Bitazza Thailand Blog

Standard Chartered คาด ราคา XRP จะเติบโตกว่า 500% ภายในปี 2571

CH_TH-Apr-17-2025-11-23-34-0294-AM

 

สัปดาห์ที่ 15-21 เมษายน 2568

Bo Hines ผู้อำนวยการคณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาล Donald Trump เปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาแนวทางในการเข้าซื้อ Bitcoin (BTC) เข้าสู่กองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์โดยไม่ใช้เงินภาษีประชาชน โดยมีแนวทางพิจารณาปรับมูลค่าใบรับรองทองคำที่ถืออยู่ จากปัจจุบันที่ประเมินไว้เพียง 43 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ให้สอดคล้องกับราคาตลาดปัจจุบันทำให้เกิดมูลค่าส่วนเกินในงบดุลของรัฐบาล ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นงบประมาณในการซื้อ Bitcoin

Tim Scott ประธานคณะกรรมาธิการการธนาคารวุฒิสภาของสหรัฐฯ เปิดเผยว่ากฎหมายกำกับดูแลคริปโทเคอร์เรนซีจะได้รับการอนุมัติภายในไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้โดยเฉพาะกฎหมายการสนับสนุนสเตเบิลคอยน์ (Stablecoins) โดยมุ่งเน้นให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีของโลก

ประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามในกฎหมายยกเลิกการจัดเก็บภาษีคริปโทเคอร์เรนซีที่รัฐบาล Joe Biden ได้เซ็นไว้ในช่วงปลายของสมัยการบริหาร การยกเลิกภาษีนี้จะรวมไปถึงธุรกรรมที่เกิดขึ้นจาก DeFi ด้วย

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เลื่อนการตัดสินใจอนุมัติให้กองทุน Spot Ethereum ETF สามารถให้บริการสเตกได้ โดยจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดยมีกำหนดเส้นตายในการตัดสินใจสิ้นสุดในเดือนตุลาคมนี้ โดยมีกองทุน Grayscale, BlackRock และ 21Shares ที่ยื่นเรื่องเข้ามา

Standard Chartered คาดการณ์ราคาเหรียญ Ripple (XRP) จะเติบโตกว่า 500% ภายในปี 2571 โดยได้แรงหนุนจากบทบาทในการเป็นผู้ให้บริการระบบชำระเงินระหว่างประเทศ ทำให้คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดแซงหน้า Ethereum (ETH) ได้ในที่สุด

นักวิเคราะห์ของ Standard Chartered คาดว่า ซัพพลายของสเตเบิลคอยน์  (Stablecoin) จะเพิ่มขึ้นจาก 230,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2571 หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าจากปัจจุบัน การเติบโตอาจทำให้เกิดความต้องการตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ มูลค่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 4 ปีข้างหน้า 

John Mullin ซีอีโอของ Mantra มีแผนที่จะเผาโทเคน Mantra (OM) ในส่วนของทีมงานทั้งหมดออกไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมา หลังจากราคาโทเคน OM ปรับตัวร่วงแรงกว่า 90% ซึ่งเป็นการ Liquidate ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การล่มสลายของ Terra Luna จนทำให้เกิดความวิตกกังวลในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี


วิเคราะห์กราฟเทคนิค

technical-th-01@1-Apr-17-2025-11-48-03-4361-AM

 

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) สามารถเบรคเส้นขากดได้และมีการทำจุดสูงสุดใหม่ได้สำเร็จ ระยะสั้นอาจมีย่อลงมาที่แนวรับ 81,500 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทำแพทเทิร์น Inverse Head and Shoulder จากนั้นอาจปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 89,000 ดอลลาร์สหรัฐ แนวรับที่ต้องจับตาอยู่ที่จุดต่ำสุดเดิม 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ

  • แนวรับ: 2,500,000 บาท / 74,000 USD
  • แนวต้าน: 3,000,000 บาท / 89,000 USD

 

technical-th-02@1-Apr-17-2025-11-48-03-4439-AM

 

