สถิติเผยเดือนกันยายน BTC มักให้ผลตอบแทนน้อยสุด

สัปดาห์ที่ 3 - 9 กันยายน 2567

ราคา Bitcoin (BTC) ปรับตัวลดลง 8.6% ในเดือนสิงหาคม ขณะที่สถิติย้อนหลังนับตั้งแต่ปี 2560 เดือนกันยายนของทุกปี Bitcoin จะสร้างผลตอบแทนติดลบเสมอโดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ -4.41% อย่างไรก็ตาม ปีที่มี Bitcoin Halving เช่นปี 2559 และ 2563 ช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องกันสามเดือน 

ข้อมูลจาก Kaiko ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ถือ Bitcoin มากกว่า 203,000 BTC มูลค่า 12,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เจ้าหนี้ Mt. Gox กำลังจะได้รับ Bitcoin คืนอีก 46,000 BTC มูลค่ากว่า 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม รายงานของ Glassnode ระบุว่าเจ้าหนี้ของ Mt. Gox ที่ได้รับคืนยังไม่ได้ขายออกมาอย่างมีนัยยะสำคัญ 

รัสเซียจะเริ่มต้นทดลองใช้ระบบบัตรชำระเงินแห่งชาติเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างเงินรูเบิลและสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน โดยจะอนุญาตให้ตลาดหลักทรัพย์มอสโกและศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจัดตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการ

Nasdaq ร่วมมือกับ CF Benchmarks ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีสินทรัพย์ดิจิทัล ยื่นเรื่องต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ เพื่อจดทะเบียนและซื้อขาย Nasdaq Bitcoin Index Options (XBTX) โดยเป็นตราสารที่ผู้ลงทุนสามารถจัดการและป้องกันความเสี่ยงของ Bitcoin โดยใช้ตราสารอนุพันธ์ออปชันส์ (options) หากได้รับอนุมัติจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลรายแรกที่ได้รับการอนุมัติจาก US Options Clearing Corporation (OCC) 

MakerDAO รีแบรนด์ครั้งใหญ่เปลี่ยนชื่อเป็น Sky และจะเตรียมเปิดตัวโทเคนใหม่อย่าง SKY และ USDS ในวันที่ 18 กันยายนนี้ โดยทั้งโทเคน DAI และ MKR เดิมจะยังคงใช้งานได้และผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ระหว่างโทเคนเดิมและโทเคนใหม่
 
เครือข่าย Telegram (The Open Network หรือ TON) ไม่สามารถสร้างบล็อกใหม่ได้เป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง จากปริมาณการใช้งานที่สูงผิดปกติต่อเนื่อ งจากการแจกแอร์ดรอปเหรียญมีมชื่อดังอย่าง Dogs (DOGS) โดย Toncoin (TON) ยังยืนยันว่าไม่มีสินทรัพย์ดิจิทัลที่สูญหาย

ค่าธรรมเนียมธุรกรรมรายวันรวมบนเชน Solana ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2567 โดยลดลง 65% จากจุดสูงสุด คาดว่ามาจากกระแสความนิยมในเหรียญมีมที่ลดลงตามภาวะตลาด

วิเคราะห์กราฟเทคนิค

Bitcoin (BTC)

BTC ไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้และไม่มีข่าวดีสนับสนุนทำให้ราคาซึมตัวลง จับตาถ้าราคาหลุดจุดต่ำสุดเดิมที่ 49,000 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มอาจพลิกกลับเป็นขาลงและต้องตัดขาดทุนออกไปก่อน ขณะที่แนวต้านต้องผ่านไปให้ได้ที่ระดับ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ

แนวรับ : 1,760,000 บาท / 49,000 USD
แนวต้าน : 2,200,000 บาท / 65,000 USD

Ethereum (ETH)

ETH ยังได้รับแรงกดดันจากแรงขายจาก Spot Ethereum ETF ราคายังไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ทำให้แนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง ระวังถ้าหลุดแนวรับ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นขาลง โดยต้องผ่านแนวต้าน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มราคาถึงจะไปต่อ

Velo (VELO)

VELO ทำผลตอบแทน 14.85% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแรงซื้อกลับหลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 0.008 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้จุดนี้ตัดขาดทุนถ้าหากหลุดระดับดังกล่าว ขณะที่แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 0.018 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ถึงมองการไล่ซื้อ (follow buy) ที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ

Zentry (ZENT)

ZENT ทำผลตอบแทน 0.08% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟื้นตัวหลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 0.01158 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ถ้าสามารถผ่านแนวต้านที่ 0.02240 ดอลลาร์สหรัฐไปได้ แต่ถ้าปรับตัวลงจะต้องไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ถึงจะสามารถฟื้นตัวต่อเนื่องได้

จับกระแสการลงทุน    

Bitcoin ปรับตัวลงตั้งแต่วันแรกของเดือนกันยายน จากสถิติในอดีต เดือนนี้ Bitcoin มักจะให้ผลตอบแทนที่เป็นลบโดยค่าเฉลี่ยผลตอบแทนอยู่ที่ -4.41% ปัจจัยลบที่กดดันราคา Bitcoin ในเดือนนี้ยังคงเป็นการเทขายของรัฐบาลสหรัฐฯ และเจ้าหนี้ Mt. Gox ที่ถือครอง Bitcoin รวมกันเกือบ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ปลายเดือนกันยายนจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้มีการส่งสัญญาณออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่าอาจจะเป็นโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยลงซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี

โดยไฮไลต์สำคัญคือการประกาศตัวเลข Non Farm Payroll ในวันที่ 6 กันยายน คาดว่าจะออกมาที่ 164,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน 114,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานคาดว่าจะออกมาที่ 4.2% ลดลงจากจากเดือนก่อนที่ 4.3% แต่ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแย่ น่าจะทำให้ตลาดมีความมั่นใจมากขึ้นว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินจะลดดอกเบี้ยค่อนข้างแน่นอน ราคา Bitcoin น่าจะปรับตัวรับข่าวได้ในเชิงบวก

แม้จะมีแรงขาย Bitcoin ออกมาเป็นระยะ แต่จะมีแรงซื้อผ่าน Spot Bitcoin ETF ตามมาด้วยเช่นกัน ประกอบกับเจ้าหนี้ Mt. Gox ส่วนใหญ่ไม่ได้เทขาย Bitcoin ออกมาหลังได้รับการคืนหนี้มากนัก ทำให้คาดการณ์ว่า ดาวไซด์ของ Bitcoin ไม่น่าจะลึกมากนัก ประเมินโอกาสแย่ที่สุดที่ระดับ 49,000 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนระยะยาวยังสามารถสะสม Bitcoin และ Ethereum ได้ ถ้าราคามีการปรับฐานลงเพื่อรอตลาดกลับตัวเป็นขาขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ส่วนนักเทรดระยะสั้นต้องระวังความผันผวนและเน้นทำกำไรระยะสั้นไปก่อน

แหล่งอ้างอิง

• https://cointelegraph.com/news/bitcoin-drops-8-6-august-september-2-week-low
• https://cointelegraph.com/news/bitcoin-sell-pressure-september-2024
• https://decrypt.co/246736/telegram-linked-ton-blockchain-down-binance-bybit-suspend-trading
• https://www.theblock.co/post/313235/makerdao-mkr-sky-dai-stablecoin-usds
• https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-08-26/russia-close-to-starting-trials-of-crypto-payments-exchanges?sref=9y4yH4P8
• https://www.theblock.co/post/313242/nasdaq-seeks-sec-approval-to-list-and-trade-bitcoin-index-options
• https://www.theblock.co/post/312801/solana-daily-transaction-fees-drop-to-multi-month-low-as-memecoin-hype-cools 

คำเตือน

• คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
• ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน