บทความเดียวครบ! ประเภทและประโยชน์ของกระดานเทรดคริปโตในไทย

กระดานเทรดคริปโต หรือแพลตฟอร์มสำหรับบริการซื้อขายเหรียญคริปโตหรือสินทรัพย์ดิจิทัลหรือที่เรียกว่า digital asset trading platform โดยกระดานนี้จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ผู้ใช้งานสามารถ ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนเหรียญคริปโต โดยหนึ่งในบริการหลักที่น่าสนใจ คือ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) และนายหน้าซื้อขาย (Broker) ซึ่งจะเป็นตัวแทนกลางผู้คอยอำนวยความสะดวกให้การทำการซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่น

ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยก็เติบโตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้ โดยรายงานจาก Statista ได้ระบุว่าจนถึงเดือนมิถุนายน 2023 มูลค่าของการซื้อขายคริปโตในประเทศไทยมีมูลค่ารวมสูงถึง 29,000 ล้านบาท

คล้ายตลาดหุ้น แต่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

กระดานเทรดคริปโตก็มีความคล้ายกับตลาดหุ้นอยู่หลายส่วน คือมีการเปรียบเทียบข้อมูลของเหรียญคริปโตแบบเรียลไทม์ และสามารถซื้อมาขายไปผ่านตัวแทนที่จะคอยดูแลและจับคู่ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่มีความต้องการสอดคล้องกันให้ กระดานเทรดคริปโตจึงเป็นเหมือนศูนย์กลางออนไลน์ที่ช่วยให้การเทรดคริปโตนั้นทำได้ง่าย โดยเหรียญที่มีให้ซื้อขายก็มักจะมีทั้งเหรียญที่มีมูลค่าสูงตลาดใหญ่ อย่างบิตคอยน์ (BTC) ไปจนถึงเหรียญมีมที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์

เช่นเดียวกับตลาดหุ้น กระดานเทรดคริปโตเองก็มีความหลากหลายในแง่ของประเภท และหลักการดำเนินการ โดยสามารถแยกเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้

• การเทรดคริปโตผ่านระบบรวมศูนย์ (centralized exchange)
  หากเทียบกัน การซื้อขายประเภทนี้จะคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นมากที่สุด เพราะเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายที่เปิดสำหรับนักเทรดทุกคน มีบริการโบรกเกอร์คอยดูแลอำนวยความสะดวกในการจับคู่ผู้ซื้อกับผู้ขายเช่นเดียวกับตลาดหุ้น ซึ่งมักจะมีฟีเจอร์เสริมเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในหลากหลายรูปแบบ พร้อมระบบที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะกับนักเทรดคริปโตทั้งมือใหม่และผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
  
  
• การเทรดคริปโตผ่านระบบกระจายศูนย์ (decentralized exchange)
  เป็นการเทรดที่ใช้วิธีการที่แตกต่างกับแบบรวมศูนย์ ซึ่งการเทรดประเภทนี้จะไม่ขึ้นอยู่กับระบบส่วนกลางใดในการจับคู่ผู้ซื้อขาย โดยผู้ซื้อขายสามารถควบคุมการซื้อขายได้ด้วยตนเอง แต่ก็แลกมากับการที่ต้องแบกรับความเสี่ยงและความรับผิดชอบต่อการเทรดที่อาจไม่เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานด้วยเช่นกัน

แพลตฟอร์มการเทรดคริปโตทุกรูปแบบล้วนมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ทั้งแบบรวมศูนย์ที่มีตัวกลางคอยอำนวยความสะดวกและกำหนดราคาซื้อขายที่เป็นมาตรฐาน หรือแบบกระจายศูนย์ที่เน้นความคล่องตัวแต่มีความเสี่ยงมากขึ้น จนไปถึงการตกลงซื้อขายกันเองหรือ P2P การจะเลือกใช้แบบใดนั้นนักเทรดจะต้องประเมินความต้องการและความสามารถในการแบกรับความเสี่ยง (risk tolerance) ของตนให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนทุกครั้ง สำหรับนักเทรดที่ต้องการความปลอดภัยสูงและต้องการความเสี่ยงต่ำ การเทรดผ่านระบบรวมศูนย์จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและอุ่นใจได้มากที่สุด

