ในยุคที่คริปโตเคอร์เรนซีเติบโตอย่างรวดเร็ว เหรียญมีม (Meme Coin) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมดิจิทัลที่ผสมผสานความสนุกสนานและการลงทุนเข้าด้วยกัน หนึ่งในเหรียญที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงต้นปี 2024 คือ BOME (Book of Meme) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการสร้างคลังข้อมูลมีมแบบถาวรบนบล็อกเชน
BOME (Book of Meme) คือเหรียญคริปโตประเภทมีมคอยน์ (Meme Coin) ที่ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่ายบล็อกเชน Solana โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมมีมบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งมักจะหมุนเวียน เปลี่ยนแปลง และหายไปอย่างรวดเร็ว ผู้ก่อตั้งเหรียญนี้คือศิลปินดิจิทัลนามว่า Darkfarms ซึ่งเคยสร้างสรรค์งานศิลปะในธีม Pepe และมีบทบาทในชุมชนมีมคริปโต
แนวคิดเบื้องหลังของ BOME คือการสร้าง "หนังสือมีม" หรือ Book of Meme ในรูปแบบดิจิทัล ที่สามารถบันทึกและจัดเก็บมีมในลักษณะถาวร (Immutable) ซึ่งหมายความว่าเมื่อข้อมูลมีมถูกบันทึกแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือลบได้อีก โดยใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ เช่น:
BOME ทำงานบนเครือข่าย Solana ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่มีความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ เหมาะสำหรับการจัดการข้อมูลมีมที่มีปริมาณมาก Solana ยังรองรับการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ที่สามารถนำมาใช้ในการสร้างและแบ่งปันมีมภายในชุมชน BOME ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
เพื่อให้มีมที่ถูกสร้างขึ้นสามารถเก็บรักษาได้อย่างถาวรและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ BOME ใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ช่วยให้มีมที่ถูกสร้างขึ้นสามารถเก็บรักษาได้อย่างถาวรและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
BOME มีแผนที่จะขยายการจัดเก็บมีมไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Bitcoin inscriptions ซึ่งเป็นการบันทึกข้อมูลบนบล็อกเชนของ Bitcoin เพื่อให้มีมที่ถูกสร้างขึ้นสามารถเก็บรักษาได้อย่างถาวรและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
นอกจากการเก็บรักษามีมแล้ว BOME ยังมีเป้าหมายในการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลแบบกระจายศูนย์ที่ผู้ใช้สามารถสร้าง แบ่งปัน และโต้ตอบกับมีมได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบดั้งเดิม
แม้ว่า BOME จะเริ่มต้นจากการเป็นมีมคอยน์ แต่โปรเจกต์นี้ได้พัฒนาไปไกลกว่านั้น โดยมีการใช้งานที่หลากหลายและมีเป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน ดังนี้:
ผู้ถือเหรียญ BOME สามารถเข้าถึงเนื้อหามีมพิเศษและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ บนแพลตฟอร์ม เช่น การเข้าถึงมีมที่ยังไม่เผยแพร่ การเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ หรือการมีส่วนร่วมในฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมีม
BOME ทำหน้าที่เป็นโทเคนสำหรับการกำกับดูแล (Governance Token) ซึ่งผู้ถือเหรียญสามารถโหวตและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของโปรเจกต์ เช่น การเลือกมีมที่จะถูกบันทึกบนบล็อกเชน หรือการพัฒนาแพลตฟอร์มในอนาคต
BOME สามารถใช้ในแอปพลิเคชันทางการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ต่างๆ บนเครือข่าย Solana เช่น การ Stake เหรียญใน Liquidity Pool เพื่อรับผลตอบแทน หรือการซื้อขายบนตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX)
ภายในชุมชน BOME เหรียญนี้ยังถูกใช้เป็นสกุลเงิน Social Currency โดยสามารถใช้ในการให้ทิปหรือรางวัลแก่ผู้สร้างมีมและผู้มีส่วนร่วมในชุมชน เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมมีม
เหรียญ BOME ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วในช่วงแรกจากกระแสมีมและการสนับสนุนของชุมชนคริปโต แต่ในแง่อนาคต ความสำเร็จของ BOME จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น ความสามารถในการพัฒนาแพลตฟอร์มจริง การใช้งานที่จับต้องได้ และการคงกระแสของวัฒนธรรมมีมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า BOME อาจเป็นหนึ่งในมีมคอยน์ที่สามารถสร้างแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจได้จริง หากทีมพัฒนายังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ และสามารถรักษาความสนใจของผู้ใช้งานได้ในระยะยาว
BOME ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินดิจิทัลชื่อว่า Darkfarms ซึ่งเป็นที่รู้จักในชุมชน NFT และ Crypto art โดยเขาได้ประกาศโครงการผ่านแพลตฟอร์ม Solana
BOME: BOME เป็นเหรียญมีมที่เน้นการเก็บรักษามีมในระบบกระจายศูนย์อย่างถาวร ผ่านเทคโนโลยีอย่าง Arweave และ IPFS โดยมีเป้าหมายใหญ่คือการเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับวัฒนธรรมมีม (meme culture) ในโลกดิจิทัล ให้มีการสร้าง แชร์ และอนุรักษ์มีมอย่างเป็นระบบ ไม่สูญหายหรือถูกแก้ไขในอนาคต
BONK: BONK เป็นเหรียญมีมที่เกิดขึ้นจากชุมชนผู้ใช้งาน Solana โดยมีจุดประสงค์เพื่อคืนความสุขให้กับชุมชน Solana หลังจากช่วงเวลาที่ยากลำบากของตลาดคริปโต ตัวเหรียญมีแนวทางสนุกสนาน แจกฟรี (airdrop) เป็นหลัก เพื่อสร้างกระแสในชุมชน และกระตุ้นการใช้งานระบบนิเวศของ Solana
DOGE: Dogecoin ถือเป็นเหรียญมีมดั้งเดิมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2013 เพื่อความขำขันในโลกคริปโต แต่กลับได้รับความนิยมอย่างมหาศาล จนกลายเป็นเหรียญที่มีการนำมาใช้จริงในธุรกิจ เช่น การชำระค่าสินค้าและบริการ หรือการให้ทิปออนไลน์ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลดังอย่าง Elon
BOME มีโอกาสเติบโตในอนาคต แต่ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสำคัญ ทั้งความสามารถในการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ใช้งานได้จริง การขยายฐานผู้ใช้งานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการรักษากระแสความนิยมของวัฒนธรรมมีมในระยะยาว
หากทีมงานสามารถผลักดันโครงการให้เดินหน้าอย่างจริงจัง พร้อมสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ชุมชนได้ BOME ก็มีศักยภาพที่จะเติบโตและสร้างบทบาทสำคัญในโลกดิจิทัลได้เช่นกัน
เหรียญ BOME หรือ Book of Meme เป็นหนึ่งใน Meme Coin ที่สะท้อนวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ตได้อย่างแท้จริง ด้วยแนวคิดที่เน้นการอนุรักษ์ “มีม” ให้อยู่ในโลกดิจิทัลอย่างถาวร ผ่านการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนของ Solana ร่วมกับระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์อย่าง Arweave และ IPFS ประกอบกับกระแสการสนับสนุนจากชุมชนในช่วงเริ่มต้นที่แข็งแกร่ง ยิ่งช่วยเสริมความน่าสนใจให้กับโปรเจกต์นี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักว่า Meme Coin อย่าง BOME ยังคงมีความเสี่ยงสูง แม้จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว แต่ความผันผวนและความไม่แน่นอนของตลาดก็สูงตามไปด้วย หากกำลังพิจารณาลงทุนใน BOME การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และการลงทุนในระดับที่ยอมรับความเสี่ยงได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
อ้างอิง