Share this
วิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถ (FOMO)
วิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถ (FOMO)
ในโลกของคริปโตจะมีปรากฎการณ์ที่ราคาเหรียญถูกเก็งกำไรขึ้นไปอย่างรวดเร็วจนทำให้นักเทรดบางกลุ่มเกิดอาการกลัวที่จะตกรถหรือ FOMO (Fear Of Missing Out) เข้าไปรีบซื้อตามจนทำให้เกิดความเสียหาย มาดูกันว่าจะมีวิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถได้อย่างไร
ทำการบ้านก่อนล่วงหน้า
การที่จะห้ามตัวเองไม่ให้รีบเข้าไปเก็งกำไรในเหรียญที่มีการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วคือการทำการบ้านในการคัดเลือกเหรียญที่จะลงทุนก่อน เพราะถ้าหากไม่มีการทำการบ้านหรือคัดเลือกเหรียญใน Waiting List จะทำให้นักเทรดไม่มีสมาธิจดจ่ออยุ่กับแนวทางการเทรดของตัวเอง แต่จะไปเน้นเทรดตามเหรียญที่เก็งกำไรแต่ละวันมากกว่าซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ทำให้เกิดผลการเทรดที่ดี
หลักการทำการบ้านหรือคัดเลือกเหรียญที่จะเทรดควรจะคัดเลือกด้วยปัจจัยพื้นฐานเป็นปัจจัยแรกเพื่อที่จะได้เหรียญที่มีแรงซื้อเข้ามาด้วยการมี Use Case จริงมากกว่าการปั่นราคาเพียงชั่วคราว จากนั้นก็วิเคราะห์แนวโน้มทางเทคนิค มองหาจุดซื้อ จุดขายและจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้า ถ้าหากฝึกฝนตัวเองให้เทรดอย่างเป็นระบบได้ จิตใจจะโฟกัสกับแผนของตัวเองมากกว่าหวั่นไหวไปตามตลาด
บอกกับตัวเองว่าซื้อเมื่อราคาย่อตัวก็ทัน
กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมสำหรับเหรียญที่มีการเก็งกำไรขึ้นมาอย่างรวดเร็วคือการรอให้ราคาย่อตัวลงมาและเข้าซื้อในระดับแนวรับที่เหมาะสมหรือ Buy On Dip ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำให้ซื้อได้ในต้นทุนที่เหมาะสมและมีความเสี่ยงที่ต่ำ ถ้าหากเหรียญนั้นๆยังคงมีแนวโน้มที่เป็นขาขึ้นอยู่ ถ้าหากฝึกเทรดด้วยกลยุทธ์แบบ Buy On Dip จนมีความคุ้นเคยแล้ว ต่อให้มีเหรียญที่ถูกเก็งกำไรขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นักเทรดจะไม่เกิดอาการกลัวตกรถอีกต่อไป แต่จะบอกกับตัวเองว่า “รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวก็ได้”
หาตัวเล่นอื่นแทน
ในภาวะที่ตลาดเซื่องซึมหรือเป็นขาลง การที่จะมีเหรียญที่พุ่งแรงๆขึ้นมาอาจทำให้นักเทรดหันไปให้ความสนใจเป็นพิเศษ แต่ในภาวะที่ตลาดปกติหรืออยู่ในช่วงขาขึ้น นักเทรดสามารถพูดกับตัวเองได้ว่าโอกาสที่จะเทรดทำกำไรในเหรียญอื่นยังมีอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงเล่นเก็งกำไรในเหรียญที่มีการเก็งกำไรขึ้นมาอย่างฉับพลันก็ได้
โฟกัสกับสไตล์การเทรดของตัวเอง
นักเทรดแต่ละรายควรต้องที่จะหาสไตล์การเทรดหรือ Trade Setup เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Buy On Dip หรือ Breakout เพื่อที่จะไม่ให้เสียสมาธิไปกับตลาดที่มีความอ่อนไหว โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเทรดทำกำไรทุกเหรียญแต่ควรจะเทรดในเหรียญที่กำลังอยู่ใน Trade Setup ที่ตัวเองถนัด เป็นหนึ่งในทางแก้ไขอาการกลัวตกรถ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การฝึกจิตใจตัวเองไม่ให้เกิดอาการกลัวตกรถจะสำเร็จได้ต่อเมื่อมีประสบการณ์อยู่ในตลาดที่นานพอเท่านั้น นักเทรดหน้าใหม่อาจจะยังไม่สามารถแก้ไขอาการกลัวตกรถได้ แต่ขอให้บอกกับตัวเองไว้ว่าเมื่อเรามีประสบการณ์ที่มากขึ้น อาการดังกล่าวก็จะแก้ไขไปได้เอง
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Share this
- Bitazza Blog (111)
- Crypto Weekly (47)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- Tether (USDt) (8)
- บล็อกเชน (8)
- bitcoin (7)
- missions (7)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Campaigns (3)
- Security (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Social Features (2)
- Stablecoin (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- TradingView (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- ENJ (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- KYC (1)
- NFTs (1)
- SEC (1)
- TRUMP (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)
Subscribe by email

WAN Coin คืออะไร? เหรียญจาก Wanchain กับโซลูชันเชื่อมต่อบล็อกเชน

NEAR Coin คืออะไร? แพลตฟอร์มบล็อกเชนใช้งานง่ายสำหรับทุกคน

มาเลเซียเปิดตัวฮับสินทรัพย์ดิจิทัล เตรียมทดลอง Stablecoin ผูกเงินริงกิต

DOT Coin คืออะไร? เจาะลึก Polkadot และระบบเชื่อมบล็อกเชนแห่งอนาคต

ส่อง PNUT Coin เหรียญมีมมาแรงบน Solana

TON Coin คืออะไร? ทำความรู้จักเหรียญจาก Telegram และอนาคตของ Web3

รู้จัก NOT Coin คืออะไร? เหรียญไวรัลจาก Telegram ที่กำลังเปลี่ยนเกมคริปโตฯ

BabyDoge คืออะไร? วิเคราะห์อนาคตเหรียญมีมในตลาดคริปโตปี 2025

AAVE คืออะไร? แพลตฟอร์มกู้ยืมในโลก DeFi ที่นักลงทุนต้องรู้
