Bitazza Thailand Blog

จับตาตลาดคริปโตได้รับแรงหนุนจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจีน

011024_Newsletter-1-7-Oct_CH-Cover-TH-1200x908

 

สัปดาห์ที่ 1-7 ตุลาคม 2567

10x Research เปิดเผยว่า Bitcoin (BTC) มีโอกาสพุ่งแตะระดับ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐในเร็ว ๆ นี้โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FED) ประกาศลดดอกเบี้ย ประกอบกับการที่รัฐบาลจีนอัดฉีดสภาพคล่องด้วยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 278,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Spot Bitcoin ETF มีเงินไหลเข้าต่อเนื่องติดต่อกัน 7 วันในสัปดาห์ที่ผ่านมาและในวันศุกร์ที่ 27 กันยายน มีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 494.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือน โดยส่วนใหญ่มาจากกอง ARKB ของ 21Shares

Spot Ethereum ETF มีเงินไหลเข้ารายสัปดาห์สูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมานับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม พลิกกลับจากที่มีเงินไหลออกติดลบติดต่อกัน 6 สัปดาห์ โดยกองทุนของ BlackRock มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก 

ข้อมูลจาก Bloomberg Intelligence ระบุว่า สินทรัพย์รวมในกองทุน ETF ของสหรัฐอเมริกาทะลุ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากเงินไหลเข้ามากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในกองทุน EFT คริปโทเคอร์เรนซีในปี 2024 และคาดว่าผลิตภัณฑ์คริปโทเคอร์เรนซีจะทำให้ความนิยมใน ETF เพิ่มมากขึ้น

VanEck คาดว่า ราคา Solana (SOL) อาจพุ่งแตะระดับ 330 ดอลลาร์และมีมาร์เกตแคป (Market Cap) 50% ของมูลค่าตลาดปัจจุบันของ Ethereum (ETH) โดยชี้ว่าความเร็วและประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกรรมทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบเหนือ Ethereum (ETH) อย่างมากในด้านการชำระเงินและการโอนเงินผ่านสเตเบิลคอยน์ 

บริษัทเทคโนโลยีการเงินรายใหญ่อย่าง Robinhood และ Revolut วางแผนที่จะออกสเตเบิลคอยน์ของตัวเองจากกฎระเบียบใหม่ในยุโรปที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดยปัจจุบัน Tether (USDT) ครองส่วนแบ่งตลาดสเตเบิลคอยน์ทั้งหมดกว่า 75% จากมูลค่าตลาดทั้งหมด

Paypal เปิดให้ลูกค้าบัญชี Paypal Business สามารถซื้อขายและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลโดยตรงผ่านบัญชี โดยให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกายกเว้นในรัฐนิวยอร์ก บริษัทระบุว่า ฟีเจอร์นี้มาจากที่เจ้าของธุรกิจต้องการให้ลูกค้าสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลในการชำระเงินได้

 

วิเคราะห์กราฟเทคนิค

 

technical-th-01@1-Oct-01-2024-10-50-03-6406-AM

 

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) ฟื้นตัวต่อเนื่องทดสอบแนวต้านแรกที่ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าผ่านระดับนี้ไปได้คาดว่าจะทดสอบแนวต้านเป้าหมายสำคัญที่ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อกลับตัวเป็นขาขึ้นเต็มตัว ในสัปดาห์นี้แนวรับอยู่ที่ 62,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากยืนระดับนี้ได้ มองเป็นจุดซื้อสำคัญก่อนจะเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง

  • แนวรับ: 2,000,000 บาท / 62,000 USD
  • แนวต้าน: 2,520,000 บาท / 70,000 USD

 

technical-th-02@1-Oct-01-2024-10-50-03-5049-AM

 

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) แรงซื้อชะลอตัวลงยังไม่ผ่านแนวต้านแรกที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ อาจต้องรอซื้อที่ราคาไม่ต่ำกว่าแนวรับที่ 2,270 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่ระดับราคา 2,750 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นจุดกลับตัวสู่ขาขึ้น กลยุทธ์ให้เข้าซื้อตามแนวรับ ยังมองแนวโน้มเชิงบวกตามราคา Bitcoin (BTC)

  • แนวรับ: 75,000 บาท / 2,270 USD
  • แนวต้าน: 95,000 บาท / 2,750 USD

 

technical-th-03@1-Oct-01-2024-10-50-03-6630-AM

 

Pepe (PEPE)

Pepe (PEPE) ทำผลตอบแทน 35.72% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสทดสอบเป้าหมายแนวต้านที่ 0.000013 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ราคาที่ขึ้นมาค่อนข้างเร็วอาจมีแรงเทขาย จับตาที่แนวรับ 0.0000098 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นจุดซื้อได้ หากหลุดระดับนี้ให้ถอยออกมาก่อน

  • แนวรับ: 0.00032 บาท / 0.0000098 USD
  • แนวต้าน: 0.00046 บาท / 0.000013 USD

 

technical-th-04@1-Oct-01-2024-10-50-03-7264-AM

 

Shiba Inu (SHIB)

Shiba Inu (SHIB) ทำผลตอบแทน 31.32% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มเริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้น ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวไม่ต่ำกว่าระดับ 0.000015 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มราคายังสามารถขึ้นต่อได้ เป้าหมายขายทำกำไรระยะสั้นอยู่ที่แนวต้าน 0.000022 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาขึ้นมาค่อนข้างแรง รอโอกาสเข้าซื้อที่แนวรับ

  • แนวรับ: 0.00056  บาท / 0.000015  USD
  • แนวต้าน: 0.00074 บาท / 0.000022 USD

 

จับกระแสการลงทุน 

Bitcoin (BTC) สร้างผลตอบแทนในเดือนกันยายนที่ระดับเกือบ 10% ถือเป็นผลตอบแทนเดือนกันยายนที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และจากประวัติที่ผ่านมา เมื่อไรที่ Bitcoin ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในเดือนกันยายนก็จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี

ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin กับดัชนี S&P500 อยู่ในระดับใกล้เคียง 1 นับว่าสูงที่สุดในรอบหลายเดือน คาดว่านักลงทุนจะคลายความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและทยอยเข้าลงทุนหุ้นในไตรมาส 4 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ Bitcoin 

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนทำให้เกิดสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นและจะส่งผลบวกต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีด้วยเช่นกัน ขณะที่ยอดการสร้างสเตเบิลคอยน์ที่เพิ่มมากขึ้นบ่งบอกถึงความต้องการซื้อในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่มากขึ้น

ในวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคมนี้จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) ซึ่งคาดว่าจะออกมาที่ 144,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่อยู่ที่ 142,000 ตำแหน่งอยู่เล็กน้อย รวมถึงคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 4.2% เท่ากับเดือนที่แล้ว หากตัวเลขเป็นไปตามคาดการณ์จะส่งผลบวกต่อ Bitcoin จากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ลดลง

เหรียญทางเลือก (Altcoins) หลายเหรียญเริ่มที่จะกลับมาสู่ทิศทางกลับตัวเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะเหรียญในกลุ่ม Blockchain Layer 1 รุ่นใหม่ กลุ่ม AI กลุ่มเหรียญมีม (Memecoin) รวมถึงกลุ่ม DeFi บางตัว สามารถเข้าไปทยอยลงทุนได้ มองโอกาสที่จะเกิด Mini Altcoins Season จาก Bitcoin Dominance ที่ปรับตัวลง 

อย่างไรก็ตาม ยังมองว่า Bitcoin จะเป็นขาขึ้นตลอดทั้งไตรมาส 4 ของปีนี้ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้จึงยังสามารถทยอยลงทุนได้

 

แหล่งอ้างอิง

 

คำเตือน

  • คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

 

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน