Decentralized หรือการกระจายอำนาจเป็นคำที่คุ้นหูกันโดยเฉพาะในระบบ Blockchain แต่หลายคนอาจยังไม่เห็นภาพว่าจะ Decentralized ได้อย่างไร มีหลักการอย่างไรและนำไปใช้อย่างไรได้บ้าง ในบทความนี้จะพาไปเจาะลึกมากยิ่งขึ้น
Decentralized ซึ่งแปลว่า การกระจายอำนาจ หมายถึงระบบที่ไม่ได้มีศูนย์กลางหรือผู้ควบคุมเพียงคนเดียว แต่ทุกคนในระบบมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและดำเนินการ โดยไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุม
ในแง่ของ Blockchain คือระบบกระจายศูนย์หรือ Decentralized จะเห็นว่าไม่มีคนหรือองค์กรที่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดในระบบได้ เพราะทุกคนสามารถตรวจสอบกันได้ ทำให้ระบบมีความโปร่งใสและปลอดภัยมากขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง Decentralized (กระจายศูนย์) และ Centralized (ศูนย์กลาง) คือวิธีการจัดการและควบคุมในระบบ ซึ่งมีข้อแตกต่างกันที่เห็นได้ชัด ดังนี้
ระบบ Centralized การตัดสินใจและควบคุมทั้งหมดจะอยู่ที่ศูนย์กลาง อาจเป็นผู้บริหารหรือองค์กรที่เป็นเจ้าของที่จะทำหน้าที่ควบคุมและตัดสินใจทุกอย่าง รวมถึงการจัดการทรัพยากรและข้อมูลต่าง ๆ หากเป็นระบบการเงินก็เหมือนธนาคารที่ควบคุมระบบการโอนเงินหรือรัฐบาลที่มีหน้าที่กำหนดนโยบาย ส่วนระบบ Decentralized การตัดสินใจหรือนโยบายจะถูกกระจาย ผู้ที่อยู่ในระบบทุกคนสามารถตัดสินใจหรือมีส่วนร่วมในการควบคุม หรือดำเนินการด้วยตนเอง โดยไม่มีจุดศูนย์กลางที่คอยควบคุม เช่น ระบบ Blockchain ที่ทุกคนสามารถร่วมกันตรวจสอบและยืนยันข้อมูล
Centralized เป็นระบบศูนย์กลางจึงถูกโจมตีได้ง่ายกว่าด้วยการโจมตีที่ศูนย์กลาง เพราะข้อมูลหรือการตัดสินใจดำเนินการต่าง ๆ จะอยู่ที่จุดศูนย์กลาง ดังนั้นหากศูนย์กลางถูกโจมตีก็จะส่งผลกระทบต่อทั้งระบบได้ แต่ Decentralized ข้อมูล การตัดสินใจและดำเนินการ จะถูกกระจายไปทั่วทุกจุดในระบบ ทำให้ระบบมีความปลอดภัยสูงขึ้น ต้องโจมตีทั้งระบบพร้อมกัน ซึ่งเป็นเรื่องยาก เช่น หากระบบ Blockchain ถูกแก้ไขข้อมูลในหนึ่งบล็อกก็จะต้องมีการยืนยันจากทุกคนในเครือข่ายก่อน
สำหรับระบบ Centralized ผู้ใช้ต้องพึ่งพาผู้ควบคุมหรือศูนย์กลางในการเข้าถึงหรือใช้บริการ หากศูนย์กลางมีปัญหาระบบทั้งหมดก็จะใช้านไม่ได้ แต่ในระบบ Decentralized สามารถเข้าถึงได้จากหลายจุด หรือจากเครือข่ายหลายแห่ง ระบบจึงมีความยืดหยุ่นสูง และยังสามารถทำงานต่อไปได้ แม้จะเกิดปัญหาขึ้นกับจุดใดจุดหนึ่ง
ระบบ Centralized ถึงแม้จะจัดการง่ายเพราะมีการควบคุมจากศูนย์กลาง แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาศูนย์กลาง รวมถึงใช้บุคลากรจำนวนมากในการดูแลจัดการ ส่วนระบบ Decentralized ไม่มีศูนย์กลางจึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดการดูแล แต่ต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้น เพื่อรักษาความสมดุลของเครือข่ายเพื่อให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบและยืนยันข้อมูล
Centralized เป็นระบบที่จัดการจากศูนย์กลางการควบคุมจึงทำได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ไม่สามารถตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ง่าย ๆ ส่วน Decentralized ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลและร่วมตัดสินใจได้ ทำให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ จึงทำให้ผู้ใช้เกิดความเชื่อมั่นในระบบ
แม้ว่า Decentralized จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดหลายข้อที่ต้องพิจารณาในการนำไปใช้
Decentralized Blockchain คือ เทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ทำงานในลักษณะกระจายศูนย์ ซึ่งหมายความว่า ไม่มีศูนย์กลางหรือผู้ควบคุมเดียว ที่มีอำนาจในการจัดการหรือควบคุมข้อมูลทั้งหมดในระบบ แต่ทุกคนในเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลและยืนยันข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ Decentralized blockchain มีความโปร่งใส ปลอดภัย และเชื่อถือได้ในระดับสูง
DeFi หรือ Decentralized Finance คือ ระบบการเงินที่ทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยไม่มีการควบคุมจากองค์กรหรือหน่วยงานกลาง เช่น ธนาคารหรือรัฐบาล หลักการทำงานของ DeFi คือการใช้สัญญาอัจฉริยะ (Smart contracts) ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำงานอัตโนมัติบนบล็อกเชนในการให้บริการทางการเงิน เช่น การยืม -ให้ยืมเงิน การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ หรือการลงทุนโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง หลักการสำคัญของ DeFi คือการสร้างระบบการเงินที่โปร่งใส เปิดเผย และไม่พึ่งพาตัวกลาง ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสินทรัพย์ของตัวเองได้มากขึ้น
นอกจาก บล็อกเชน (Blockchain) ที่เป็นเทคโนโลยีหลักในการสร้างระบบ Decentralized แล้ว ยังมี เทคโนโลยีสมัยใหม่ อื่นๆ ที่สามารถนำหลักการ กระจายศูนย์ มาใช้ในการพัฒนาและประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น IoT (Internet of Things) คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ (เช่น เซ็นเซอร์, กล้องวงจรปิด, หรือเครื่องจักร) ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและทำงานร่วมกันได้ ในระบบ IoT แบบกระจายศูนย์ ข้อมูลที่ถูกเก็บและส่งต่อมักจะไม่ถูกเก็บที่ศูนย์กลางเดียว แต่จะถูกกระจายไปยังอุปกรณ์ที่อยู่ในเครือข่ายทำให้มีความเร็วที่สูงขึ้น เพราะไม่ต้องส่งข้อมูลไปประมวลผลที่เซิฟเวอร์กลาง และอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อัตโนมัติ นอกจากนั้น AI (Artificial Intelligence) เช่น สมาร์ตโฟน ก็มีการใช้ระบบ Decentralized โดยการฝึกฝนโมเดล AI โดยไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังเซิฟเวอร์กลาง แต่ฝึกฝนในอุปกณ์นั้นเลย จึงช่วยป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
Decentralized เป็นระบบที่มีประโยชน์และสามารถช่วยพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เกิดความรวดเร็ว ปลอดภัยได้ อย่างไรก็ตาม Decentralized ก็เป็นระบบที่ยังมีข้อจำกัดอยู่ ดังนั้นการนำระบบ Decentralized ไปใช้งาน ผู้พัฒนารวมถึงผู้ใช้งานจะต้องศึกษารูปแบบ และวางพื้นฐานให้เป็นอย่างดี รวมถึงเลือกระบบที่เหมาะสมกับงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วย
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด