Fibonacci คืออะไร? วิธีใช้กับการเทรดอย่างง่าย พร้อมตัวอย่างจริง

นักเทรดวัยเก๋า นักลงทุนรายเก่า ไปจนถึงผู้ที่สนใจการลงทุน หลาย ๆ คนคงเคยตั้งคำถามกันว่า Fibonacci คืออะไร กันมาบ้างไม่มากก็น้อย หลาย ๆ คนคงนึกภาพไม่ออก ว่าาเครื่องมือนี้ทำงานอย่างไร เพราะเป็นอีกเครื่องมือที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงจะใช้งานได้อย่างดี ทำให้มีทั้งคนที่อยากทำความเข้าใจและเทเครื่องมือนี้ทิ้งไปได้เลย อย่างไรก็ตามเครื่องมือ ฟีโบนักชีถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้การวิเคราะห์กราฟราคาเป็นระบบมากขึ้น ช่วยจับจังหวะการเข้า-ออกตลาดได้ดีขึ้น และสามารถเพิ่มโอกาสทำกำไรได้จริง ไม่ว่าคุณจะลงทุนใน หุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตเคอร์เรนซี บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก ฟีโบนักชี ตั้งแต่พื้นฐาน วิธีใช้งาน ไปจนถึงเคล็ดลับการใช้ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ พร้อมตัวอย่างการใช้งานบนกราฟจริง

Fibonacci คืออะไร

ฟีโบนักชี คือ ลำดับตัวเลขที่ถูกคิดค้นโดยนักคณิตศาสตร์ชื่อ Leonardo Fibonacci ชาวอิตาลี โดยมีหลักการคือ นำตัวเลขสองจำนวนก่อนหน้ามาบวกกันเสมอ เช่น:

0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, …

เมื่อลำดับฟีโบนักชีถูกนำมาวิเคราะห์ จะพบว่าอัตราส่วนที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ได้แก่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, 78.6% และค่า 161.8% เป็นต้น ค่าเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในทางการเงิน เพื่อหา “แนวรับ” และ “แนวต้าน” ของราคา จึงทำให้ฟีโบนักชีเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในวงการเทรดเดอร์

การพบ Fibonacci ในธรรมชาติ

ลำดับฟีโบนักชีไม่ได้มีแค่ในทางคณิตศาสตร์หรือการเงินเท่านั้น แต่ยังสามารถพบได้ในธรรมชาติรอบตัว เช่น การเรียงตัวของกลีบดอกไม้ เกลียวเปลือกหอยและหอยทาก ลักษณะของพายุหมุน รูปแบบการกระจายเมล็ดของดอกทานตะวัน โครงสร้างของกาแล็กซี่ เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ฟีโบนักชี คือ หลักการที่มีอยู่จริงในโลกธรรมชาติ และเมื่อนำมาใช้กับการเงิน ก็สามารถสะท้อนพฤติกรรมของนักลงทุนจำนวนมากที่เคลื่อนไหวไปตาม “สัดส่วนทองคำ” (Golden Ratio)

Fibonacci กับการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค

นักลงทุนและเทรดเดอร์นิยมใช้ การใช้ Fibonacci เพื่อวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา โดยเครื่องมือหลัก ๆ แบ่งได้ดังนี้

1. Fibonacci Retracement

เป็นเครื่องมือที่ใช้บอกแนวรับ-แนวต้านชั่วคราวหลังจากที่ราคาเกิดการเคลื่อนไหวในทิศทางหนึ่ง เช่น ขึ้นแรงแล้วพัก หรือ ลงแรงแล้วดีดกลับ นักลงทุนจะใช้เครื่องมือนี้หาจุดเข้าซื้อหรือทำกำไรในจังหวะพักตัว

2. Fibonacci Extension

ใช้เพื่อประเมินเป้าหมายของราคาในอนาคต (Take Profit) โดยอ้างอิงจากสัดส่วนฟีโบนักชี เช่น ระดับ 161.8%, 261.8% และ 423.6% เป็นต้น เหมาะสำหรับวางแผนทำกำไรระยะกลางถึงยาว

3. Fibonacci Fan และ Fibonacci Arc

เป็นเครื่องมือเชิงภาพ (Graphic Tools) ที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของราคาในรูปแบบเส้นเฉียงหรือเส้นโค้ง แม้จะไม่ได้รับความนิยมเท่า Retracement และ Extension แต่ก็สามารถใช้เสริมมุมมองการเทรดได้

วิธีการใช้ Fibonacci Retracement บนกราฟจริง

ตัวอย่างเช่น หากราคาบิทคอยน์ปรับขึ้นจาก $30,000 ไปยัง $40,000 แล้วเริ่มปรับตัวลง นักลงทุนสามารถใช้ Fibonacci Retracement โดยการลากเส้นจากจุดสูงสุด ($40,000) ลงมาที่จุดต่ำสุด ($30,000) จะได้ระดับสำคัญ เช่น:

• ระดับ 38.2% = $36,180
• ระดับ 50% = $35,000
• ระดับ 61.8% = $33,820

ระดับเหล่านี้ถือเป็นแนวรับที่มีโอกาสสูงที่ราคาจะดีดกลับ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนจุดเข้าซื้อได้อย่างมีระบบมากขึ้น

ข้อดีและข้อจำกัดของการใช้ Fibonacci

• ใช้งานง่าย เครื่องมือมีให้ในทุกโปรแกรมเทรด
• ช่วยหาจุดเข้าและออกได้แม่นยำมากขึ้น
• ใช้ร่วมกับแนวโน้มและอินดิเคเตอร์อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อจำกัดของการใช้ Fibonacci

• ไม่สามารถใช้ได้ผล 100% ต้องใช้ควบคู่กับเครื่องมืออื่น
• หากตลาดไม่มีเทรนด์ชัดเจน อาจให้สัญญาณผิดพลาดได้
• นักลงทุนที่ใช้ฟีโบนักชีอย่างเดียวโดยไม่วิเคราะห์ปัจจัยอื่น มีโอกาสขาดทุนสูง

เคล็ดลับการใช้ Fibonacci ให้ได้ผล

แม้ว่าเครื่องมือฟีโบนักชีจะเป็นที่นิยมและมีประโยชน์ แต่หากใช้อย่างไม่ถูกวิธีอาจให้สัญญาณผิดพลาดได้ ดังนั้นเพื่อให้การใช้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด นักเทรดควรรู้เทคนิคและแนวทางที่เหมาะสม โดยมีเคล็ดลับสำคัญ ดังนี้

• ใช้ร่วมกับแนวโน้ม
  ฟีโบนักชีทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีทิศทางชัดเจน หากตลาดเป็นเทรนด์ขึ้นหรือลงที่ชัด ฟีโบนักชีสามารถบอกจุดพักตัวและจุดกลับตัวได้แม่นยำมากขึ้น
  
  
• วิเคราะห์กรอบเวลาหลายระดับ
  ควรดูภาพรวมใน Timeframe Day หรือ Week ก่อน แล้วจึงค่อยลงไปวิเคราะห์ใน Timeframe เล็ก เช่น 1H หรือ 15M วิธีนี้ช่วยให้เข้าใจแนวโน้มหลักและวางแผนจังหวะเข้าซื้อ-ขายได้ดีขึ้น
  
  
• ใช้ควบคู่กับอินดิเคเตอร์อื่น
  เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น RSI, MACD หรือ Volume เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของแนวโน้ม
  
  
• บริหารความเสี่ยงเสมอ
  การตั้ง Stop Loss และวางแผน Money Management ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันการขาดทุนเกินควบคุมและรักษาทุนสำหรับการเทรดครั้งต่อไป
  
  
• อย่าคาดหวังความแม่นยำ 100%
  ฟีโบนักชีควรใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจ ไม่ใช่เครื่องมือชี้ขาดเพียงอย่างเดียว เนื่องจากสภาวะตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Fibonacci

Q: Fibonacci retracement คืออะไร?

A: คือเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยหาแนวรับ-แนวต้านจากอัตราส่วนของลำดับฟีโบนักชี เช่น 38.2%, 50% และ 61.8%

Q: ใช้ Fibonacci วิเคราะห์หุ้น/คริปโตได้จริงไหม?

A: ได้จริง โดยเฉพาะในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มชัดเจน เช่น หุ้นเทรนด์แรง หรือคริปโตที่มีความผันผวนสูง

Q: ระดับ Fibonacci ที่นักลงทุนใช้บ่อยที่สุดคือระดับใด?

A: ระดับ 61.8% ถือเป็น “สัดส่วนทองคำ” ที่นิยมมากที่สุด รองลงมาคือ 38.2% และ 50%

Conclusion

สรุปแล้ว Fibonacci คือ เครื่องมือวิเคราะห์ที่เข้าใจไม่ยาก และมีประโยชน์อย่างมากในการหาจุดเข้า-ออก รวมถึงการกำหนดแนวรับแนวต้าน แม้จะไม่ได้แม่นยำ 100% แต่หากใช้ควบคู่กับอินดิเคเตอร์อื่น และวางแผนบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ฟีโบนักชีสามารถช่วยให้นักลงทุนเพิ่มโอกาสทำกำไรได้จริง

คำเตือน

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด

อ้างอิง

• investopedia.com
• tradingview.com