Share this
การขุด Bitcoin คืออะไร? กระบวนการและอุปกรณ์ที่ต้องมี

ในยุคที่คริปโตเคอร์เรนซี่กำลังเป็นที่สนใจ มีคนจำนวนมาก รวมถึงบริษัทหลายแห่งหันมาเปิดธุรกิจการขุด Bitcoin แล้วการขุด Bitcoin คืออะไร มีขั้นตอนและวิธีการอย่างไร มาดูกัน
ขุด Bitcoin คืออะไร?
การขุด Bitcoin คือ กระบวนการที่ใช้ในการสร้างและยืนยันธุรกรรมในเครือข่ายบิทคอยน์ (Bitcoin) โดยการแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเพื่อเพิ่มบล็อกใหม่ลงในบล็อกเชน (Blockchain) ของบิทคอยน์ และผู้ที่ขุดจะได้รับรางวัลเป็นบิทคอยน์ใหม่ และช่วยให้ระบบของบิทคอยน์ทำงานได้อย่างปลอดภัยและโปร่งใส
วิธีการขุด Bitcoin
ขั้นตอนการขุดบิทคอยน์ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้พลังคำนวณสูงในการตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมบนเครือข่ายบิทคอยน์ รวมถึงการเพิ่มบล็อกใหม่ลงในบล็อกเชน ของบิทคอยน์ ซึ่งขั้นตอนหลักๆ ของการขุดบิทคอยน์มีดังนี้:
- การตรวจสอบธุรกรรม: ทุกครั้งที่มีการส่งบิทคอยน์จากผู้ใช้คนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ระบบจะเก็บธุรกรรมเหล่านั้นไว้ใน "บล็อก" ของบล็อกเชน แต่ละบล็อกจะมีข้อมูลธุรกรรมหลายรายการ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับบล็อกก่อนหน้า
- การแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Proof of Work): การขุด Bitcoin จะเกี่ยวข้องกับการ แก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งเรียกว่า Proof of Work ผู้ขุดจะต้องใช้พลังคำนวณจากเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาคำตอบที่ถูกต้อง
- การเพิ่มบล็อกใหม่ลงในบล็อกเชน: เมื่อขุดได้สำเร็จ ผู้ขุดจะส่งคำตอบให้กับเครือข่ายเพื่อเพิ่มบล็อกใหม่ลงในบล็อกเชน และธุรกรรมที่อยู่ในบล็อกนั้นจะได้รับการยืนยันว่าเป็นธุรกรรมที่ถูกต้อง
- การได้รับรางวัล: ในกระบวนการนี้ ผู้ขุดจะได้รับรางวัลเป็นบิตคอยน์ใหม่ (การสร้างบล็อกใหม่) พร้อมกับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่มาจากผู้ใช้ที่ทำธุรกรรมในบล็อกนั้น
ขั้นตอนการขุด Bitcoin
1. เตรียมอุปกรณ์การขุด
- เลือกอุปกรณ์การขุด: ผู้ขุดสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) หรือ GPU(Graphics Processing Unit) สำหรับการขุดบิทคอยน์ อุปกรณ์ที่นิยมที่สุดในปัจจุบันคือ ASIC ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานน้อย
- อินเทอร์เน็ต: ระบบต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อรับข้อมูลจากเครือข่ายบิทคอยน์และส่งผลลัพธ์ของการขุดกลับไปยังเครือข่าย ดังนั้นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตต้องเร็วและมีความเสถียร
2. ดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์ขุด
- เลือกซอฟต์แวร์ขุด: เช่น CGMiner, BFGMiner, EasyMiner หรือ NiceHash ที่ช่วยในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายบิตคอยน์และทำการขุด
- ติดตั้งและตั้งค่าซอฟต์แวร์: เมื่อเลือกซอฟต์แวร์ขุดแล้ว ติดตั้งและตั้งค่าการเชื่อมต่อกับ Mining Pool เพื่อร่วมขุดกับผู้ขุดรายอื่น หากต้องการขุดแบบ Solo Mining ก็ไม่ต้องเข้าร่วม Pool และ Bitcoin Network
3. เข้าร่วม Mining Pool
- Mining Pool คือการรวมพลังคำนวณจากผู้ขุดหลาย ๆ คน เพื่อเพิ่มโอกาสในการขุดได้บล็อกใหม่ โดยรางวัลที่ได้จะถูกแบ่งตามการมีส่วนร่วมในพลังการขุด
- เลือก Mining Pool: ผู้ขุดสามารถเลือกเข้าร่วม Mining Pool ที่มีชื่อเสียง เช่น F2Pool, Slush Pool, Antpool หรือ Poolin โดยจะมีค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วม และอัตราการจ่ายที่ต่างกัน
4. การขุด (Mining)
- การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Proof of Work): ในการขุดบิทคอยน์ เครื่องขุดต้องแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ Proof of Work (PoW) เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง
- การเพิ่มบล็อกใหม่: เมื่อแก้ปัญหาสำเร็จ เครื่องขุดจะส่งคำตอบไปยังเครือข่ายเพื่อเพิ่มบล็อกใหม่ลงในบล็อกเชนของบิทคอยน์ การยืนยันธุรกรรมทั้งหมดในบล็อกนั้นจะถูกบันทึกและยืนยัน

