแบ่งได้ดังนี้
โดยเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่อยู่ในตลาดและการลงทุนที่ให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์เลือกได้หลากหลาย โดยมีจำนวนสกุลเหรียญมากกว่า 10,000 สกุลเหรียญ โดยเหรียญเหล่านี้จีงมีคอนเซ็ปท์ในการสร้างเหรียญและอ้างอิงมูลค่าแตกต่างกันไป เพื่อจูงใจนักลงทุนในการเลือกลงทุนกับเหรียญนั้น ๆ
เหรียญที่ออกและรับรองโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ ลักษณะการใช้งานเหมือนกับเงินสดทุกอย่างและรัฐบาลเป็นเจ้าของ โดยเหรียญลักษณะนี้ใช้ระบบบล็อกเชน (Block Chain) เข้ามาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งแตกต่างจากการใช้ Mobile Banking ที่สามารถฝาก-ถอน เป็นเงิน Fiat ได้นั่นเอง
เป็นตั๋วหรือสิทธิ์ของสินทรัพย์นั้น ๆ เพื่อกำหนดสิทธิ์ต่าง ๆ ให้กับผู้ที่ถือครอง โดยตั๋วดังกล่าวนี้จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
เงินดิจิตอลในตลาดสกุลใหญ่ ๆ มีมากมายและหลากหลาย ซึ่งแบ่งเป็นหลากหลายหมวด โดยสกุลเหรียญที่นิยมในแต่ละหมวดมีความน่าสนใจ คอนเซ็ปท์ และความต้องการแตกต่างกันโดยสามารถแบ่งได้ดังนี้
การใช้งาน ‘Digital Currency’ สามารถใช้ได้หลากหลายตั้งแต่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการซื้อสินทรัพย์และลงทุน โดยหลักแล้ว ๆ สามารถนำไปใช้จ่ายได้ดังนี้
จะเห็นได้ว่ามีการใช้เงินดิจิตอลได้หลากหลาย เป็นที่ยอมรับทั้งธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ อยากเคสที่คลาสสิคที่สุดคงหนีไม่พ้นการซื้อพิซซ่าที่แพงที่สุดในโลกด้วยการจ่ายค่าพิซซ่าด้วยบิตคอยน์ นั่นเอง การใช้งานที่หลากหลายนี้แสดงถึงสภาพคล่องของการใช้เงินดิจิตอลที่น่าสนใจและน่าจับตานั่นเอง
ความเสี่ยงของการใช้เงินดิจิตอลมีมากมายโดยความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นเหรียญดิจิตอลสกุลใดก็ตามแบ่งได้ดังนี้
นอกจากความเสี่ยงเหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับเหรียญแล้วยัง ต้องรับความเสี่ยงจากการเก็บรักษารหัสผ่าน กระเป๋าเงินดิจิตอล ไปจนถึงกุญแจเข้าหรัสส่วนบุคคลอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเงินดิจิตอลยังคงเป็นความน่าสนใจของเทรดเดอร์หรือผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความโปร่งใสกับทรัพย์สินของตัวเองอยู่ ซึ่งในอนาคตการที่มีสกุลเงินดิจิตอลอยู่ในโลกดิจิตอลก็คงสร้างความต้องการและความน่าสนใจให้กับเงินสกุลนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยข้อดีของเหรียญที่เอื้อให้กับการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ได้สะดวกขึ้น ก็ย่อมมีโอกาสและอนาคตที่น่าสนใจและช่วยให้การใช้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม
ในประเทศไทยเงินดิจิตอลยังไม่ได้รับการรับรองจากก.ล.ต. ตาม พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจและสินทรัพย์ดิจิทัลฯ และ พรบ.หลักทรัพยฯ โดยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลให้กับประชาชนต้องดำเนินการผ่านกระบวนการ ICO เท่านั้น
การเริ่มต้นลงทุนในเงินดิจิตอลควรศึกษาข้อมูลลักษณะของสินทรัพย์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการลงทุน
จะเห็นได้ว่าข้อดีและประโยชน์ของเงินดิจิตอลที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนมองเห็น มีความน่าสนใจและสร้างโอกาสในการทำกำไรหรือลงทุนต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคต แต่ก็ยังมีความเสี่ยงและข้อกังวลในการของเหรียญดิจิตอลที่มีความผันผวนและเสี่ยงต่อการถูกฉ้อโกง ทำให้ต้องพิจารณาศึกษาและมองหลายมุมให้ถี่ถ้วน รอบด้าน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงทุน ไปกับสินทรัพย์ดิจิตอลได้อย่างสบายใจอีกด้วย
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด