Bitazza Thailand Blog

EVM คืออะไร? เจาะลึก Ethereum Virtual Machine สำหรับสายคริปโต

เขียนโดย Bitazza Team - 19 พ.ย. 2025, 6:38:19

 

Ethereum Virtual Machine หรือ EVM คือ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการทำงานบนเครือข่าย บล็อกเชน Ethereum และบล็อกเชนอื่นที่รองรับ Ethereum อีกหลายเครือข่าย เพราะ EVM ถือเป็นกลไกที่ทำให้โค้ดของ Smart Contract ถูกรันเหมือนกันทุกโหนด จึงสร้างทั้งความปลอดภัย ความโปร่งใส และเปิดทางให้เกิดแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ได้จริงในโลกบล็อกเชน

 

EVM คืออะไร

Ethereum Virtual Machine หรือ EVM คือ ระบบประมวลผลแบบกระจายศูนย์ที่ใช้รัน Smart Contract บนเครือข่าย Ethereum ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน Ethereum ข้อดีของ EVM นั้นช่วยประมวลผลโค้ดได้ตรงตามที่ต้องการ 

ทั้งนี้ EVM ยังเป็นเครื่องเสมือนที่ทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์ หรือโหนดหลายพันโหนดที่อยู่บนเครือข่าย Ethereum คุณสมบัติที่เน้นความกระจายศูนย์หรือ Decentralized ส่งผลให้เครือข่าย Ethereum มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ

 

บทบาทของ EVM ในระบบ Ethereum

EVM มีบทบาทสำคัญในการรักษา Consensus รวมทั้งหมดบนบล็อกเชน Ethereum กล่าวคือ โหนดทุกตัวบนเครือข่าย Ethereum จะรัน EVM เหมือนกัน เพื่อให้ทุกโหนดเห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับสถานะของบล็อกเชน ความคิดเห็นที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันนี้เองทำให้เครือข่าย Ethereum ปลอดภัยและคงความถูกต้องของข้อมูล

นอกจากนี้ EVM ยังสามารถรัน Smart Contract ซึ่งส่งผลให้สามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ได้ โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวจะทำงานบนบล็อกเชน ไม่ได้รันบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง จึงช่วยเปิดโอกาสให้ทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้งานสร้างและใช้บริการรูปแบบใหม่ ๆ ได้หลากหลาย ตั้งแต่แอปฯ ด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ไปจนถึงโทเคนที่ไม่ซ้ำกัน (NFTs)

 

 

EVM ทำงานอย่างไร

อย่างที่รู้กันคร่าว ๆ ว่า EVM มีบทบาทในการรัน Smart Contract บนเครือข่ายบล็อกเชน แต่หากพิจารณาขั้นตอนการทำงานของ EVM นั้นจะมีหลายกระบวนการ โดยทั่วไปแล้ว Ethereum Virtual Machine หรือ EVM นั้นมีลักษณะการทำงานที่เปลี่ยน State ของบล็อกเชน โดยการเปลี่ยน State บล็อกเชนนั้นว่าด้วยการคำนวณและอัปเดตสถานะใหม่ที่ถูกต้องจากบล็อกหนึ่งไปสู่อีกบล็อกหนึ่งตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยกฎเหล่านี้เป็นตัวกำหนดวิธีการรัน Smart Contract และอัปเดตสถานะของบล็อกเชน Ethereum

เมื่อระบบรัน Smart Contract แล้วนั้น EVM จะตีความโค้ดของ Contract ดังกล่าว ซึ่งเดิมเขียนด้วยภาษาที่ชื่อว่า Solidity แล้วถูกแปลงเป็นไบต์โค้ด (Bytecode) อีกที จากนั้น EVM จะใช้ไบต์โค้ดนี้ เพื่อทำงานตามขั้นตอนต่าง ๆ และให้มั่นใจว่าโค้ดของ Contract ถูกประมวลผลตรงตามที่เขียนไว้ทุกประการ

 

 

คุณสมบัติเด่นของ EVM

หากว่ากันถึงคุณสมบัติเด่นของ Ethereum Virtual Machine หรือ EVM แล้วนั้น อาจสรุปได้ ดังนี้ 

  • ความเป็น Decentralized Computer ถือเป็นคุณสมบัติเด่นอันดับต้น ๆ ของ EVM โดยธรรมชาติแบบกระจายศูนย์นี้ทำให้แพลตฟอร์ม Smart Contract อย่าง Ethereum หรือ BNB Chain แข็งแกร่งและไม่ถูกควบคุมโดยฝ่ายใดฝ่ายเดียว เพราะกลไกการทำงานของ EVM เอื้อให้เกิดเครือข่ายโหนดโหนดจำนวนมากที่กระจายอยู่ทั่วเครือข่าย ทำให้เกิดการช่วยกันตรวจสอบและรันโค้ดร่วมกัน โครงสร้างแบบนี้ยังสร้างสภาพแวดล้อมแบบ Trustless ที่ทำให้การทำธุรกรรมมีความโปร่งใสและเปลี่ยนแปลงย้อนหลังไม่ได้

  • ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability) จะช่วยให้บล็อกเชนอื่นที่รองรับ EVM สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สื่อสารและโต้ตอบกับ Ethereum mainnet ได้ไม่สะดุด ครอบคลุมทั้งการทำธุรกรรมข้ามเชน ย้ายสินทรัพย์ และการแลกเปลี่ยนข้อมูล การเชื่อมโยงแบบนี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและการเข้าถึแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ได้มาก

  • ความปลอดภัย (Security) EVM ทำหน้าที่เป็นด่านสำคัญที่ทำให้เครือข่าย Ethereum ปลอดภัยและน่าเชื่อถือได้ เพราะโหนดทุกตัวต้องรัน EVM ในแบบเดียวกันและอ้างอิงกฎเดียวกัน ผลก็คือทุกโหนดจะได้ข้อสรุปเหมือนกันเกี่ยวกับสถานะล่าสุดของบล็อกเชน ทำให้ควบคุมหรือแก้ข้อมูลเองไม่ได้ อีกทั้งป้องกันไม่ให้มีธุรกรรมปลอมเข้าระบบ

  • การขยายตัว (Scalability) หากบล็อกเชนต่าง ๆ ปรับใช้กลไก EVM ภายในเครือข่ายบล็อกเชนแล้วนั้น จะช่วยแก้ข้อจำกัดด้านการขยายตัว เพราะกลไกของ EVM เอื้อให้ประมวผลการทำธุรกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกันพร้อมกันได้ โดยทำผ่านการรัน EVM หลายตัวบนเธรดต่าง ๆ ซึ่ง EVM แต่ละตัวจะประมวลผลชุดธุรกรรมของตัวเองอย่างอิสระ

 

 

EVM-Compatible Blockchain คืออะไร

EVM-Compatible Blockchain หรือ ความเข้ากันของเครือข่ายบนกลไก EVM นั้น คือ การส่งเสริมให้บล็อกเชนต่างเครือข่ายทำงานร่วมกันได้ (interoperability) ทำให้สามารถสื่อสารและโต้ตอบกับ Ethereum mainnet ได้อย่างลื่นไหล รองรับทั้งธุรกรรมข้ามเชน การโอนย้ายสินทรัพย์ และการแชร์ข้อมูล เครือข่ายที่เชื่อมโยงกันแบบนี้ช่วยขยายศักยภาพการทำงานและการเข้าถึงของแพลตฟอร์มกระจายศูนย์

ความเป็น EVM-Compatible Blockchain นี้เองทำให้นักพัฒนาสามารถนำ Smart Contract และ dApp ที่เขียนมาสำหรับ Ethereum ไปปรับใช้บนเชนอื่นได้โดยไม่ต้องแก้โค้ดมาก

นอกจากนี้ เชนที่รองรับ EVM ยังช่วยให้นักพัฒนาที่คุ้นเคยกับเครื่องมือและภาษาของ Ethereum อยู่แล้ว พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งลดทั้งเวลาเรียนรู้และอุปสรรคในการเริ่มต้น ส่งผลให้มีคนเข้ามาใช้งานและพัฒนาบนแพลตฟอร์มเหล่านี้มากขึ้น

 

EVM ต่างจาก Smart Contract อย่างไร

จริง ๆ แล้ว Ethereum Virtual Machine หรือ EVM กับ Smart Contract นั้นล้วนมีความสัมพันธ์ที่พึ่งพากันในเชิงการทำงาน กล่าวคือ  Smart Contract คือโค้ดโปรแกรมที่กำหนดกติกา ส่วน EVM คือสภาพแวดล้อมรันไทม์แบบกระจายศูนย์ที่นำโค้ดนั้นไปรันบนเครือข่าย จึงอาจกล่าวได้ว่า ทั้ง EVM และ Smart Contract ไม่ใช่เทคโนโลยีที่มาแข่งกัน แต่เป็นส่วนประกอบที่ทำงานร่วมกันในระบบนิเวศเดียวกัน

 

 

ข้อดีและข้อจำกัดของ EVM

แม้ว่า Ethereum Virtual Machine หรือ EVM จะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่ลองมาเทียบดูกันว่า จริง ๆ แล้ว EVM มีข้อดีและข้อจำกัดที่น่าพิจารณา ดังนี้

ข้อดีของ EVM

  • EVM มีความปลอดภัยสูง เพราะประมวลผลแบบแยกส่วน ทำให้ถูกโจมตีจากโค้ดอันตรายได้ยาก
  • ระบบนิเวศและคอมมูนิตี้นักพัฒนาค่อนข้างใหญ่ ทำให้มีเครื่องมือใช้งานและแหล่งความรู้จำนวนมาก 
  • ความเข้ากันได้ของ EVM ช่วยให้ dApp และโทเคนสามารถย้ายไปทำงานบนเชนอื่นๆ โดยแทบไม่ต้องแก้โค้ดมากนัก
  • EVM สามารถประมวลผลคำสั่งที่ซับซ้อนได้ ทำให้สร้างแอปพลิเคชันที่หลากหลายและซับซ้อนได้ ตั้งแต่ DeFi ไปจนถึง NFT
  • เครือข่ายขับเคลื่อนด้วยโหนดหลายพันตัว จึงยากต่อการถูกควบคุมหรือบิดเบือนโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง 

ข้อจำกัดของ EVM

  • EVM ประมวลผลธุรกรรมทีละรายการ ทำให้รองรับธุรกรรมต่อวินาทีได้ไม่มากนัก เมื่อมีการใช้งานสูงก็จะเกิดปัญหาเครือข่ายหนาแน่น
  • เมื่อมีการใช้งานบนเครือข่ายมาก ความต้องการประมวลผลธุรกรรมก็จะสูงตามไปด้วย ส่งผลให้ Gas Fee แพงขึ้น 
  • การพัฒนาด้วย Solidity และการทำความเข้าใจรายละเอียดปลีกย่อยของ EVM ถือว่าซับซ้อนและต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงอาจเป็นอุปสรรคสำหรับมือใหม่
  • Smart Contract แก้ไขยาหลังจากปรับใช้ EVM ขึ้นไปบนเครือข่ายบล็อกเชนแล้ว หากพบข้อผิดจุดเดียวอาจต้องรื้อและแก้ไขใหม่ทั้งหมด
  • Smart Contract อาจมีช่องโหว่เรื่องโค้ดอยู่ ซึ่งเสี่ยงถูกโจมตีได้ เพราะ EVM ไม่ได้มีระบบตรวจสอบโค้ดภายในให้โดยอัตโนมัติ

 

 

บทบาทของ EVM ต่ออนาคตคริปโต

แม้ว่า EVM จะเป็นองค์ประกอบหลักของเครือข่าย Ethereum แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า EVM จะถูกนำไปปรับใช้เฉพาะบนเครือข่ายบล็อกเชน Ethereum เท่านั้น เพราะยังมีบล็อกเชนอื่นที่ใช้กลไก EVM เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Polygon, Arbitrum และ Avalanche นั่นก็เพราะ EVM มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการรัน Smart Contract ตามที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งเอื้อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่นำไปรันบนหลายบล็อกเชนได้ง่ายขึ้น ความสามารถในการทำงานข้ามเครือข่ายแบบนี้จึงถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญของ EVM และเป็นเหตุผลที่ทำให้ถูกนำไปปรับใช้กันอย่างกว้างขวางในแวดวงของบล็อกเชนคริปโต

เมื่อวงการบล็อกเชนยังคงพัฒาไปเรื่อยๆ EVM ก็มีแนวโน้มจะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไป เพราะความสามารถในการรันสมาร์ตคอนแทรกต์และรักษาฉันทามติบนบล็อกเชน ทำให้มันเป็นองค์ประกอบหลักของบล็อกเชนทุกตัวที่รองรับ dApps

นอกจากนี้ หากว่ากันถึงทิศทางของ EVM ในวันข้างหน้าด้วยแล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่า EVM มีแนวโน้มที่จะถูกนำไปเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนต่าง ๆ ด้วย หรือที่เรียกว่า Interoperability โดยเฉพาะเมื่อมีบล็อกเชนหลายบล็อกเชนหันมาปรับใช้ EVM กันมากขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เกิดแอปพลิเคชันและบริการแบบข้ามเชนรูปแบบใหม่ ๆ ตามมา

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ EVM 

  • EVM Compatible หมายถึงอะไร

EVM  Compatible คือ ความเข้ากันของเครือข่ายบล็อกเชนที่ใช้ EVM โดยสามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับบล็อกเชนอื่นได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะกับ Ethereum mainnet เอื้อให้เกิดการสื่อสารกันข้ามเชนได้ ทั้งการทำธุรกรรม การย้ายสินทรัพย์ และการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทำให้ระบบกระจายศูนย์ขยายตัวได้ง่าย

  • ทำไม Blockchain ส่วนใหญ่ถึงรองรับ EVM

เพราะเครือข่ายบล็อกเชนส่วนใหญ่อยากใช้มาตรฐานเดียวกับบล็อกเชน Ethereum เพื่อย้าย dApp หรือโทเคนได้ง่าย รวมทั้งเชื่อมต่อกับ Ecosystem ที่ใหญ่ที่สุดโดยไม่ต้องแก้โค้ดมากนัก

  • Solidity เกี่ยวข้องกับ EVM ยังไง

Solidity คือภาษาที่ออกแบบมาให้รันบน EVM โดยตรง โดยตัวคอมไพล์จะเปลี่ยน Solidity เป็นไบต์โค้ดที่ EVM เข้าใจแล้วรันบนทุกโหนด


Conclusion

เพราะ EVM ถือเป็นกลไกการขับเคลื่อนเครือข่ายบล็อกเชนที่มีมาตรฐานกลางและปลอดภัย ใช้งานแพร่หลาย และมีเครื่องมือให้พัฒนาจริง ทำให้บล็อกเชนจำนวนมากเลือกจะรองรับ EVM แทนที่จะสร้างระบบใหม่ทั้งหมด นี่จึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่ช่วยรันโค้ดบนเครือข่าย แต่เป็นสะพานเชื่อม Ecosystem บล็อกเชนให้ทำงานร่วมกันได้ และยังเปิดพื้นที่ให้ dApps, DeFi, NFT และบริการ Web3 ใหม่ ๆ เติบโตต่อไปได้ง่ายขึ้น

 

 

คำเตือน

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด

 

อ้างอิง