คริปโตครองเวทีในงาน World Economic Forum

สัปดาห์ที่ 28 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2568

ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศในงาน World Economic Forum ผ่านทางออนไลน์ว่า จะผลักดันให้สหรัฐอเมริกาเป็นเมืองหลวงแห่ง AI และสกุลเงินดิจิทัลของโลก 

Donald Trump ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรกเรื่องคริปโทเคอร์เรนซี มีใจความสำคัญ คือ ห้ามจัดตั้งสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (CBDC) และให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างกรอบการกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) โดยคณะทำงานประกอบด้วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อัยการสูงสุด ประธานก.ล.ต. และประธานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ และสมาชิกคณะรัฐมนตรี

Mark Uyeda รักษาการประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้จัดตั้งหน่วยงาน Task Force ด้านคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อจัดทำแนวทางการกำกับดูแลและส่งเสริมที่ชัดเจน โดยแต่งตั้งกรรมาธิการ Hester Pierce เจ้าของฉายา “Crypto Mom” (มาจากจุดยืนที่สนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี) เป็นผู้นำในการดำเนินงาน

ซีอีโอ BlackRock กล่าวในการประชุม  World Economic Forum ว่า ราคา Bitcoin (BTC) มีโอกาสขึ้นแตะระดับ 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากการที่นักลงทุนกังวลเรื่องการด้อยค่าของสกุลเงินเฟียต หากมีการจัดสรร Bitcoin สัดส่วน 2-5% ในพอร์ตลงทุนของนักลงทุนสถาบันจะสามารถผลักดันราคาได้

ตลาดอนุพันธ์ CME เตรียมเปิดตัวสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของ Solana (SOL) และ Ripple (XRP) ที่อาจเริ่มซื้อขายได้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจากหน่วยงานกำกับดูแลซึ่งจะชำระเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

บริษัทจัดการสินทรัพย์ Osprey Funds และ REX Shares ยื่นเอกสารขอจัดตั้ง ETF ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นเหรียญมีมอย่าง Dogecoin (DOGE), Bonk (BONK) และ Official Trump (TRUMP) ซึ่งเป็นเหรียญมีมของ Donald Trump ที่เพิ่งเปิดตัวไปในวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา 

Bitwise ได้ยื่นขอจัดตั้ง ETF ที่ลงทุนใน Dogecoin (DOGE) โดยมองว่าเป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) อันดับ 7 และยังได้รับแรงสนับสนุนจาก Elon Musk รวมถึงได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล

วิเคราะห์กราฟเทคนิค

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) ปรับฐานจากจุดสูงสุด 10% จับตาแนวรับแรกที่ระดับ 97,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากรับไม่อยู่ ให้ชะลอลงทุนไปก่อนเพราะอาจลงมาทดสอบแนวรับถึง 91,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากสามารถยืนได้ เป้าหมายแนวต้านจะอยู่ที่ 106,000 ดอลลาร์สหรัฐ ผ่านไปได้จึงจะมีโอกาสกลับไปทำจุดสูงสุดใหม่

• แนวรับ: 3,100,000 บาท / 91,000 USD
• แนวต้าน: 3,600,000 บาท / 106,000 USD

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) ปรับตัวลงจากจุดสูงสุด 25% แนวโน้มเป็นขาลงแบบ Sideway ต่อเนื่อง จับตาแนวรับที่ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากระดับนี้ แนวโน้มจะกลายเป็นขาลง แนวต้านแรกอยู่ที่ 3,480 ดอลลาร์สหรัฐ ผ่านไปได้จึงจะมีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น

• แนวรับ: 96,000 บาท / 2,800 USD
• แนวต้าน: 120,000 บาท / 3,480 USD

Lido DAO (LIDO)

Lido DAO (LIDO) ทำผลตอบแทน 17.53% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังเคลื่อนที่ Sideway ในกรอบสามเหลี่ยม หากสามารถผ่านแนวต้านที่ 2.50 ดอลลาร์สหรัฐไปได้ แนวโน้มจะกลับตัวเป็นขาขึ้น แต่หากปรับตัวลง แนวรับที่สามารถเข้าซื้อได้อยู่ระดับ 1.40 ดอลลาร์สหรัฐ หลุดจากระดับนี้ให้ตัดขาดทุน

• แนวรับ: 52 บาท / 1.40 USD
• แนวต้าน: 84 บาท / 2.50 USD

1000SATS (SATS)

1000SATS (SATS) ทำผลตอบแทน 17.37% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ก่อนจะปรับตัวลง แนวรับสำคัญที่สามารถใช้เป็นจุดซื้ออยู่ระดับ 217 ดอลลาร์สหรัฐ หากยืนไม่ได้ให้ตัดขาดทุน เป้าหมายแนวต้านในการขายทำกำไรอยู่ที่ 266 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้ถึงมองเป้าหมาย 300 ดอลลาร์สหรัฐ

• แนวรับ: 0.035 บาท / 0.00010 USD
• แนวต้าน: 0.0065 บาท / 0.00019 USD

จับกระแสการลงทุน

แม้ว่า Donald Trump จะประกาศคำสั่งประธานาธิบดีส่งเสริมคริปโทเคอร์เรนซี รวมถึงประกาศในงาน World Economy Forum ว่าจะผลักดันสหรัฐอเมริกาเป็นเมืองหลวงคริปโทเคอร์เรนซี แต่ตลาดเลือกที่จะเทขายทำกำไร 

สหรัฐอเมริกาได้รับแรงกดดันจากการที่จีนเปิดตัว AI อย่าง DeepSeek ที่ฉลาดและมีต้นทุนต่ำกว่าโมเดล AI ของสหรัฐฯ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ถูกเทขายและส่งผลมาถึงตลาดคริปโทเคอร์เรนซี

อย่างไรก็ตาม ยังมอง Downside ของ Bitcoin (BTC) มีจำกัด ปัจจัยลบที่เข้ามายังไม่สามารถบอกได้ว่าจะส่งผลลบต่อคริปโทเคอร์เรนซีในระยะยาว คาดตลาดจะเริ่มรับข่าวดีจากแผนส่งเสริมของสหรัฐอเมริกาที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ 

สัปดาห์นี้จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันพุธที่ 29 มกราคม 2568 ตลาดคาดว่า จะคงดอกเบี้ยที่ 4.5% แต่ต้องจับตาคำแถลงหลังจากนั้นว่ามีมุมมองต่อเศรษฐกิจและนโยบายดอกเบี้ยอย่างไร หากแนวโน้มไปในทางผ่อนคลาย จะส่งผลบวกต่อตลาด แต่หากผลออกมาว่าจะลดจำนวนครั้งที่ลดดอกเบี้ย จะส่งผลลบต่อตลาด 

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาประกาศงบการเงินของหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป หากออกมาแย่ จะส่งผลลบต่อดัชนี Nasdaq รวมไปถึงตลาดคริปโทเคอร์เรนซีด้วย 

กลยุทธ์การลงทุนเน้นหาจังหวะเข้าซื้อ Bitcoin ตามแนวรับ คาดเหรียญทางเลือก (Altcoin) ในภาพรวมยังคงอ่อนแอต่อ ยกเว้นบางเหรียญที่มีปัจจัยหนุนจากพัฒนาการของ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาต่อการส่งเสริมคริปโทเคอร์เรนซี

แหล่งอ้างอิง

• https://cointelegraph.com/news/donald-trump-davos-world-capital-ai-crypto 
• https://cointelegraph.com/news/trump-signs-executive-order-working-group-crypto 
• https://cointelegraph.com/news/sec-crypto-task-force-hester-peirce-trump
• https://cointelegraph.com/news/blackrock-ceo-btc-hit-700k-currency-debasement  
• https://cointelegraph.com/news/cme-website-hints-xrp-sol-futures-debut-february 
• https://cointelegraph.com/news/asset-managers-file-trump-doge-etfs 
• https://www.theblock.co/post/336480/bitwise-files-dogecoin-etf-registration-firm-confirms 

คำเตือน

• คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
• ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน