Share this
รู้จักการยืนยันตัวตน KYC และเคล็ดลับการกรอกข้อมูลให้ผ่านฉลุย

ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลบน Bitazza Thailand ไม่ว่าจะผ่านเว็บเทรดหรือแอปพลิเคชัน ทุกคนจะต้องผ่านกระบวนการให้ข้อมูลและนำส่งเอกสารสำคัญที่เรียกว่า การยืนยันตัวตน KYC (Know Your Customer) กันก่อนเพื่อการซื้อขายได้อย่างปลอดภัยและเข้าถึงฟีเจอร์อย่างเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้หลายคนอาจถูกขอให้นำส่งข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมหลังจากการใช้งานไปแล้วสักพัก สิ่งนี้คืออะไรกัน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักการ KYC ว่ามีกี่ครั้ง และทำให้หลายคนต้องส่งเอกสารเพิ่มอีก พร้อมเปิดเคล็ดลับที่ทำให้ KYC ผ่านกันได้อย่างง่ายดาย ไม่ล่าช้า
การยืนยันตัวตน KYC
การยืนยันตัวตน KYC เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ใช้งานทุกคนต้องทำ เพื่อให้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดของ Bitazza Thialand ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
1. การยืนยันตัวตน KYC ครั้งแรก
ลูกค้าจะต้องนำส่งข้อมูลและเอกสารการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมเพื่อซื้อขายและเข้าถึงทุกฟีเจอร์ KYC จะแบ่งออกเป็นหลายระดับ สามารถศึกษาข้อมูลการใช้งานของแต่ละระดับได้ที่นี่
2. การอัปเดต KYC ระหว่างการใช้งาน
การอัปเดตข้อมูลบัญชีลูกค้าให้เป็นปัจจุบันตามรอบทบทวน (Periodic Customer Account Information Update) คือ การตรวจสอบและทบทวนข้อมูลลูกค้าตามรอบเพื่อให้ลูกค้ายืนยันตัวตนและอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันโดยอาจถูกขอให้นำส่งข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติม
หลายคนมักพบปัญหาทั่วไปที่ทำให้การอนุมัติล่าช้า หรือไม่ผ่านในครั้งแรก วันนี้เราจะมาเจาะลึกปัญหาหลัก พร้อมเคล็ดลับการกรอกข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน KYC กัน
2 ปัญหาหลักที่พบบ่อยในการทำ KYC
1. ข้อมูล "ที่อยู่" (Address)
ข้อมูลที่อยู่จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (Permanent Address) ที่อยู่ปัจจุบัน (Home Adress) และที่อยู่ที่ทำงาน (Working Address)
- ฟรีแลนซ์ ปัญหาที่พบบ่อยมักเกิดจากการกรอกชื่อที่ทำงานว่า “บ้าน” แต่กลับใส่ข้อมูลในช่องที่อยู่ปัจจุบันและที่อยู่ที่ทำงานไม่ตรงกัน การอนุมัติจะง่ายขึ้นเมื่อกรอกชื่อที่ทำงานและที่อยู่ที่ทำงานตรงกัน
- ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ระบบจะตรวจสอบการลงทะเบียนบริษัทผ่านเว็บไซต์ Corpus X หากไม่มีข้อมูลบริษัทอยู่ใน CorpusX แนะนำให้แนบเอกสารเพิ่มเติม เช่น
- ใบจดทะเบียนบริษัทหรือเอกสารจดทะเบียนธุรกิจ
- รายการเดินบัญชีธนาคารที่ใช้กับธุรกิจ
2. ข้อมูล "แหล่งที่มาของรายได้" (Source of Fund)
แนะนำให้นำส่งข้อมูลและเอกสารให้ตรงตามแหล่งที่มาของรายได้ ดังนี้
- เงินเดือน เช่น รายการเดินบัญชีธนาคาร สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองทรัพย์สิน เป็นต้น
- ธุรกิจส่วนตัว เช่น เช่น งบการเงินของธุรกิจ รายการเดินบัญชีธุรกิจ ใบจดทะเบียนบริษัทหรือเอกสารการจดทะเบียนธุรกิจ เอกสารแสดงรายได้ธุรกิจ เอกสารเสียภาษีธุรกิจ รายงานการตรวจสอบบัญชีใบสรุปการถอนเงินส่วนตัวจากธุรกิจ ใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง เอกสารการขายสินทรัพย์ของธุรกิจ เป็นต้น
- มรดก เช่น รายการเดินบัญชีธนาคาร หนังสือรับรองยอดเงินในบัญชี หลักฐานรายได้ ใบฝากประจำหรือเอกสารการลงทุนที่คล้ายกัน เอกสารแผนออมทรัพย์ เอกสารการได้รับมรดกหรือของขวัญ เอกสารรายได้จากดอกเบี้ย การขายทรัพย์สินหรือการแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสด เป็นต้น
- การลงทุน เช่น รายงานพอร์ตการลงทุน ใบยืนยันการขายสินทรัพย์ลงทุน สรุปรายการเดินบัญชีจากบัญชีลงทุน เอกสารรับรองรายได้จากการลงทุน สัญญาการซื้อขายหลักทรัพย์ ใบรับรองการถือครองสินทรัพย์ เอกสารภาษีที่เกี่ยวข้อง เอกสารการถอนเงินจากบัญชีลงทุน เป็นต้น
- การกู้ยืม เช่น สำเนาสัญญาเงินกู้ ที่แสดงรายละเอียดการกู้ยืมเงินของท่าน จำนวนเงินและเงื่อนไขการชำระคืน เป็นต้น
- อสังหาริมทรัพย์ เช่น เอกสารการทำธุรกรรมซื้อขายหรือรายได้จากทรัพย์สิน (สัญญาซื้อขาย สัญญาเช่า) หรือ เอกสารที่แสดงถึงรายได้ที่ได้รับจากการทำธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่ท่านซื้อขาย เป็นต้น
- การเก็บออม เช่น รายการเดินบัญชีธนาคาร หนังสือรับรองยอดเงินในบัญชี หลักฐานรายได้ ใบฝากประจำหรือเอกสารการลงทุนที่คล้ายกัน เอกสารแผนออมทรัพย์ เอกสารการได้รับมรดกหรือของขวัญ เอกสารรายได้จากดอกเบี้ย การขายทรัพย์สินหรือการแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสด เป็นต้น
- แหล่งที่มาของรายได้อื่น ๆ เช่น เช่น รายการเดินบัญชีธนาคาร สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองทรัพย์สิน รายงานบัญชีหลักทรัพย์ที่แสดงการถือครองหุ้น พันธบัตร หรือสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น ที่สอดคล้องกับแหล่งที่มาของเงินทุนของท่าน เป็นต้น
นอกจากนี้ คุณสามารถตรวจสอบขั้นตอนอื่น ๆ ในการยืนยันตัวตน KYC ร่วมด้วยเพื่อให้การอนุมัติเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- การถ่ายรูปเอกสารในที่แสงสว่างเพียงพอ และจับกล้องให้นิ่งที่สุด เพื่อป้องกันเอกสารเบลอ มืด หรือมีแสงสะท้อนมากเกินไป ทำให้ระบบอ่านข้อมูลไม่ได้
- ใช้เอกสารที่ระบบระบุชัดเจนและยังไม่หมดอายุ
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูและเอกสารก่อนกดยืนยันทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสะกดผิดและไม่ตรงกันข้อมูลบนเอกสาร
- ถ่ายเซลฟี่ให้เห็นทั้งใบหน้า ไม่มีอุปกรณ์ปิดบังใบหน้า ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
เคล็ดลับการยืนยันตัวตนด้วย ThaiD
คุณสามารถทำให้การ KYC ง่ายด้วยขึ้นอีกด้วยการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD โดยสามารถดูรายละเอียดและวิธีการใช้งานได้ที่นี่
เพียงเท่านี้ การทำ KYC ของคุณก็จะ "ผ่านฉลุย" พร้อมเปิดประตูสู่ทุกฟีเจอร์บน Bitazza Thailand ที่กำลังรอคุณอยู่ได้อย่างเต็มรูปแบบ
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
เรียนรู้เพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog
Share this
- Bitazza Blog (73)
- Crypto Weekly (39)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- บล็อกเชน (8)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Tether (USDt) (4)
- Security (3)
- missions (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Campaigns (2)
- Stablecoin (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- bitcoin (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- ENJ (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- KYC (1)
- NFTs (1)
- SEC (1)
- TRUMP (1)
- TradingView (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)