TURBO coin คือ อีกหนึ่งเหรียญมีมธรรมดาที่ต่างจากมีมคอยน์อื่น ๆ เพราะ Turbo คือสกุลเงินดิจิทัลที่ถือกำเนิดจากคำแนะนำของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในปี 2023 จากฝีมือของศิลปินดิจิทัล Rett Mankind
Mankind ได้ทดลองสร้างเหรียญนี้ขึ้นมาด้วยงบเพียง 69 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยทำตามแนวทางของ ChatGPT ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งชื่อ ออกแบบโลโก้ ไปจนถึงการเปิดตัว TURBO จึงกลายเป็นเหรียญแรกของโลกที่ออกแบบโดย AI อย่างเต็มรูปแบบ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของการผสานโลกมีม เทคโนโลยี และชุมชนผู้ใช้งานเข้าด้วยกันในระบบนิเวศ Web3
จุดเริ่มต้นของ TURBO coin มาจากการตั้งต้นทดลองสร้างเหรียญคริปโตที่ได้แรงบันดาลใจจากปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ผู้สร้างโปรเจกต์ได้ลองสร้างเหรียญมีมด้วยเงินลงทุนเพียง 69 ดอลลาร์สหรัฐฯ
หัวใจหลักของการออกแบบเหรียญ Turbo นั้น เน้นความเรียบง่ายและเข้าถึงได้ทุกคน ระบบนิเวศน์ของเครือข่าย Turbo coin จึงมุ่งเรื่องความโปร่งใสและกระจายศูนย์ด้วย โดยเหรียญมีซัพพลายทั้งหมด 69 พันล้านเหรียญ แบ่งสัดส่วนการกระจายเหรียญออกมาเป็นรอบคราวด์ฟันดิ้ง 60 พันล้านเหรียญ และรอบของ Founder อีก 9 พันล้านเหรียญ
ทั้งนี้ Turbo coin มาพร้อมฟีเจอร์น่าสนใจอย่างปลอดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ใช้เทคโนโลยี Smart Contract เพิ่มลักษณะของการกระจายศูน์ และขับเคลื่อนด้วยพลังของเครือข่ายคอมมูนิตี้
TURBO coin สะท้อนภาพความเคลื่อนไหวในโลก Web3 ที่ไม่จำกัดอยู่แค่เทคโนโลยี แต่เชื่อมโยงกับผู้คน เดิมที TURBO coin ไม่ได้มีทีมงานดั้งเดิมหรือผู้นำที่รวมศูนย์ แต่เติบโตขึ้นจากพลังของชุมชนผู้ใช้งานทั่วโลก ทั้งนักลงทุน ศิลปิน นักพัฒนา และผู้ที่เชื่อมั่นในอนาคตของโลกกระจายศูนย์ แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยชุมชนนี้ทำให้ TURBO coin มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวตามกระแสเทคโนโลยีและวัฒนธรรมใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ TURBO coin ได้ขยายขอบเขตของตนด้วยการเปิดตัว TurboChain ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดย Aurora บนเครือข่าย NEAR Protocol โดย TurboChain ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับศิลปิน นักคิด และนักพัฒนาจากทั่วโลก เพื่อสนับสนุนไอเดียใหม่ ๆ และเปิดโอกาสให้ความฝันถูกต่อยอดไปสู่สิ่งที่จับต้องได้มากขึ้น ถือเป็นการขยับจากโทเคนสู่การสร้างระบบนิเวศน์ที่ใช้งานได้จริง
อย่างไรก็ตาม TURBO coin ยังอยู่บน Ethereum ในฐานะโทเคนมาตรฐาน ERC-20 โดยยึดตามหลักการโปร่งใสและปลอดภัยของบล็อกเชน Ethereum ทั้งหมด ดำเนินธุรกรรมผ่านระบบ Proof-of-Stake ซึ่งหมายความว่าโทเคนนี้ได้รับความปลอดภัยในระดับเดียวกับเครือข่ายหลักของโลก ทุกธุรกรรมและจำนวนเหรียญทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้แบบสาธารณะผ่าน blockchain explorer โดยไม่มีฟีเจอร์ซ่อนเร้นหรือกลไกที่ซับซ้อน
TURBO coin เป็นมีมคอยน์ที่สร้างขึ้นเมื่อเมษายน ปี 2023 โดยศิลปินดิจิทัลชื่อ Rett Mankind โปรเจกต์นี้เริ่มต้นจากการทดลอง โดย Mankind ใช้ GPT-4 และงบเพียง 69 ดอลลาร์ ในการสร้างคริปโตเคอร์เรนซีขึ้นมาหนึ่งเหรียญ เขาทำตามคำแนะนำของ AI ทุกขั้นตอน เพื่อแสดงให้เห็นถึง ศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างนวัตกรรมด้านคริปโต
หลังจากเผชิญอุปสรรคในช่วงเริ่มต้น Rett Mankind เคยพิจารณายุติโครงการนี้ แต่ผลโหวตบน Twitter กลับแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากชุมชน
เขาจึงเปลี่ยนแนวทางมาใช้รูปแบบระดมทุนจากชุมชน โดยเปิดให้ผู้ลงทุนแลกเงินทุนกับโทเคนตามสัดส่วน และทำการรีแบรนด์เหรียญเป็น TURBO และ TURBO coin เปิดตัวในเดือนเมษายน 2023 โดยมีทั้งหมด 69 พันล้านโทเคนบนเครือข่าย Ethereum
ต่อมา Mankind ได้ถ่ายโอนการควบคุมให้กับชุมชน เพื่อส่งเสริมแนวคิดกระจายศูนย์อย่างแท้จริง โปรเจกต์ของเขาได้รับความสนใจในวงกว้าง รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง Beeple และ Elon Musk โดยสามารถทำมูลค่าตลาดได้ถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดแตะ 267 ล้านดอลลาร์ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในไม่กี่สัปดาห์
ปัจจุบัน Turbo ถูกลิสต์ในกระดานเทรดมากกว่า 80 แห่ง รวมถึงแพลตฟอร์มหลักอย่าง OKX, HTX, Bitget, BingX, Bitmart, CoinEX, Binance, Kucoin, Kraken, Uphold และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยทั่วไปแล้ว TURBO coin สามารถใช้ประโยชน์ได้ ดังนี้
ในโลกของมีมคอยน์นั้นยังมีเหรียญมีมอื่น ๆ อีกหลายเหรียญ โดยในบรรดาเหรียญมีมที่มักจะถูกยกมาเปรียบเทียบกับ TURBO coin ก็หนีไม่พ้นเหรียญมีมอย่าง Pepe และ Floki ที่อยู่ในวงการมาระยะหนึ่งแล้ว
จุดสำคัญคือ TURBO coin มีจุดเริ่มต้นจาก AI ซึ่งถือว่าเป็นเหรียญที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีจริง และอาจนำไปสู่สิ่งที่น่าตื่นเต้น เช่น การผสาน AI เข้ากับแพลตฟอร์มศิลปะดิจิทัล เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของมูลค่าเหรียญ ก็ต้องยอมรับว่า Pepe และ Floki มีมูลค่าตลาดสูงกว่าอย่างมาก โดยเฉพาะ Pepe ที่มีมูลค่าถึงระดับพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ Turbo ยังอยู่ในช่วงเติบโต ซึ่งก็สะท้อนว่า Turbo ยังมี โอกาสในการขยายตัวได้อีกมากในอนาคต
นอกจานี้ Altcoin ที่กำลังเป็นกระแสบนแพลตฟอร์มเทรดอีกเหรียญหนึ่งอย่าง Brett (BRETT) ก็ถูกยกมาเปรียบเทียบตีคู่กับ TURBO coin เช่นกัน โดย Brett มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 0.054 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 120%
ขณะนี้ BRETT ใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบสามเดือน และอาจพุ่งขึ้นต่อได้หากทะลุแนวต้านที่ 0.058 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 0.072 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ในขณะที่ TURBO coin เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 191% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 0.004313 ดอลลาร์สหรัฐฯ
อนาคตของ Turbo ยังไม่แน่นอน และขึ้นอยู่กับชุมชนและกระแสของตลาดโดยสิ้นเชิง Turbo ไม่มีทีมพัฒนาหลักอย่างเป็นทางการที่คอยผลักดันการเติบโต ดังนั้นทิศทางในอนาคตจะขึ้นอยู่กับพลังของชุมชนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเกม NFT หรือโปรเจกต์สร้างสรรค์ใด ๆ ล้วนต้องเกิดจากความร่วมมือแบบ grassroots จากผู้ใช้งานเอง
ความนิยมของ Turbo อาจพุ่งขึ้นในช่วงกระแสมีกระแสของตลาดมีมคอยน์ และอาจเงียบหายไปในช่วงที่ตลาดซบเซา จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการประกาศความร่วมมือหรือแผนการขยายตัวอย่างเป็นทางการของ Turbo แต่อย่างใด
ถึงอย่างนั้น Coincodex ได้วิเคราะห์แนวโน้มราคาของ TURBO coin ในอนาคตเรียงแต่ละปี ดังนี้
ในปี 2026 คาดการณ์ว่า TURBO coin จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคาระหว่าง 0.002965 - 0.010251 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเดือนที่มีแนวโน้มเป็นบวกมากที่สุด อาจเป็นเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าเหรียญจะมีราคาสูงกว่าระดับปัจจุบันถึง 169.29%
ภาพรวมราคาของ Turbo ในปี 2027 มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยคาดว่า TURBO coin จะขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 0.006812 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม และอาจลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 0.003556 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนกันยายน
แนวโน้มของ Turbo ในปี 2028 แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเข้าสู่ขาขึ้น โดยคาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 0.004271 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 11.99% จากราคาปัจจุบัน และราคาอาจผันผวนอยู่ระหว่าง 0.003672 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน และ 0.005446 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม นักลงทุนอาจเห็นผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงถึง 42.78% ซึ่งบ่งชี้ว่าสภาพแวดล้อมในการลงทุนนั้นค่อนข้างเอื้ออำนวย
ส่วนปี 2030 นั้น คาดการณ์ว่า TURBO coin อาจเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคามีแนวโน้มผันผวนอยู่ในช่วงระหว่าง 0.007838 - 0.015007 ดอลลาร์สหรัฐฯ นักลงทุนอาจคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง 293.48% ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มขาขึ้นของเหรียญในปีนั้น
โดยทั่วไปแล้ว การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตล้วนมีความเสี่ยง ต้องยอมรับว่า TURBO coin เป็นอีกหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง โดยราคาขึ้นลงเกิดจากกระแสการเก็งกำไรล้วน ๆ โดยไม่มีสินทรัพย์หรือมูลค่าพื้นฐานรองรับ
ผู้ถือเหรียญรายใหญ่เพียงไม่กี่รายสามารถส่งผลกระทบต่อราคาผ่านการซื้อขายในปริมาณมาก อีกทั้งยังเผชิญความเสี่ยงทั่วไปของมีมคอยน์ เช่น การตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล และ การลอกเลียนแบบจากโครงการหลอกลวง
นอกจากนี้ การทำธุรกรรมของ Turbo ต้องใช้ค่าแก๊สบนเครือข่าย Ethereum ซึ่งอาจพุ่งสูงในช่วงที่เครือข่ายแออัด ทำให้การโอนจำนวนเล็กน้อยมีต้นทุนสูงหรือไม่คุ้มค่าที่จะทำ
TURBO coin ถูกสร้างขึ้นตามคำแนะนำของปัญญาประดิษฐ์ (ChatGPT) ทำให้กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกที่ออกแบบโดย AI สิ่งนี้ทำให้ Turbo มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวในฐานะ โปรเจกต์ทดลองของ AI หรือ “Turbo AI Experiment”
TURBO coin รับช่วงต่อระบบความปลอดภัยอันแข็งแกร่งและแนวทางการเข้ารหัสของ Ethereum โดยใช้ อัลกอริธึมการเข้ารหัสขั้นสูง ในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย แม้ว่าธุรกรรมทั้งหมดจะสามารถตรวจสอบได้แบบสาธารณะเพื่อความโปร่งใส แต่ผู้ใช้ Turbo จะทำธุรกรรมผ่าน ที่อยู่กระเป๋าเงินแบบนามแฝง (pseudonymous) ซึ่งช่วยเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัวมากกว่าการทำธุรกรรมทางการเงินแบบดั้งเดิม
แม้จะเริ่มต้นจากการทดลองและไม่มีทีมพัฒนาแบบเป็นทางการ แต่ TURBO coin ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของชุมชนและการสร้างสรรค์โดย AI อย่างแท้จริง ด้วยการขยาย Ecosystem ผ่าน TurboChain ใช้งานใน dApps และสร้างความสนใจในตลาด ทำให้ TURBO coin กลายเป็นเหรียญมีมที่มีมูลค่าทางเทคโนโลยีและโอกาสการใช้งานจริงในอนาคต
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
อ้างอิง