Share this
JPMorgan เปิดทางลูกค้าลงทุน Bitcoin แล้ว

สัปดาห์ที่ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2568
Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan Chase ยอมเปิดทางให้ลูกค้าสามารถลงทุน Bitcoin (BTC) ได้แล้ว โดยจะไม่มีการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าเอาไว้เอง แม้ว่าตัวเขาเองจะยังไม่ยอมรับใน Bitcoin และยังไม่เห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเปลี่ยนแปลงโลกได้
Bitwise คาดว่า ความต้องการลงทุนใน Bitcoin จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนสถาบันอย่างเช่น บริษัทมหาชน รัฐบาลประเทศต่าง ๆ และ Bitcoin ETF จะมีเงินไหลเข้ามากถึง 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2568 และเพิ่มอีก 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2569
มูลค่าการซื้อขายรวมของ Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสัปดาห์ที่มีการซื้อขายสูงที่สุดในปี 2568 นี้ โดยมีเม็ดเงินไหลเข้ารวม 2,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสัปดาห์ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 โดยกองทุน IBIT ยังครองแชมป์มูลค่าซื้อขายสูงสุด
Wall Street Journal รายงานว่า กลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกานำโดย JPMorgan Chase, Bank of America, Citigroup, Wells Fargo กำลังพิจารณาโปรเจกต์สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ร่วมกันเพื่อแข่งขันกับแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาด
สภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัสโหวตผ่านร่างกฎหมายจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์ของรัฐ โดยตอนนี้กฎหมายคลังสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์มีถึง 47 ฉบับที่ถูกยื่นพิจารณาใน 26 รัฐ
สภานิติบัญญัติของฮ่องกงลงมติผ่านร่างกฎหมาย “Stablecoins Bill” รับรองให้ผู้ที่ต้องการออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงกับสกุลเงินเฟียตจะต้องขอใบอนุญาตจาก ธนาคารกลางฮ่องกงเสียก่อน มีผลบังคับใช้ภายในปี 2568 นี้
วิเคราะห์กราฟเทคนิค

Bitcoin (BTC)
Bitcoin (BTC) สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้สำเร็จก่อนจะมีการพักตัวลงมา แม้ดัชนี RSI จะเข้าเขตปริมาณการซื้อมากเกินไป (Overbought) แต่โมเมนตัมยังสาารถผลักดันราคาขึ้นต่อไปได้ เป้าหมายแนวต้านอยู่ที่ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากมีการปรับฐานลงมา แนวรับ 98,000 ดอลลาร์สหรัฐสามารถใช้เป็นจุดเข้าซื้อได้
- แนวรับ: 3,300,000 บาท / 98,000 USD
- แนวต้าน: 3,900,000 บาท / 120,000 USD

Ethereum (ETH)
Ethereum (ETH) พักตัวเคลื่อนไหวออกข้างเพื่อที่จะสะสมพลังในการปรับตัวขึ้นต่vอ จับตาแนวรับระยะสั้นที่ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดซื้อได้ หากสามารถผ่านแนวต้านที่ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐไปได้ จะขึ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 2,900 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 76,000 บาท / 2,200 USD
- แนวต้าน: 96,000 บาท / 2,900 USD

Worldcoin (WLD)
Worldcoin (WLD) ทำผลตอบแทน 23.76% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังกลับตัวเป็นขาขึ้น หาจังหวะเข้าซื้อแบบเพื่อราคาลดลง (Buy On Dip) ตัดขาดทุนหากราคาหลุดระดับ 1.055 ดอลลาร์สหรัฐ ขายทำกำไรระยะสั้นได้ที่แนวต้าน 1.657 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 36 บาท / 1.055 USD
- แนวต้าน: 52 บาท / 1.657 USD

Artificial Superintelligence Alliance (FET)
Artificial Superintelligence Alliance (FET) ทำผลตอบแทน 21.78% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้นในระยะสั้น ตัดขาดทุนหากหลุดระดับ 0.700 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1.060 ดอลลาร์สหรัฐ หาจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง
- แนวรับ: 25 บาท / 0.700 USD
- แนวต้าน: 34 บาท / 1.060 USD
จับกระแสการลงทุน
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีย่อตัวเล็กน้อยในช่วงสุดสัปดาห์จากข่าวที่สหรัฐอเมริกาจะขึ้นอัตราภาษีตอบโต้กับสหภาพยุโรป 50% ทำให้มีแรงเทขายเกิดขึ้น แต่ภาพรวมไม่ทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวเสียไป ก่อนที่ Donald Trump จะประกาศเลื่อนมาตราการดังกล่าวออกไปทำให้ราคากลับมาฟื้นตัว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ของสหรัฐอเมริกาปรับตัวสูงต่อเนื่อง ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจะช่วยหนุนราคา Bitcoin (BTC) อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังต้องระมัดระวังการเกิดความผันผวนในตลาดการเงินโดยเฉพาะการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพราะอาจมีผลต่อราคา Bitcoin ในช่วงสั้น
สัปดาห์นี้เหตุการณ์สำคัญอยู่ที่การจัดงาน Bitcoin Conference 2025 ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคมนี้ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและที่ปรึกษาทำเนียบขาวเข้าร่วมงานนี้พร้อมเพรียง จับตาความคืบหน้าของการซื้อ Bitcoin ของรัฐบาลกลางที่จะช่วยหนุนราคา
วันพุธ 28 พฤษภาคมนี้จะมีการเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐอเมริกา (FOMC) ครั้งล่าสุด จับตาความเห็นของกรรมการต่อนโยบายดอกเบี้ย และวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคมนี้ มีประกาศผลคาดการณ์จีดีพีไตรมาสแรก คาดออกมาติดลบ 0.3% จากเดิมที่โต 2.4% หากออกมาตามคาด ระยะสั้นจะส่งผลต่อราคา Bitcoin เชิงลบ แต่อาจเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะลดดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด
กลยุทธ์การลงทุน ให้เน้นสะสมเหรียญทางเลือก (Altcoin) ที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) ขนาดใหญ่ที่มีโอกาสเติบโตจากนโยบายด้านคริปโทเคอร์เรนซีของสหรัฐอเมริกาอย่าง Ethereum (ETH), Ripple (XRP), Solana (SOL), Sui (SUI) ส่วน Bitcoin ให้หาจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัว
แหล่งอ้างอิง
- https://www.theblock.co/post/354883/jamie-dimon-says-jpmorgan-will-allow-clients-to-buy-bitcoin-but-firm-will-not-custody-it
- https://cointelegraph.com/news/bitcoin-inflows-projected-to-reach-420b-in-2026-bitwise
- https://www.theblock.co/post/355662/spot-bitcoin-etfs-log-highest-volume-week-of-2025-as-blackrocks-ibit-reaches-30-day-streak
- https://cryptobriefing.com/joint-stablecoin-project-us-banks/
- https://cointelegraph.com/news/texas-house-passes-strategic-bitcoin-reserve-bill
- https://www.theblock.co/post/355202/hong-kong-passes-stablecoin-bill-to-establish-licensing-regime-amid-global-competition
คำเตือน
- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
เรียนรู้เพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog
Share this
Subscribe by email

พบกับ PENGU เหรียญมีมเพนกวินสีฟ้าสุดคูล

บริษัทเอกชนแห่ลงทุนเพิ่มใน Bitcoin สัดส่วนแตะ 4% ของปริมาณทั้งหมด

เหรียญ Popcat Coin คืออะไร? มาจากมีมดังยังไง

FET Coin คืออะไร? เจาะลึก Fetch.ai กับการรวม AI และบล็อกเชน

ZRX Coin คืออะไร? โปรโตคอลแลกเปลี่ยนคริปโตแบบกระจายศูนย์

XAI Coin คืออะไร? เหรียญเกมสาย Arbitrum ที่มาแรงในปี 2025

จับตาพิจารณากฎหมายคริปโต 3 ฉบับช่วง ‘Crypto Week’ ของสหรัฐฯ

ประกาศรายชื่อผู้โชคดีจากแคมเปญ “ถอน WLD รับฟรี! ฮู้ดดี้บิทาซซ่าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ”

รับสมัครครีเอเตอร์ สร้างสรรค์คอนเทนต์จาก TradingView พร้อมใช้ Premium ฟรี*
