Share this
นโยบายภาษีของ Trump ป่วนตลาดคริปโตแต่อาจเพิ่มความสนใจใน Bitcoin

สัปดาห์ที่ 8-14 เมษายน 2568
Jeff Park นักวิเคราะห์จาก BitwisePark ระบุว่า นโยบายภาษีนำเข้าของ Donald Trump อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงจากากรก่อหนี้เพิ่มและเสริมสภาพคล่องเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ Bitcoin (BTC) อาจเป็นที่น่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถกักเก็บมูลค่าได้
คณะกรรมาธิการการเงินของสภาผู้แทนสหรัฐอเมริกาลงมติเห็นชอบให้ร่างกฎหมายกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ หรือ STABLE Act เดินหน้าสู่การพิจารณาโดยสภาก่อนจะเสนอให้ประธานาธิบดีลงนามต่อไป โดยทางพรรครีพับลิกันตั้งเป้าผลักดันให้กฎหมายนี้ผ่านภายในเดือนสิงหาคมปีนี้
คณะกรรมาธิการธนาคารสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบให้เสนอชื่อ Paul Atkins ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) 2 สมัยติดต่อกันโดยเข้ารับตำแหน่งต่อจาก Gary Gensler อดีตประธานที่ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ
Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin อย่าง USDT เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 8,888 BTC ในวันสุดท้ายของไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยใช้เงินลงทุนไปทั้งสิ้น 735 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ปัจจุบันถือครองรวม 100,521 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 8.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทได้ประกาศตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ว่าจะกำไร 15% ไปลงทุนใน Bitcoin อย่างต่อเนื่อง
สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฮ่องกง หรือ SFC อนุญาติให้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีใบอนุญาตสามารถให้บริการสเตก พร้อมออกออกแนวทางกำกับดูแลรวมไปถึง ETF ที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่มีสูงขึ้น
Glassnode เปิดเผยว่า นักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin ตั้งแต่ระหว่าง 3-5 ปีที่แล้วยังคงถือครองอย่างต่อเนื่อง โดยมีต้นทุนการถือครองตั้งแต่ราคาต่ำสุด 3,600 ดอลลาร์สหรัฐไปจนถึงราคาสูงสุด 69,000 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2564
วิเคราะห์กราฟเทคนิค

Bitcoin (BTC)
Bitcoin (BTC) ทำจุดต่ำสุดใหม่แต่การที่ยังยืนเหนือระดับแนวรับสำคัญที่ 74,000 ดอลลาร์สหรัฐทำให้ยังคาดหวังการคงความเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม หากแนวรับดังกล่าวไม่สามารถยืนได้จะต้องตัดขาดทุนไปก่อน หากราคาฟื้นตัวขึ้น แนวต้านแรกอยู่ที่ 84,000 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นจุดขายทำกำไรระยะสั้นเพราะตลาดยังผันผวน
- แนวรับ: 2,500,000 บาท / 74,000 USD
- แนวต้าน: 3,000,000 บาท / 84,000 USD

Ethereum (ETH)
Ethereum (ETH) แนวโน้มหลักยังเป็นขาลง มีโอกาสปรับตัวลงมาที่แนวรับ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนี RSI ที่เข้าโซน Oversold อาจทำให้มีรอบฟื้นตัวระยะสั้น กลยุทธ์เน้นเทรดเก็งกำไระยะสั้นไปก่อนเพราะยังไม่เกิดโมเมนตัมขาขึ้น จุดขายทำกำไรอยู่ที่แนวต้านแรก 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 44,000 บาท / 1,400 USD
- แนวต้าน: 72,000 บาท / 2,000 USD

EOS (EOS)
EOS (EOS) ทำผลตอบแทน 5.08% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง กลยุทธ์ใช้แนวทางเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว (Buy On Dip) ที่แนวรับแรก 0.6784 ดอลลาร์สหรัฐ แนวต้านสำหรับขายทำกำไรอยู่ที่ระดับ 0.8857 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 22 บาท / 0.6784 USD
- แนวต้าน: 30 บาท / 0.8857 USD

Cosmos (ATOM)
Cosmos (ATOM) ทำผลตอบแทน -1.12% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มระยะสั้นเคลื่อนไหวแบบออกข้าง โดยมีแนวรับที่จุดต่ำสุดเดิม 3.380 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแนวต้านอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมที่ 5.133 ดอลลาร์สหรัฐ กลยุทธ์ให้ซื้อขายตามกรอบแนวต้านและแนวรับ
- แนวรับ: 120 บาท / 3.380 USD
- แนวต้าน: 170 บาท / 5.133 USD
จับกระแสการลงทุน
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีร่วงแรงหลัง Donald Trump ประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้ไปยังประเทศต่าง ๆ ทำให้ตลาดการลงทุนปรับฐานลงมาทั้งหมด ขณะที่การประกาศตัวเลขอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ อาจมีผลต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC)
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังได้ออกมากล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและนโยบายการเงินว่า นโยบายภาษีนำเข้าอาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นและเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้เป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ยากยิ่งขึ้นและมีความเชื่อว่าผลกระทบต่อเงินเฟ้อจะอยู่ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม FedWatch Tool แสดงให้เห็นโอกาสที่ FOMC จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57% สะท้อนว่า ตลาดมองว่า FOMC อาจต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงคลี่คลายความวิตกกังวลในตลาดการเงิน
แม้ราคาจะลงตามภาวะตลาด แต่ราคา Bitcoin (BTC) รวมถึงทองคำถือว่า สร้างผลตอบแทนมากกว่าตลาดหุ้นพอสมควร เป็นไปได้ว่านักลงทุนอาจมอง Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายภาษีนำเข้า หากได้นโยบายการเงินผ่อนคลายมาช่วยสนับสนุนอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ราคากลับตัวเป็นขาขึ้นได้
ไฮไลท์สำคัญสัปดาห์นี้อยู่ในวันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายนนี้ จะมีการประกาศตัวเลขดัชนีผู้บริโภค (CPI) ของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 2.6% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.8% หากออกมาตามที่คาดจะส่งผลบวกต่อ Bitcoin จากโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
กลยุทธ์การลงทุนเน้นสะสม Bitcoin ตามแนวรับ และตัดขาดทุนอย่างมีวินัย ใส่น้ำหนักการลงทุนไม่เกิน 30% ของพอร์ตรวมเพราะตลาดยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก
แหล่งอ้างอิง
- https://cointelegraph.com/news/no-country-wins-global-trade-war-btc-surge-result
- https://www.coindesk.com/policy/2025/04/02/u-s-house-committee-advances-stablecoin-bill-while-dems-warn-of-trump-conflicts
- https://cointelegraph.com/news/paul-atkins-sec-donald-trump-senate-banking-vote
- https://crypto.news/tether-buys-another-735m-in-btc-in-q1-bringing-total-holdings-to-8-2b/
- https://www.theblock.co/post/349777/hong-kong-crypto-staking-etfs
- https://cointelegraph.com/news/bitcoin-sales-109-k-all-time-high-significantly-below-cycle-tops-research
คำเตือน
- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
Share this
- Bitazza Blog (51)
- Crypto Weekly (37)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- บล็อกเชน (8)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Security (3)
- missions (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Tether (USDt) (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Campaigns (1)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- TradingView (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)