ตลาดคริปโตไทยยังไปไกลได้อีก

ก่อนหน้านี้ การเทรดคริปโตในไทยก็ไม่ใช่เรื่องที่เราเจอบ่อยๆ จนเป็นเหมือนเรื่องปกติในทุกวันนี้ โดยถ้าย้อนไปในปี 2013 จะเป็นช่วงแรกที่คริปโตจะเป็นที่พูดถึงในกลุ่มผู้สนใจสินทรัพย์ดิจิทัลกลุ่มเล็กๆ บนแอปพลิเคชัน Telegram เท่านั้น และตั้งแต่ที่ไทยเริ่มมีกฎเกณฑ์รองรับการซื้อขายคริปโตอย่างเป็นทางการเป็นต้นมา ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่คนเริ่มหันมาลงทุนในคริปโตกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น

ในปี 2018 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกกฎกำกับดูแล โดยกำหนดว่าผู้ที่ต้องการดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยจะต้องได้รับใบอนุญาตก่อน ซึ่งทำให้โลกคริปโตที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ มีการตื่นตัว เนื่องจากนับจากนั้น ประเทศไทยจะสามารถซื้อขายคริปโตระหว่างกันได้โดยมีหน่วยงานคอยกำกับดูแลเรื่องความปลอดภัย

การจะลงทุนซื้อขายคริปโต นักเทรดจะต้องมีความเข้าใจและตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นจึงควรเลือกใช้บริการแพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจจากกระทรวงการคลังและถูกกำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต.​ เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและสามารถเทรดผ่านระบบที่มีมาตรฐานและโครงสร้างค่าบริการที่ชัดเจน

แม้จะเติบโตขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ตลาดคริปโตในไทยก็ยังสามารถเติบโตไปได้อีก เพราะปัจจุบันความโปร่งใสด้านกฎเกณฑ์ก็ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงผู้คนหันมาเปิดใจให้กับเทคโนโลยีสมัยใหม่กันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญคือการเลือกซื้อขายผ่านระบบที่มีมาตรฐานและปฏิบัติตามกฎของ ก.ล.ต.​ เพื่อสร้างระบบนิเวศการซื้อขายคริปโตระหว่างกันที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน

Bitazza คือผู้ให้บริการที่คุณมั่นใจได้

Bitazza คือบริการกระดานเทรดคริปโตสัญชาติไทย ผู้ให้บริการนายหน้าซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตประเภทนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Brokerage License) จากกระทรวงการคลังและถูกกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 4 ปี ปัจจุบันกำลังดำเนินการขยายตลาดไปยังต่างแดนและกำลังจะได้รับใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายจากประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบที่นักเทรดทุกคนสามารถใช้งานได้ง่าย ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์และมีเหรียญบนกระดานหลากหลายมากมายที่คัดเลือกมาให้ผู้ใช้สามารถเลือกเทรดจากสกุลเงินบาทเป็นคริปโต และจากคริปโตกลับเป็นเงินบาทได้เช่นกัน

เทรดอย่างมั่นใจ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

Bitazza มีจุดเด่นหลากหลาย ที่จะช่วยให้นักเทรดทุกคนได้เทรดคริปโตกันได้ง่ายๆ ผ่านระบบที่ปลอดภัย โดยทำลายข้อจำกัดในอดีตไปหลายอย่าง เช่น

• ตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร
  Bitazza เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายเหรียญคริปโตที่มีฟีเจอร์สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ที่ช่วยให้นักเทรดทุกคนเข้าถึงบริการที่ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งรวมถึง BTZ โทเคนที่ใช้เป็นสื่อกลางในระบบนิเวศ ของ Bitazza เช่นการโหวตลิสต์เหรียญที่สนใจ ใช้ออกบัตร Freedom Card แลก Freedom NFT และส่วนลดค่าธรรมเนียมตามระดับ Bitazza Levels รวมถึงบริการ Freedom Passport ที่เป็นโซลูชันบล็อกเชนเพื่อการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล

   

  *BTZ token ถูกพัฒนาโดย กลุ่มของบริษัท บิทาซซ่า จำกัด จึงอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  **Freedom Card ดำเนินการโดยบริษัท ทีทูพี จำกัด
  ***สื่อนี้จัดทำขึ้นร่วมกับบริษัท ฟรีดอมเวิร์ส จำกัดซึ่งไม่ใช่บริษัทที่ถูกกำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต.

• อัตราแลกเปลี่ยนเรทสากล
  ผู้ใช้งาน Bitazza สามารถซื้อขายเหรียญด้วยสกุลเงินบาทได้ (fiat) โดยรองรับกับทุกเหรียญที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ Bitazza เช่น BTC และ USDT ซึ่งเป็นความตั้งใจสำคัญที่ต้องการยกระดับการซื้อขายสินทรัพย์เป็นเรื่องง่ายและโปร่งใสสำหรับทุกคน
  
  
• คว้าโอกาสก่อนใครด้วยเหรียญใหม่อัปเดตตลอด
  Bitazza เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงมูลค่า พร้อมทั้งซื้อขายเหรียญใหม่ๆ ได้ก่อนใคร เพราะมีทีมงานคอยสนับสนุนระบบและผู้ใช้ คอยลิสต์เหรียญใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการตลอด 24 ชั่วโมง
  
  
• ปลอดภัย คำนึงถึงผู้ใช้เสมอ
  ความปลอดภัยก็เป็นอีกสิ่งที่ Bitazza ไม่เคยผ่อนปรนหรือมองข้าม ด้วยระบบ Know Your Customer (KYC) ที่รัดกุมและรวดเร็วตามมาตรฐานที่ กลต.​ กำหนด โดยจัดเก็บทรัพย์สินเงินบาทของลูกค้าในบัญชีที่ระบุชัดเจนว่าเป็นบัญชี “เพื่อลูกค้า” โดยไม่นำไปแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ และนำเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นนำอย่าง Ledger มาใช้เพื่อความอุ่นใจสำหรับนักเทรดทุกคน
  
  
• ตอบแทนผู้ใช้งานผ่าน Reward Program
  หากคุณเชิญชวนผู้ใช้ใหม่มาใช้บริการ Bitazza ผ่าน Referral Code ก็จะสามารถได้เหรียญ BTZ เป็นส่วนแบ่งจากค่าบริการสูงสุดถึง 40% ตลอดชีพ โดยสามารถนำเหรียญที่ได้ไปเป็นสื่อแทนใช้บริการของแพลตฟอร์มได้
  
  
• คลังความรู้เรื่องคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัล
  ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเทรดหน้าใหม่หรือมากประสบการณ์ Bitazza มีคอนเทนต์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับคุณ ช่วยให้คุณได้สำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับโลกของคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างครอบคลุม เนื้อหาเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจอย่างชาญฉลาด และอยู่ในโลกของการเทรดคริปโตได้อย่างมั่นใจ
  
  
• บริการช่วยเหลือสนับสนุน 24 ชั่วโมง
  คุณสามารถใช้บริการของ Bitazza ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลว่าหากเกิดประเด็นสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือแล้วจะไม่มีใครอยู่ เพราะทีมงานคอยสแตนด์บายอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถติดต่อได้หลากหลายช่องทาง ทั้งไลฟ์แชทบนเว็บไซต์, ปุ่ม support บนแอปพลิเคชัน, เพจเฟซบุ๊ก Bitazza Thailand, อีเมล support@bitazza.com และช่องทางโลกเสมือน Metaverse

ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่าน Bitazza

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์ที่ดีในการเทรดคริปโตคือความปลอดภัยและความใช้ง่ายของแพลตฟอร์ม Bitazza ไม่ได้เป็นเพียงบริการซื้อขาย แต่เป็นเหมือนเพื่อนที่นักเทรดทุกคนไว้วางใจได้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจจะเทรดเหรียญคริปโต Bitazza เป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยนำทางคุณไปสู่รูปแบบการลงทุนแบบใหม่ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้โดยมีข้อมูลสนับสนุนพร้อมความอุ่นใจจากความปลอดภัยของระบบ ที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างรัดกุม

*BTZ token ถูกพัฒนาโดย กลุ่มของบริษัท บิทาซซ่า จำกัด คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้