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) เริ่มเคลื่อนไหวออกข้างเพื่อรอกลับตัวมาเป็นขาขึ้น หาจังหวะเข้าซื้อที่ราคาไม่ต่ำกว่า 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ แนวต้านแรกอยู่ที่ระดับ 1,700 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่องจะเป็นสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น

  • แนวรับ: 48,000 บาท / 1,400 USD
  • แนวต้าน: 72,000 บาท / 2,000 USD

 

technical-th-03@1-Apr-17-2025-11-48-03-4396-AM

 

Raydium (RAY)

Raydium (RAY) ทำผลตอบแทน 31.22% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มเคลื่อนไหว ออกข้าง รอการเบรคผ่านแนวต้านที่ 2.334 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อกลับตัวเป็นขาขึ้น กลยุทธ์การซื้อขายให้รอซื้อที่แนวรับ 1.400 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดระดับดังกล่าวให้ตัดขาดทุน หรือรอซื้อเมื่อสามารถผ่านทะลุแนวต้านได้

  • แนวรับ: 30 บาท / 1.400 USD
  • แนวต้าน: 80 บาท / 2.334 USD

 

technical-th-04@1-Apr-17-2025-11-48-03-4485-AM

 

Render (RENDER) 

Render (RENDER) ทำผลตอบแทน 26.88% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มพยายามกลับตัวเป็นขาขึ้นโดยการผ่านแนวต้านที่ 4.460 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากยังไม่ผ่านอาจลงมาทดสอบแนวรับที่ 2.490 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดซื้อและตัดขาดทุนหากหลุดระดับดังกล่าว

  • แนวรับ: 90 บาท / 2.490 USD
  • แนวต้าน: 150 บาท / 4.460 USD

 

จับกระแสการลงทุน

ตลาดการเงินยังมีความผันผวนหลังนโยบายภาษีตอบโต้ของ Donald Trump มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่การยืดระยะเวลาเจรจากับประเทศต่าง ๆ ออกไป 90 วันยกเว้นประเทศจีน น่าจะทำให้ผลกระทบไปยังตลาดการเงินจากนโยบายดังกล่าวจะผ่านจุดที่ผันผวนที่สุดไปแล้ว
    
การประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมที่ผ่านมาออกมาต่ำกว่าคาด แต่ตลาดยังไม่ตอบสนองในเชิงบวกมากนัก เพราะยังกังวลผลกระทบจากนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกาจะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นจนไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ ยังต้องจับตาท่าทีของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จะประชุมในเดือนพฤษภาคมนี้ว่าจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไร
    
Bitcoin (BTC) ยังรอปัจจัยบวกสนับสนุน 2 ด้าน คือ การบังคับใช้กฎหมายส่งเสริมคริปโทเคอร์เรนซีที่เป็นรูปธรรมทั้งการเข้าซื้อ Bitcoin เข้ากองทุนสำรองเชิงกลยุทธ์รวมถึงนโยบายส่งเสริมคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ อีกปัจจัยหนึ่งคือการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีตอบโต้ หาก 2 ปัจจัยดังกล่าวเกิดขึ้นจะสามารถผลักดันราคา Bitcoin ให้กลับสู่ขาขึ้นได้อีกครั้ง
    
กลยุทธ์การลงทุนเน้นสะสม Bitcoin และ Ethereum (ETH) ระยะกลางถึงระยะยาว ยังมองไตรมาส 2 มีปัจจัยบวกรออยู่ แต่ต้องระวังความผันผวนจากเหตุการณ์ Blackswans ที่อาจเกิดจากการตอบโต้นโยบายภาษีของ Trump จากประเทศต่าง ๆ จึงควรวางเงินลงทุนสัดส่วน 20-30% ของพอร์ตเพื่อป้องกันความผันผวน

 

แหล่งอ้างอิง

 

คำเตือน

  • คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน