Share this
เลือกตั้งสหรัฐฯและเศรษฐกิจมหภาค จะเป็นปัจจัยหลักต่อตลาดคริปโต ช่วงปลายปีนี้

สัปดาห์ที่ 15-21 ตุลาคม 2567
Kamala Harris แคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจากพรรคเดโมแครตเผยนโยบายสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีให้กับกลุ่มคนผิวดำเพื่อช่วยเพิ่มความมั่งคั่งให้คนกลุ่มนี้ โดยมีข้อมูลว่า ชาวอเมริกันผิวดำกว่า 20% เป็นเจ้าของหรือเคยเป็นเจ้าของคริปโทเคอร์เรนซี ทำให้ประชากรกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์จากการกำกับดูแลและการปกป้องนักลงทุน
Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bitwise กล่าวว่า ผลกระทบหลักที่มีต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มาจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจมหภาค และปัจจัยเฉพาะของตลาด หากไม่มีปัจจัยด้านลบที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ราคา Bitcoin (BTC) มีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในปีนี้
DappRadar รายงานว่า ตัวเลขการใช้งานแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Application) หรือ DApp ในไตรมาสที่ 3 เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีการใช้งานรายวันสูงถึง 17.2 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 70% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจาก DApp ที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเพิ่มขึ้น 71% ขณะที่การใช้งาน DeFi ลดลงในไตรมาสเดียวกัน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (IOSCO) ได้สำรวจความคิดเห็นใน 24 ประเทศ พบว่า ใน 15 ประเทศ นักลงทุนรายย่อย 10% หรือมากกว่านั้นเป็นเจ้าของคริปโทเคอร์เรนซี ขณะที่ในอีก 6 ประเทศ มีสัดส่วนสูงถึง 30% หรือมากกว่านั้น พุ่งสูงขึ้นจากในปี 2020 ที่ครึ่งหนึ่งของประเทศที่เข้าร่วมแบบสำรวจมีนักลงทุนที่เป็นเจ้าของคริปโทเคอร์เรนซีเพียง 1% ถึง 5% หรือน้อยกว่านั้น
Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum (ETH) เสนอความคิดเห็นให้ลดข้อกำหนดการวางสเตกให้มีขั้นต่ำอยู่ที่ 1 ETH จากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 32 ETH เพราะขั้นต่ำในปัจจุบันอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้คนจำนวนมากที่ต้องการเข้าร่วมเครือข่าย การลดตัวเลขขั้นต่ำลงจะทำให้ผู้คนมากขึ้นสามารถมีส่วนร่วมในการส่งเสริมความปลอดภัยและการกำกับดูแล และช่วยให้ Ethereum มีการกระจายอำนาจมากขึ้น
จำนวนครั้งที่มีผู้ค้นหาคำว่า “Bitcoin” บน Google ลดลงต่ำสุดในรอบ 1 ปี ขณะเดียวกัน จำนวนครั้งในการค้นหาคำว่า “Memecoins” พุ่งสูงแตะระดับ 77 ครั้งในการค้นหา 100 ครั้ง โดย Ki Young Ju ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง CryptoQuant คาดว่า ความสนใจในเหรียญมีม (Memecoin) จะกลับมาทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลเดิมได้อีกครั้งภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
MatrixPort รายงานว่า มีผู้ใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีแล้ว 7.51% จากประชากรโลกทั้งหมด และคาดว่าตัวเลขนี้จะสูงกว่า 8% ภายในปี 2025 ปัจจัยหลักที่ผลักดันการใช้งานมาจากการมีส่วนร่วมของนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหญ่อย่าง BlackRock
วิเคราะห์กราฟเทคนิค

Bitcoin (BTC)
Bitcoin (BTC) พุ่งทดสอบแนวต้านที่ 66,500 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ยังไม่ผ่านแนวต้านนี้แต่การที่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่เหนือ 64,500 ดอลลาร์สหรัฐได้เป็นสัญญาณการฟื้นตัวเป็นขาขึ้น มองเป้าหมายสัปดาห์นี้ที่ระดับเหนือ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วน RSI ยังคงทำโมเมนตัมที่จะสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้
- แนวรับ: 2,000,000 บาท / 62,000 USD
- แนวต้าน: 2,520,000 บาท / 70,000 USD

Ethereum (ETH)
Ethereum (ETH) พุ่งแรงตาม Boitcoin ทดสอบแนวต้านแรกที่ 2,600 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มมีโอกาสทดสอบแนวต้านเป้าหมายที่ 2,750 ดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ หากมีการย่อตัวลง แนวรับแรกจะอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวรับที่ 2 อยู่ที่ 2,270 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้ายืนเหนือ 2 แนวรับนี้ แนวโน้มจะยังสามารถปรับตัวขึ้นได้
- แนวรับ: 76,000 บาท / 2,270 USD
- แนวต้าน: 96,000 บาท / 2,750 USD

Book Of Meme (BOME)
Book Of Meme (BOME) ทำผลตอบแทน 54.55% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นแรงและเร็ว อาจจะเข้าสู่รอบย่อตัว ให้รอซื้อที่ระดับราคาที่ปลอดภัย ประเมินแนวรับที่ 0.0085 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถเข้าไปซื้อได้และใช้เป็นจุดตัดขาดทุนถ้าหากรับไม่อยู่ เป้าหมายอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมที่ 0.014 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 0.28 บาท / 0.0085 USD
- แนวต้าน: 0.42 บาท / 0.014 USD

BabyDoge (BABYDOGE)
BabyDoge (BABYDOGE) ทำผลตอบแทน 40.29% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องแต่มีความผันผวนสูง หาจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ 0.0000000028 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายแนวต้านอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมก่อนหน้านี้ที่ 0.0000000038 ดอลลาร์สหรัฐ ราคามีความผันผวนสูงต้องอาศัยการซื้อขายอย่างมีวินัยสูง
- แนวรับ: 0.000000090 บาท / 0.0000000028 USD
- แนวต้าน: 0.00000014 บาท / 0.0000000038 USD
จับกระแสการลงทุน
การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำให้ราคา Bitcoin (BTC) รวมถึงเหรียญทางเลือก (Altcoin) ฟื้นตัวกลับมา ประกอบกับความชัดเจนของนโยบายส่งเสริมคริปโทเคอร์เรนซีของ Kamala Harris และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ Bitcoin กลับมาให้ผลตอบแทนเป็นบวกในเดือนตุลาคมในที่สุด
จากสถิติในอดีต ตลาดขาขึ้นในปีที่เกิด Bitcoin Halving จะเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ประกอบกับการที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกายังสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนตลาดคริปโทเคอร์เรนซีต่อ
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามประกาศงบประมาณไตรมาส 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หากตัวเลขเติบโตจะช่วยหนุนตลาดคริปโทเคอร์เรนซีให้เป็นไปในทางเดียวกัน
แม้ว่า Bitcoin จะปรับตัวขึ้นแรงแต่ดัชนี Total3 ย่อตัวลงเพียงเล็กน้อย บ่งบอกว่าเหรียญทางเลือกเองมีการฟื้นตัวขึ้นแรงเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มเหรียญมีม (Memecoin) ที่เติบโตมากกว่าตลาด อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นสัญญาณของเหรียญกลุ่ม DeFi โดยเฉพาะกลุ่ม Liquid Staking และ Restaking ที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นเช่นกัน
มีโอกาสสูงที่ตลาดจะเข้าสู่ขาขึ้นเต็มตัว สามารถเพิ่มน้ำหนักการลงทุนได้แต่ไม่เน้นการไล่ราคา กลยุทธ์ที่เหมาะสม คือ การซื้อเมื่อราคาย่อตัวหรือ Buy On Dip
แหล่งอ้างอิง
- https://www.theblock.co/post/320930/vice-president-kamala-harris-vows-to-support-a-crypto-regulatory-framework-in-plan-to-support-black-men
- https://www.theblock.co/post/320218/bitcoin-melt-up-bitwise
- https://cointelegraph.com/news/blockchain-activity-soars-q3-ai-dapps
- https://cointelegraph.com/news/crypto-retail-investors-increase-despite-volatility-iosco
- https://cointelegraph.com/news/vitalik-buterin-ethereum-future-post-merge-upgrades
- https://cointelegraph.com/news/bitcoin-google-search-volume-drops-yearly-low-memecoins-surge
- https://cointelegraph.com/news/global-crypto-adoption-nears-8-percent-milestone-by-2025
คำเตือน
- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
Share this
- Bitazza Blog (111)
- Crypto Weekly (47)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- Tether (USDt) (8)
- บล็อกเชน (8)
- bitcoin (7)
- missions (7)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Campaigns (3)
- Security (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Social Features (2)
- Stablecoin (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- TradingView (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- ENJ (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- KYC (1)
- NFTs (1)
- SEC (1)
- TRUMP (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)
Subscribe by email

WAN Coin คืออะไร? เหรียญจาก Wanchain กับโซลูชันเชื่อมต่อบล็อกเชน

NEAR Coin คืออะไร? แพลตฟอร์มบล็อกเชนใช้งานง่ายสำหรับทุกคน

มาเลเซียเปิดตัวฮับสินทรัพย์ดิจิทัล เตรียมทดลอง Stablecoin ผูกเงินริงกิต

DOT Coin คืออะไร? เจาะลึก Polkadot และระบบเชื่อมบล็อกเชนแห่งอนาคต

ส่อง PNUT Coin เหรียญมีมมาแรงบน Solana

TON Coin คืออะไร? ทำความรู้จักเหรียญจาก Telegram และอนาคตของ Web3

รู้จัก NOT Coin คืออะไร? เหรียญไวรัลจาก Telegram ที่กำลังเปลี่ยนเกมคริปโตฯ

BabyDoge คืออะไร? วิเคราะห์อนาคตเหรียญมีมในตลาดคริปโตปี 2025

AAVE คืออะไร? แพลตฟอร์มกู้ยืมในโลก DeFi ที่นักลงทุนต้องรู้