ขุด Bitcoin แบบ Solo คืออะไร
การขุด Bitcoin แบบ Solo คือการขุดบิทคอยน์โดยทำการขุดในเครือข่ายบล็อกเชนของ Bitcoin ด้วยตัวเอง โดยไม่เข้าร่วมกับ Pool การขุดกับผู้ขุดรายอื่น ซึ่งหมายความว่าเครื่องขุดของเราจะทำการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เพื่อค้นหาบล็อกใหม่และได้รับรางวัลทั้งหมดในกรณีที่แก้ปัญหาได้สำเร็จ
ข้อดีของการขุดแบบ Solo คือ เราจะได้รับรางวัลทั้งหมด (บล็อกละ 6.25 BTC ตามปัจจุบัน) หากเราสามารถขุดบล็อกได้สำเร็จ แต่ข้อเสียคือโอกาสในการขุดบล็อกได้สำเร็จนั้นมีน้อยมาก เนื่องจากการขุด Bitcoin ต้องใช้กำลังคำนวณ (Hashrate) สูงมาก และเครือข่าย Bitcoin มีนักขุดจำนวนมากที่ร่วมกันทำการขุด
การขุดแบบ Solo จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเครื่องขุดที่มีกำลังประมวลผลสูงมาก และพร้อมรับความเสี่ยงที่การขุดไม่ประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว ต่างจากการขุดแบบ Pool ที่ช่วยให้เรามีโอกาสรับรางวัลเล็กๆ บ่อยขึ้นจากการร่วมมือกับคนอื่น ๆ ในการขุด
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการขุด Bitcoin
การขุด Bitcoin ต้องใช้ พลังคำนวณสูง ดังนั้นอุปกรณ์ที่ใช้ต้องมีความสามารถในการคำนวณที่แรงพอที่จะแข่งขันกับผู้ขุดคนอื่นในเครือข่าย
ASIC (Application-Specific Integrated Circuit)
ASIC Miner เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการขุด Bitcoin เท่านั้น โดยจะมีประสิทธิภาพในการขุดสูงกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปมาก เป็นอุปกรณ์ที่มีพลังคำนวณสูงและสามารถทำการขุดได้เร็วและมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง ASIC ที่นิยมใช้สำหรับขุด Bitcoin ได้แก่ Antminer S19 Pro, Whatsminer M30S, หรือ Bitmain Antminer
ระบบพลังงานไฟฟ้า
ASIC มักต้องการแหล่งจ่ายไฟที่มีประสิทธิภาพและสามารถจ่ายไฟได้ในระดับที่สูง เนื่องจากอุปกรณ์ขุดจะใช้พลังงานไฟฟ้าเยอะมาก แหล่งจ่ายไฟที่ใช้สำหรับ ASIC จะต้องรองรับกำลังไฟที่สูงพอและควรมีการระบายความร้อนที่ดี
ระบบระบายความร้อน
การขุด Bitcoin จะทำให้เครื่องร้อนมาก ดังนั้นระบบระบายความร้อนที่ดีจึงจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องขุดเสียหาย โดยทั่วไปจะใช้พัดลมหรือเครื่องระบายความร้อนแบบน้ำ (Water Cooling) เพื่อช่วยลดอุณหภูมิของอุปกรณ์
อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรและมีความเร็วสูงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการขุด Bitcoin ต้องการการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Bitcoin ตลอดเวลา
ซอฟต์แวร์ขุด (Mining Software)
ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมและเชื่อมต่อกับเครื่องขุด เช่น CGMiner, BFGMiner, หรือ NiceHash โดยจะช่วยให้เราสามารถตั้งค่าและติดตามสถานะการขุดได้
กระเป๋าบิทคอยน์ (Bitcoin Wallet)
สำหรับการรับรางวัลที่ได้จากการขุด Bitcoin จำเป็นต้องมีกระเป๋าบิทคอยน์ (Bitcoin wallet) เพื่อเก็บบิทคอยน์ที่ได้รับ กระเป๋าบิทคอยน์สามารถเป็นแบบออนไลน์, กระเป๋าฮาร์ดแวร์ (Hardware Wallet), หรือกระเป๋าบนมือถือ

ความเสี่ยงและข้อจำกัดของการขุด Bitcoin
การขุด Bitcoin มีความเสี่ยงและข้อจำกัดหลายประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยต้นทุนที่สูง อุปกรณ์การขุด ASIC miners มีราคาแพง และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องใช้ก็มีราคาสูงเช่นกัน เช่น ระบบระบายความร้อน อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูงมากซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักในการขุด นอกจากนั้น Bitcoin ยังมีการปรับระดับความยากในการขุด เมื่อมีนักขุดจำนวนมากเข้าร่วม การขุด Bitcoin จะยากขึ้น ดังนั้นหากจะเริ่มขุด Bitcoin ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายค่าจะคุ้มค่ากับผลกำไรที่ได้รับหรือไม่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขุด Bitcoin
-
มีกฎหมายเกี่ยวกับการขุด Bitcoin ในไทยหรือไม่
ในประเทศไทย การขุด Bitcoin ยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการขุด Bitcoin อย่างชัดเจน แต่มีกฎหมายที่อาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการขุดที่ต้องระวัง ได้แก่ กฎหมายเกี่ยวกับการใช้พลังงาน เนื่องจากการขุดต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก จึงต้องศึกษาข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าหรือข้อจำกัดการใช้พลังงานในเชิงพาณิชย์ และกฎหมายอีกข้อที่ผู้ขุดต้องระมัดระวังคือกฎหมายเกี่ยวกับการเก็บภาษี หากมีการขาย Bitcoin และได้รับกำไร จำเป็นจะต้องเสียภาษีเงินได้ตามที่กรมสรรพากรกำหนด
-
ขุด Bitcoin กำไรหรือไม่
การขุด Bitcoin จะกำไรหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการขุด ได้แก่ ราคาของ Bitcoin ซึ่งมีความผันผวนสูง หากเป็นช่วงที่ Bitcoin มีราคาสูง ก็จะสามารถทำกำไรได้ แต่ถ้าราคาต่ำกำไรจากการขุดอาจไม่คุ้มค่าเนื่องจากต้นทุนที่สูง นอกจากนั้นยังมีการแข่งขันที่สูง หากเครื่องขุดประสิทธิภาพไม่สูง มีพลังการขุดที่ไม่เพียงพอ อาจขุดได้ไม่บ่อย ดังนั้นการเข้าร่วม Mining Pool หรือการขุดร่วมกับคนอื่น ๆ ก็จะช่วยให้มีโอกาสได้รางวัลบ่อยขึ้นและลดความเสี่ยงจากการขาดทุนได้
-
นักขุด Bitcoin ได้เงินจากอะไร
รางวัลที่นักขุด Bitcoin ได้รับจะมาจาก 2 ส่วน คือ รางวัลจากการขุดบล็อก เมื่อเครื่องขุดสามารถแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และขุดบล็อกใหม่ได้สำเร็จ นักขุดจะได้รับ บล็อกรีวอร์ด ซึ่งในปัจจุบัน (มกราคม 2025) บล็อกรีวอร์ดอยู่ที่ 6.25 BTC ต่อบล็อก โดยบล็อกใหม่จะถูกขุดทุก ๆ 10 นาที และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (Transaction fees) ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและจ่ายให้กับนัดขุดที่ขุดบล็อกใหม่
-
ขุด Bitcoin ต้องลงทุนเท่าไหร่
การลงทุนเริ่มต้นในการขุด Bitcoin โดยใช้เครื่องขุด ASIC มีค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 - 300,000 บาท ขึ้นอยู่กับเครื่องขุดและการตั้งค่า ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และการดำเนินงานประจำวัน เช่น ค่าไฟฟ้า
Conclusion
หากต้องการเริ่มขุดบิทคอยน์ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ดีเสียก่อน เพราะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง และยังมีความเสี่ยงและข้อจำกัดอยู่มาก ดังนั้นจึงควรต้องศึกษาให้ดีก่อนทำการลงทุน
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
Share this
- Bitazza Blog (111)
- Crypto Weekly (47)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- Tether (USDt) (8)
- บล็อกเชน (8)
- bitcoin (7)
- missions (7)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Campaigns (3)
- Security (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Social Features (2)
- Stablecoin (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- TradingView (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- ENJ (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- KYC (1)
- NFTs (1)
- SEC (1)
- TRUMP (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)
Subscribe by email

WAN Coin คืออะไร? เหรียญจาก Wanchain กับโซลูชันเชื่อมต่อบล็อกเชน

NEAR Coin คืออะไร? แพลตฟอร์มบล็อกเชนใช้งานง่ายสำหรับทุกคน

มาเลเซียเปิดตัวฮับสินทรัพย์ดิจิทัล เตรียมทดลอง Stablecoin ผูกเงินริงกิต

DOT Coin คืออะไร? เจาะลึก Polkadot และระบบเชื่อมบล็อกเชนแห่งอนาคต

ส่อง PNUT Coin เหรียญมีมมาแรงบน Solana

TON Coin คืออะไร? ทำความรู้จักเหรียญจาก Telegram และอนาคตของ Web3

รู้จัก NOT Coin คืออะไร? เหรียญไวรัลจาก Telegram ที่กำลังเปลี่ยนเกมคริปโตฯ

BabyDoge คืออะไร? วิเคราะห์อนาคตเหรียญมีมในตลาดคริปโตปี 2025

AAVE คืออะไร? แพลตฟอร์มกู้ยืมในโลก DeFi ที่นักลงทุนต้องรู้
