Bitazza Thailand Blog

รู้จักเหรียญ ADA: เหรียญแห่งอนาคตของบล็อกเชน

เขียนโดย Bitazza Team - 28 เม.ย. 2025, 15:42:27

 

หนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap ติด 1 ใน 10 และมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้ นั่นก็คือ “ADA” ที่ถูกพัฒนามาจากเป้าหมายที่ต้องการสร้างบล็อกเชนให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ADA Cardano จึงเป็นโปรเจกต์ที่มีความทะเยอทะยาน พร้อมวิสัยทัศน์ที่มั่นคง ในบทความนี้เราจะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของเหรียญ ADA ว่าคืออะไร มีคุณสมบัติและการใช้งานอย่างไร รวมถึงอนาคตที่น่าจับตามองของ ADA ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของบล็อกเชนไปด้วยกัน 

 

ข่าวเหรียญ ADA

ก่อนที่จะไปรู้จักกับเหรียญ ADA มาดูกันว่าปัจจุบันเกิดเหตุการณ์สำคัญอะไรกับเหรียญนี้บ้าง 

ADA Coin กลายเป็นหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังถูกจับตามอง หลังจากมูลค่าเหรียญขึ้นสูงไปว่า 20% ทำให้นักเทรดทั่งโลกกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง ซึ่งเหตุผลหลักของราคาเหรียญที่พุ่งขึ้นนั้นมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจัดตั้ง U.S. Crypto Strategic Reserve ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2025 ที่ผ่านมา โดยมี ADA ถูกนำมารวมอยู่ในรายชื่อเหรียญคริปโตของนโยบายนี้ ร่วมกับเหรียญชั้นนำอื่น ๆ อย่าง XRP, Solana (SOL) และ Bitcoin (BTC)

มากไปกว่านั้น CryptoQuant ได้เปิดเผยเหตุผลที่ทำให้ทรัมป์เลือก ADA อยู่ในโปรเจกต์นี้ โดยการตัดสินใจดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงมุมมองในการกระจายอำนาจและการควบคุมเศรษฐกิจของสหัรฐฯ ที่ต้องการสนับสนุนโครงการที่ไม่มีการควบคุมจากหน่วยงานกลาง ซึ่งการเลือก ADA นั้น สะท้อนให้ว่าทรัมป์มองเห็นถึงศักยภาพของเหรียญในทางบวกอย่างแน่นอน

เมื่อเราได้เห็นถึงเหตุการณ์ปัจจุบันแล้ว ถึงเวลาที่จะพาเจาะลึกข้อมูลของ ADA  ไปพร้อม ๆ กัน

 

Cardano คืออะไร?

Cardano คือ แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake (PoS) ได้รับการยกย่องว่าเป็น “Third-Generation Blockchain” หรือ “บล็อกเชนยุคที่ 3” ถูกพัฒนาขึ้นโดย Charles Hoskinson โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูน์ (dApp) และสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ที่สามารถตรวจสอบได้ Cardano ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2017 และมุ่งเน้นในเรื่องของความสามารถในการขยายตลาด (Scalability), ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability), และความยั่งยืน (Sustainability)

โดย Cardano ได้แบ่งแผนการพัฒนาออกเป็น 5 ยุค ดังนี้

  • Phase 1: “Byron” - ยุคเริ่มต้นของเครือข่ายที่เปิดใช้งานครั้งแรก พร้อมรองรับฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น การโอนเหรียญ ADA
  • Phase 2: “Shelly” - ยุคของการมุ่งเน้นการกระจายศูนย์ (Decentralization) ผ่านการทำ Staking ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีส่วนร่วมในการดำเนินการเครือข่ายและรับรางวัลได้
  • Phase 3: “Goguen” - ยุคที่เพิ่มความสามารถในการรองรับ Smart Contracts บนเครือข่าย และการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps)
  • Phase 4: “Basho” - ยุคของการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายให้รองรับการทำงานร่วมกันกับบล็อกเชนอื่น ๆ
  • Phase 5: Voltaire” - ยุคสุดท้ายที่มีเป้าหมายในการพัฒนา ผ่านสร้างระบบกำกับดูแลที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน ให้มีความยั่งยืน และกลายเป็นระบบกระจายศูนย์อย่างสมบูรณ์

 

 

เหรียญ ADA คืออะไร?

เหรียญ ADA คือ สกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิม (Native Cryptocurrency) ของเครือข่าย Cardano ซึ่งย่อมาจาก “Ada Lovelace" นักโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกจากศตวรรษที่ 19 โดย ADA ทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม Cardano ที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เช่น การชำระค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรม และสามารถนำเหรียญไป Stake ได้ ADA Coin มี Token Supply จำกัดอยู่ที่ 45 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะไม่มีการสร้างเหรียญใหม่เกินจากจำนวนนี้

ในอนาคต ADA จะกลายเป็น Governance Token สำหรับการกำกับดูแล ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถือโทเคนสามารถลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง และพัฒนา Cardano

 

คุณสมบัติเด่นของเหรียญ ADA

ADA มีคุณสมบัติเด่นหลายอย่าง ที่ทำให้แตกต่างจากคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ 

  • ความปลอดภัยสูง: แพลตฟอร์ม Cardano ใช้ Ouroboros ซึ่งเป็นกลไลฉันทามติแบบ Proof-of-Stake (PoS) ที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและความปลอดภัยสูง กว่า Proof-of-Work (PoW)
  • รองรับการทำงานร่วมกับบล็อกเชนอื่น: Cardano มุ่งเน้นในเรื่องของการสื่อสารและความสามารถในการทำงานร่วมกับบล็อกเชนอื่น ๆ (Interoperability) ทำให้การโอนสินทรัพย์ รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับบล็อกเชนอื่นเป็นไปอย่างราบรื่น
  • ประหยัดพลังงาน: แพลตฟอร์ม Cardano เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าบล็อกเชนอื่น ๆ

  • ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ: โครงการ Cardano ก่อตั้งบนพื้นฐานของการวิจัยที่ถูกตรวจสอบโดยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ (Peer-Review) เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีแข็งแกร่งและปลอดภัยสูงสุด

 

 

การใช้งานเหรียญ ADA

  • ใช้ในการทำธุรกรรม: ADA ใช้เป็นตัวกลางในการชำระเงินแบบไร้ตัวกลาง มีค่าธรรมเนียมต่ำ ความปลอดภัยสูง สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการโอนเงินระหว่างประเทศ และทำธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer ได้
  • ใช้สำหรับระบบ Staking: ผู้ถือเหรียญ ADA สามารถที่จะ Stake เหรียญของตัวเอง เพื่อช่วยยืนยันธุรกรรมและรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถรับผลตอบแทนได้อีกด้วย
  • ใช้งานกับ dApps และ DeFi: ADA สามารถใช้ร่วมกับแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ และ DeFi ที่สามารถทำให้เข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ และทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ทั้งการกู้ยืม การแลกเปลี่ยน หรือการลงทุน

  • ใช้สำหรับการบริหารจัดการ: ผู้ถือ ADA Coin สามารถที่จะมีส่วนร่วมผ่านการลงคะแนนเสียงหรือตัดสินใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อพัฒนาระบบภายในเครือข่าย Cardano เช่น การอนุมัติโปรเจกต์ใหม่ การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายของเครือข่าย เป็นต้น

 

ความเสี่ยงของการลงทุนในเหรียญ ADA

แม้ว่า ADA จะมีศักยภาพที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน ADA Cardano ยังคงมีความเสี่ยงที่ควรตระหนัก ได้แก่

  • ความผันผวนของราคาเหรียญ: ADA Cardano นับเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง ทำให้ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตามสภาวะของตลาดคริปโต
  • การแข่งขันในตลาด: เห็นได้ชัดว่า Cardano ยังคงต้องแข่งขันกับบล็อกเชนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Ethereum และ Solana ที่ล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป การแข่งขันนี้อาจส่งผลต่อการเติบโตของระบบนิเวศในอนาคต
  • การพัฒนาที่ล่าช้า: ถึงแม้ว่า Cardano จะมีแนวทางการพัฒนาที่รอบคอบ ทั้งนี้อาจทำให้ Cardano พัฒนาไม่รวดเร็วเท่าคู่แข่งอย่าง Ethereum และยากที่จะเป็นผู้นำตลาดได้

  • การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ: ในหลายประเทศเริ่มมีการออกกฎที่เข้มงวดกับสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อาจส่งผลต่อการใช้งานและมูลค่าของเหรียญ

  • สภาวะเศรษฐกิจ: หากเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวเนื่องจากเงินเฟ้อ ตลาดหุ้นร่วง หรืออื่น ๆ อาจส่งกระทบต่อราคาและการลงทุนในเหรียญ ADA

 

 

อนาคตของเหรียญ ADA

ADA เป็นหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่ออนาคตของเหรียญ ดังนี้

  • การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง: จากโรดแมปของ Cardano ที่มีแผนพัฒนาเป็นช่วง ๆ รวมถึงการอัปเกรดเทคโนโลยีของเครือข่ายในอนาคต ทำให้ Cardano มีประสิทธิภาพสูงมากพอที่จะแข่งขันกับบล็อกเชนอื่น ๆ ได้ อีกทั้งการพัฒนาตามยุคที่กำหนดไว้จะช่วยเสริมความสามารถของ Cardano ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อราคาเหรียญ ADA 
  • การขยายตัวของระบบนิเวศ: ในอนาคต Cardano มีโปรเจกต์ที่จะพัฒนาการทำงานของ DeFi และ dApps มากขึ้นบนแพลตฟอร์ม ด้วยเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้า เช่น Marlowe และ Plutus จะสามารถช่วยเพิ่มการใช้งานให้มีความซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความต้องการของเหรียญได้

  • การร่วมมือกับรัฐบาลและองค์กร: ปัจจุบัน Cardano Foundation ได้มีการร่วมมือกับรัฐบาลบราซิล เพื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชนประยุกต์ใช้กับโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อีกทั้ง Cardano ยังคงแสวงหาการเป็นพันธมิตรร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ซึ่งหากโครงการเหล่านี้ประสบความสำเร็จ อาจเพิ่มการยอมรับ Cardano มากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

 

Conclusion

ADA ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาอนาคตของเครือข่าย Cardano ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการการพัฒนาระบบที่ยั่งยืน จึงทำให้ ADA ไม่ได้เป็นเพียงแค่เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีทั่วไป แต่ยังเป็นกุญแจที่สำคัญของการสร้างอนาคตที่ดีกว่าในโลกบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง นักเทรดควรพิจารณาและศึกษาอย่างรอบคอบก่อนลงทุนเสมอ

 

 

คำเตือน

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด

 

อ้างอิง