สัปดาห์ที่ 15 - 21 กรกฎาคม 2568

Bitwise Asset Management ระบุว่า ภาคธุรกิจให้ความสนใจใน Bitcoin แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 โดยเพิ่ม Bitcoin เข้าไปในงบดุลรวมกันกว่า 159,107 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.76 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 23.13% ส่งผลให้บริษัทเอกชนถือครอง Bitcoin รวมแล้วกว่า 847,000 BTC หรือประมาณ 4% ของอุปทานทั้งหมด

Truth Social แพลตฟอร์มโซเชียลของประธานาธิบดี Donald Trump ได้ยื่นขอจัดตั้ง ETF ของคริปโตที่มีการลงทุนใน Bitcoin สัดส่วน 75% และ Ethereum 25% รวมถึง ETF ที่ลงทุนในเหรียญทางเลือก (Altcoin) อื่น ๆ ต่อ ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา

Seamus Rocca ซีอีโอของ Xapo Bank กล่าวว่า รูปแบบราคาของ Bitcoin ที่มีวัฏจักรตลาด 4 ปียังไม่จบลงและมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงแรงหลังจากสร้างจุดสูงสุดใหม่ยังคงเป็นไปได้ รวมถึง Bitcoin ยังคงความเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ราคาเคลื่อนไหวตามทิศทางของตลาดหุ้น

Spot Ethereum ETF บันทึกเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิทำลายสถิติสูงสุดที่ 907 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการที่ Ethereum แตะระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง และยังคงรักษาการเติบโตของเงินลงทุนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง

จำนวนซัพพลาย Ethereum (ETH) ที่ถูกนำไปสเตกแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 29.39% ของเหรียญทั้งหมด ใกล้เคียงกับระดับ 1 ใน 3 ของซัพพลายทั้งหมด นักวิเคราะห์มองว่า การพุ่งขึ้นของเปอร์เซ็นต์การสเตกเริ่มต้นจากการอัปเกรดครั้งสำคัญของ Ethereum ที่ชื่อว่า Pectra 

คณะกรรมการกำกับดูแลทรัพย์สินของรัฐประจำนครเซี่ยงไฮ้เรียกร้องให้มีการศึกษาเรื่อง Stablecoin ที่ผูกกับเงินหยวน (Yuan-backed Stablecoin) รองรับการขยายตัวของเทคโนโลยี โดยมองว่าฮ่องกงน่าจะเป็นพื้นที่เหมาะสมในการทดลอง Stablecoin ที่ผูกกับหยวน จากการที่มีตลาดเงินหยวนต่างประเทศ (Offshore RMB) ซึ่งสามารถใช้สร้าง Stablecoin ได้ในอนาคต

วิเคราะห์กราฟเทคนิค

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) สร้างจุดสูงสุดใหม่ได้สำเร็จด้วยการผ่านระดับราคา 112,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นมาทดสอบ 121,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายต่อไปอยู่ที่ระดับ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ จับตาการย่อตัวลงมา สามารถเข้าซื้อได้ที่จุดสูงสุดเดิมที่กลายมาเป็นแนวรับสำคัญที่ 112,000 ดอลลาร์สหรัฐ จับตาดัชนี RSI เริ่มเข้าเขต Overbought อาจมีการพักตัวช่วงสั้น

• แนวรับ: 3,700,000 บาท / 112,000 USD
• แนวต้าน: 4,200,000 บาท / 130,000 USD

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) มีการเบรคผ่านแนวต้านสำคัญที่ 2,850 ดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จ ทำให้ราคาดังกล่าวทำหน้าที่เป็นแนวรับหลักต่อไป เป้าหมายต่อไปอยู่ที่ระดับ 3,300 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะขึ้นทดสอบเป้าหมายที่จุดสูงสุดเดิมตลอดกาลที่ระดับเกินกว่า 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว

• แนวรับ: 92,500 บาท / 2,850 USD
• แนวต้าน: 106,000 บาท / 3,300 USD

Stellar (XLM)

Stellar (XLM) ทำผลตอบแทน 80.80% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นค่อนข้างเร็ว ให้รอจังหวะที่ราคาปรับตัวลงมาแล้วหาจังหวะในการเข้าซื้อ ไม่แนะนำให้ไล่ราคาระดับสูง จับตาแนวรับไม่ควรต่ำกว่า 0.3630 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่แนวต้าน 0.5400 ดอลลาร์สหรัฐ

• แนวรับ: 12 บาท / 0.3630 USD
• แนวต้าน: 18 บาท / 0.5400 USD
  
  

1Inch (1INCH)

1Inch (1INCH)  ทำผลตอบแทน 66.48% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาย่อตัวลงมาหลังปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง หาจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ 0.2617 ดอลลาร์สหรัฐ ที่เคยเป็นแนวต้านเดิมมาก่อน ถ้ารับไม่อยู่ให้ตัดขาดทุนไปก่อน แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมที่ 0.3874 ดอลลาร์สหรัฐ

• แนวรับ: 9.50 บาท / 0.2617 USD
• แนวต้าน: 12.50 บาท / 0.3874 USD

จับกระแสการลงทุน

ราคา Bitcoin สร้างจุดสูงสุดใหม่ก่อนจะมีการประกาศกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีในสัปดาห์ Crypto Week จับตาการ Sell On Fact ที่อาจเกิดขึ้นหากยังไม่มีการประกาศความคืบหน้าใหม่ เช่น การซื้อ Bitcoin เข้ากองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลกลาง แต่การย่อตัวลงมายังไม่เป็นการเปลี่ยนทิศทางขาขึ้นแต่อย่างใด
    
เริ่มมีแรงซื้อเหรียญทางเลือก (Altcoin) กลับเข้ามาโดยเฉพาะเหรียญกลุ่มที่เคยมีการเก็งกำไรมาก่อนใน Altcoin Season รอบที่แล้ว กลยุทธ์ให้เน้นเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวเป็นหลักและทยอยสะสมเหรียญที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง
    
ประเด็นที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้อยู่ที่การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อหรือ CPI คาดว่าจะออกมาที่ 2.6% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.4% หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาด น่าจะเป็นผลบวกต่อตลาดจากโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) จะลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด 
    
กลยุทธ์การลงทุน: แนวโน้ม Bitcoin ยังคงเป็นขาขึ้น แต่ระยะสั้น Upside เริ่มจำกัด สามารถเพิ่มน้ำหนักการลงทุนไปยัง Altcoin ที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ได้มากขึ้น เน้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายของสหรัฐอเมริกาอย่างกลุ่มที่เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) และ DeFi 

แหล่งอ้างอิง

• https://cointelegraph.com/news/bitcoin-treasury-record-159107-btc-q2
• https://cointelegraph.com/news/truth-social-dual-crypto-etf-filing-acknowledged-by-sec
• https://cointelegraph.com/news/four-year-bitcoin-cycle-not-dead-xapo-ceo
• https://www.theblock.co/post/362318/two-straight-billion-dollar-inflow-days-bring-spot-bitcoin-etfs-to-158-billion-in-total-net-assets
• https://www.theblock.co/post/361372/pectra-upgrade-spurs-eth-staking-surge-consolidating-validators-and-cutting-costs
• https://cointelegraph.com/news/shanghai-mulls-stablecoin-despite-china-crypto-ban-report 

คำเตือน

• คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
• ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

เรียนรู้เพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog

• สรุป Bitcoin คือ อะไร รวมทุกเรื่องควรรู้ก่อนลงทุนเหรียญ BTC
• ญี่ปุ่นเสนอปรับสถานะคริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การเงิน ปูทางออก ETF และลดภาษี