Bitazza Thailand Blog

อุปทาน (Supply) คืออะไร? ทำไมส่งผลต่อราคาสินทรัพย์

what is supply

 

รู้หรือไม่? กฎของ “อุปทาน” (Supply) ไม่ได้มีผลแค่กับสินค้าในชีวิตประจำวันอย่าง ข้าวสาร น้ำมัน เท่านั้น แต่อุปทานยังเป็นหัวใจหลักที่คอยกำหนดราคาของสินทรัพย์ดิจิตอลด้วยเช่นกัน บทความนี้จะพานักลงทุนเข้าใจแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับอุปทาน และไขข้อสงสัยว่าทำไมอุปทานจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาในอนาคต 

 


อุปทาน คืออะไร? 

แต่ก่อนที่จะไปทำความเข้าใจว่า “อุปทาน” เกี่ยวข้องอย่างไรกับโลกของคริปโตเคอร์เรนซี มาดูกันก่อนว่าแท้จริงนั้น “อุปทาน” หมายความว่าอย่างไร

“อุปทาน” (Supply) คือ จำนวนของสินค้าหรือบริการที่ผู้ผลิตพร้อมเสนอขายสู่ตลาดในราคาที่กำหนด มาจากแนวคิดพื้นฐานในเศรษฐศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของปริมาณสินค้าและราคาที่ เชื่อมโยงกันเพื่อสร้างสมดุลในตลาด ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ถ้าราคาของกาแฟสูง บริษัทก็ยินดีที่จะผลิตกาแฟมาขายมากขึ้นเพราะต้องการทำกำไร แต่หากราคาของกาแฟถูกลง บริษัทจะผลิตกาแฟมาขายน้อยลง เพราะได้ผลกำไรน้อยนั่นเอง 

 


Business concepts, supply and demand

 

อุปทาน กับ อุปสงค์ ต่างกันอย่างไร

“อุปทาน” (Supply) และ “อุปสงค์” (Demand) มีแนวคิดและความหมายที่แตกต่างอย่างชัดเจน

  • อุปทาน คือ มุมมองจากผู้ผลิต ที่แสดงถึงจำนวนสินค้าหรือบริการที่ผู้ผลิตต้องการขาย ถูกกระตุ้นด้วยกำไรและต้นทุน มีหลักการคือ “เมื่อราคาสินค้าสูงขึ้น อุปทานก็จะมากขึ้น” เพราะผู้ผลิตมีแรงจูงใจที่จะผลิตสินค้าออกสู่ตลาด เพื่อทำกำไรจากการขายในราคาที่สูงขึ้น
  • อุปสงค์ คือ มุมมองจากผู้บริโภค ที่แสดงถึงจำนวนสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคต้องการซื้อ ถูกกระตุ้นด้วยความพึงพอใจและประโยชน์ที่ได้รับจากสินค้า มีหลักการคือ “เมื่อราคาสินค้าสูงขึ้น อุปสงค์จะลดลง” เพราะผู้บริโภคมองว่ามีราคาแพงเกินไป และอาจไม่คุ้มค่ากับการซื้อ อีกทั้งยังสามารถหาสินค้าอื่นที่ราคาถูกกว่าทดแทนได้

และเมื่อราคาของ Supply และ Demand ตรงกัน จะเกิด “ราคาสมดุล” (Equilibrium Price) ซึ่งเป็นจุดที่ปริมาณของผู้บริโภคต้องการซื้อเท่ากับปริมาณของผู้ผลิตที่ต้องการขาย ทำให้เกิดสมดุลในตลาดที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตยอมรับได้ 

 


Supply Chain network with earth globe on white background

 

ปัจจัยที่มีผลต่ออุปทาน

1. ราคา

ราคาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดต่ออุปทาน โดยปกติแล้วเมื่อราคาของสินค้าหรือบริการสูงขึ้น อุปทานของสินค้าจะเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน หากราคาสินค้าลดลง อุปทานก็จะลดลงตามกันไป เนื่องจากผู้ผลิตรู้สึกไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนและลดจำนวนการผลิตลงในท้ายที่สุด

2. ต้นทุนการผลิต

เมื่อต้นทุนการผลิตของสินค้าและบริการ เช่น เช่น วัตถุดิบ วัสดุ บรรจุภัณฑ์ ค่าแรงพนักงาน สูงเกินไป บริษัทอาจจะต้องมีการปรับราคาสินค้าในตลาดให้สูงขึ้นตาม และหากตลาดสามารถรับราคาที่สูงขึ้นได้ อุปทานในตลาดก็จะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าตลาดไม่สามารถยอมรับราคาที่สูงได้ อุปทานในตลาดจะลดลง

3. เทคโนโลยี

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนแปลงระดับของ Supply ได้ เมื่อผู้ผลิตหรือบริษัทมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็สามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าและลดต้นทุนการผลิตได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตจึงสามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้น และอุปทานก็เพิ่มในตลาดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

4. ภาษีและนโยบายรัฐ

นโยบายของภาครัฐ เช่น ภาษี เงินสนับสนุน และกฎระเบียบต่าง ๆ มีผลอย่างมากต่ออุปทาน ยกตัวอย่าง เมื่อรัฐบาลมีการเก็บภาษีการผลิตมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นและอุปทานลดลงในที่สุด หรือหากรัฐบาลมีการออกนโนบายให้เงินสนับสนุนแก่บริษัท ก็สามารถลดต้นทุนการผลิตและเป็นแรงกระตุ้นให้เพิ่มจำนวนสินค้าในการผลิต ทำให้อุปทานเพิ่มขึ้น

5. ภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน

หากมีการเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว โรคระบาด หรือความขัดแย้งทางการเมือง สามารถทำให้การผลิตเกิดการหยุดชะงักหรือปิดตัวลงได้ โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานไปทั่วโลก

 


กฎของอุปทาน (Law of Supply)

กฎของอุปทานคือการโต้ตอบของผู้ผลิตเมื่อราคาของสินค้าเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยกฎระบุไว้ว่า 

“เมื่อราคาของสินค้าสูงขึ้น อุปทานก็จะสูงขึ้น เพราะผู้ผลิตมีแรงกระตุ้นในการผลิตสินค้าเพื่อผลกำไร จึงมีแนวโน้มที่จะผลิตสินค้าออกสู่ตลาดมากขึ้น” ในทางกลับกัน “เมื่อราคาของสินค้าลดลง กำไรที่ผู้ผลิตจะได้รับก็ลงตามไปด้วย ส่งผลให้อุปทานในการผลิตน้อยลง”

ตัวอย่างของอุปทานในชีวิตจริง

อุปทานสามารถพบเห็นได้หลายแบบในชีวิตประจำวันของเรา เช่น 

  • มัทฉะ: ปัจจุบันคนหันมานิยมดื่มมัทฉะมากขึ้น และมีราคาต่อแก้วสูง ทำให้ฟาร์มชาหรือโรงงานต่าง ๆ เพิ่มการผลิตใบชา จึงเป็นอุปทานที่มากขึ้น เพื่อให้รับมือได้ทันต่อความต้องการในตลาด
  • กระเป๋า: เมื่อแบรนด์ผลิตกระเป๋ารุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ราคาขายในตลาดพุ่งสูงขึ้น เจ้าของแบรนด์จะต้องตัดสินใจเพิ่มอุปทาน เพื่อรองรับกระแสความต้องการและสร้างรายได้เพิ่ม
  • สมาร์ทโฟน: ในทุกปีบริษัทจะมีการออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สู่ท้องตลาดพร้อมกับการเพิ่มราคา จึงทำให้อุปทานในตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทต้องการผลิตสินค้าในจำนวนที่มากขึ้น เพื่อทำกำไรจากราคาที่สูงขึ้น

 


 

อุปทาน คืออะไรในโลกคริปโต

ทำความรู้จักกับ Supply ในชีวิตประจำวันกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเจาะลึกไปกับอุปทานในโลกคริปโตเคอร์เรนซีกันบ้าง ว่ามีความสำคัญอย่างไรกับการลงทุน โดยมาเริ่มที่ความหมายกันเลย 

เมื่อพูดถึงอุปทานในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีนั้น “อุปทาน” หมายถึง จำนวนเหรียญหรือโทเคนที่ผู้ผลิตสร้างขึ้นเพื่อใช้ในเครือข่าย 

แต่ Supply ในเหรียญคริปโตนั้นจะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าและไม่ถูกควบคุมโดยองค์กรใดองค์กรนึง เช่น เหรียญ XRP มี Total Supply อยู่ที่ 100 พันล้านโทเคน จึงทำให้นักเทรดสามารถเห็นและคำนวณอุปทานของเหรียญคริปโตได้อย่างโปร่งใส่ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจลงทุน

 


Bitcoin Chess Concept

 

ประเภทของอุปทานในเหรียญคริปโต

1. อุปทานรวม (Total Supply)

​​จำนวนเหรียญหรือโทเคนปัจจุบันที่มีอยู่ในระบบทั้งหมด โดยไม่รวมเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นในอนาคต หรือ เหรียญที่ถูกเผาไปแล้ว (Token Burning) 

2. อุปทานหมุนเวียน (Circulating Supply)

จำนวนเหรียญหรือโทเคนที่กำลังถูกซื้อขายหมุนเวียนอยู่ในตลาด โดยมูลค่ามักมีความผันผวนสามารถขึ้นหรือลงได้ตามช่วงเวลา ซึ่งจะไม่นับรวมเหรียญที่ถูกล็อค สำรอง หรือ ขุดเหรียญ (Mining) อีกทั้งอุปทานหมุนเวียนสามารถสะท้อนมูลค่าตลาด (Market Cap) ของเหรียญที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายได้อีกด้วย

3. อุปทานสูงสุด (Max Supply)

จำนวนเหรียญหรือโทเคนทั้งหมดที่จะมีอยู่ตลอดการใช้งานของสกุลเงินดิจิตอลนั้น ๆ และจะไม่มีการถูกสร้างขึ้นใหม่เพิ่มเติมในอนาคตอีก

 


Person Holding Gold Round Coin

 

ทำไมอุปทานถึงมีผลต่อราคาคริปโต

อุปทานเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่กำหนดราคาเหรียญคริปโตเพราะมีความเกี่ยวข้องกับ “ความหายากของเหรียญ” กล่าวคือ หากเหรียญมี Supply น้อย ก็จะส่งผลให้ราคาสูงขึ้น และหากเหรียญมี Supply มากแต่คนไม่ต้องการ จะส่งผลให้ราคาต่ำลง ยิ่งเฉพาะในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนสูง อุปทานจึงมีผลต่อราคาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 

ตัวอย่างเช่น 

  • Bitcoin มี Max Supply อยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ เมื่อใกล้ถึงเพดานนี้ เทรดเดอร์จึงมองว่าใกล้ขาดแคลน และเกิดความหายาก ราคาของเหรียญเลยสูงขึ้น

 


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอุปทาน 

  • อุปทานส่งผลต่อราคาคริปโตจริงหรือไม่

Supply ในคริปโตใช้หลักการเดียวกับเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน ฉะนั้น อุปทานจึงมีส่วนสำคัญในการส่งผลกระทบต่อราคาเหรียญ เพราะเป็นตัวกำหนดความมีอยู่หรือความขาดแคลนของสกุลเงินดิจิทัลนั้น ๆ หากความต้องการเพิ่มขึ้น แต่เหรียญมีจำกัด ราคาของเหรียญจะสูงขึ้นจากความขาดแคลน ในทางกลับกันหากอุปทานของเหรียญในตลาดมีมากเกินไป แต่นักเทรดไม่ต้องการ ราคาของเหรียญก็จะลดลง

  • เหรียญที่มีอุปทานไม่จำกัดน่าลงทุนไหม

การลงทุนในเหรียญที่มี Supply ไม่จำกัด เช่น Ethereum และ Dogecoin เทรดเดอร์ควรพิจารณาปัจจัยอื่นควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ ประโยชน์การใช้งานจริง และความแข็งแกร่งของคอมมูนิตี้ เนื่องจากการมีอุปทานแบบไม่จำกัดไม่ได้หมายความว่าเหรียญนั้น ไม่น่าลงทุน เพียงแต่อาจส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่าในระยะยาว

  • Circulating Supply กับ Market Cap เกี่ยวกันอย่างไร

อุปทานหมุนเวียน (Circulating Supply) และ มูลค่าตลาด (Market Cap) มีความเชื่อมโยงกันเพราะ Circulating Supply ช่วยสะท้อนจำนวนเหรียญที่ถูกหมุนเวียนในตลาดสาธารณะ จึงทำให้ Market Cap ที่ได้มีความสมจริงมากกว่าการใช้ Total Supply เนื่องจากเหรียญท่ีถูกล็อกหรือสำรองไว้ ไม่สามารถทำการซื้อขายในตลาดได้ จึงไม่ถูกนับรวม

โดยมีวิธีการคำนวน คือ Market Cap = ราคาเหรียญ x Circulating Supply 

 


Conclusion 

“อุปทาน” (Supply) คือ แนวคิดพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ที่ไม่ได้มีบทบาทแค่กับสินทรัพย์ทั่วไปในโลกจริง แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยวิเคราะห์โลกของสกุลเงินดิจิทัลด้วย ดังนั้น ความเข้าใจเกี่ยวกับ Supply ทั้งประเภท และความสัมพันธ์ของอุปทานกับราคา จะสามารถช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งนักเทรดควรวิเคราะห์อุปทานควบคู่กับปัจจัยอื่น ๆ เพื่อที่จะสามารถเข้าใจกลไลตลาดได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุนและสร้างโอกาสในการทำกำไรได้

 

 


คำเตือน

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด

 


อ้างอิง

Subscribe by email

Trump Media เตรียมระดมทุนซื้อ Bitcoin 2.5 พันล้านดอลลาร์และยื่นจัดตั้ง Bitcoin ETF

Trump Media เตรียมระดมทุนซื้อ Bitcoin 2.5 พันล้านดอลลาร์และยื่นจัดตั้ง Bitcoin ETF

4 มิ.ย. 2025, 17:24:12 1 min read
RSI คืออะไร? เจาะลึกอินดิเคเตอร์ยอดฮิต เข้าใจภายใน 5 นาที
RSI (Relative Strength Index)

RSI คืออะไร? เจาะลึกอินดิเคเตอร์ยอดฮิต เข้าใจภายใน 5 นาที

1 มิ.ย. 2025, 14:20:10 1 min read
Swap คืออะไร? ทำไมสาย DeFi ต้องรู้ก่อนพลาดโอกาสในโลกคริปโต
Swap คือ

Swap คืออะไร? ทำไมสาย DeFi ต้องรู้ก่อนพลาดโอกาสในโลกคริปโต

1 มิ.ย. 2025, 13:35:04 1 min read
Yield คืออะไร? เข้าใจผลตอบแทนแบบนักลงทุนมือโปร
Yield farming

Yield คืออะไร? เข้าใจผลตอบแทนแบบนักลงทุนมือโปร

1 มิ.ย. 2025, 1:28:13 2 min read
IPO คืออะไร? รู้ก่อนลงทุนในหุ้นน้องใหม่
 IPO คือ

IPO คืออะไร? รู้ก่อนลงทุนในหุ้นน้องใหม่

1 มิ.ย. 2025, 0:23:28 1 min read
อุปทาน (Supply) คืออะไร? ทำไมส่งผลต่อราคาสินทรัพย์
อุปทาน (Supply) ในโลกคริปโต

อุปทาน (Supply) คืออะไร? ทำไมส่งผลต่อราคาสินทรัพย์

31 พ.ค. 2025, 1:16:36 1 min read
SSF คืออะไร? ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ เหมาะกับใคร?
กองทุน ssf คือ

SSF คืออะไร? ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ เหมาะกับใคร?

31 พ.ค. 2025, 0:18:57 1 min read
Ultron Coin คืออะไร? ทำความรู้จักกับเหรียญดิจิทัลมาแรงในปี 2025
Ultron Coin (UXL)

Ultron Coin คืออะไร? ทำความรู้จักกับเหรียญดิจิทัลมาแรงในปี 2025

30 พ.ค. 2025, 23:33:02 2 min read
Bitazza on the Road! โพสต์ภาพเราบนถนนในกรุงเทพ รับเมิร์ชสุดคูล

Bitazza on the Road! โพสต์ภาพเราบนถนนในกรุงเทพ รับเมิร์ชสุดคูล

30 พ.ค. 2025, 14:39:41 1 min read
Stablecoin คืออะไร? เสถียรแค่ไหนในโลกที่ผันผวน
Stablecoin

Stablecoin คืออะไร? เสถียรแค่ไหนในโลกที่ผันผวน

29 พ.ค. 2025, 23:21:16 2 min read