Bitazza Thailand Blog

KYC คืออะไร? รู้จักการยืนยันตัวตนในโลกคริปโตฯ ที่ห้ามมองข้าม

what is KYC

 

ทุกวันนี้ใครที่เริ่มสนใจเรื่องการซื้อขายคริปโตฯ หรือใช้งานแพลตฟอร์มทางการเงินดิจิทัล คงเคยเจอคำว่า "KYC" ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว KYC คืออะไร? ทำไมต้องยืนยันตัวตนก่อนใช้แพลตฟอร์ม? และมันเกี่ยวอะไรกับความปลอดภัยในการใช้งานคริปโตฯ บทความนี้จะพาไปไขทุกข้อสงสัยแบบเข้าใจง่าย ๆ มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

 


KYC คืออะไร?

KYC ย่อมาจาก "Know Your Customer" หรือแปลตรงตัวว่า "รู้จักลูกค้าของคุณ" เป็นกระบวนการที่แพลตฟอร์มการเงินหรือคริปโตฯฯ ต้องใช้เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน ซึ่งอาจรวมถึงการขอเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน พาสปอร์ต หรือใบอนุญาตขับขี่ โดยข้อมูล KYC คือ ส่วนสำคัญที่ใช้ป้องกันการฟอกเงิน การหลอกลวง และกิจกรรมผิดกฎหมายอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มทางการเงินนั่นเอง

 


Know Your Customer

 

การยืนยันตัวตนมีกี่แบบ 

การเลือกวิธีการ ยืนยันตัวตน KYC มีผลต่อทั้งความสะดวก ความเร็ว และความแม่นยำในการใช้งาน โดยแต่ละแบบมีจุดเด่นแตกต่างกันดังนี้

  • Manual KYC (แบบดั้งเดิม)
    • ผู้ใช้กรอกข้อมูลและอัปโหลดเอกสารเอง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทีละราย
    • ข้อดี: ค่อนข้างแม่นยำ
    • ข้อเสีย: ใช้เวลานาน ต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจ
  • e-KYC (Electronic KYC)
    • ระบบดิจิทัลช่วยยืนยันตัวตน เช่น ถ่ายรูปบัตรประชาชน+เซลฟี่ผ่านแอป
    • ข้อดี: สะดวก รวดเร็ว
    • ข้อเสีย: บางคนอาจเจอปัญหาเช่น ยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ e-KYC ไม่ได้ เพราะแสงไม่พอ ภาพเบลอ เป็นต้น
  • Video KYC
    • พนักงานสัมภาษณ์ผู้ใช้ผ่านวิดีโอ เพื่อยืนยันตัวตน
    • ข้อดี: ป้องกันตัวตนปลอมได้ดี
    • ข้อเสีย: ใช้เวลามาก ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยพูดคุย

 


Woman scanning fingerprint with futuristic interface smart technology

 

ทำไม KYC ถึงสำคัญในโลกคริปโตฯ?

ในโลกคริปโตฯ ที่ไม่มีตัวกลางและเน้นความเป็นอิสระ การยืนยันตัวตนดูเหมือนจะเป็นเรื่องขัดกับแนวคิดเดิม ๆ แต่ความจริงแล้ว KYC คือกลไกสำคัญที่ช่วยให้การใช้งานคริปโตฯปลอดภัยขึ้น ทั้งสำหรับผู้ใช้และแพลตฟอร์มเอง มาดูกันว่าทำไม KYC ถึงกลายเป็นมาตรฐานที่แทบทุกแพลตฟอร์มต้องมี

  • ป้องกันการฟอกเงิน (AML)
  • ลดความเสี่ยงการถูกแฮกหรือสวมรอยบัญชี
  • ทำให้แพลตฟอร์มมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
  • ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศที่เกี่ยวข้อง

 


ขั้นตอนการทำ KYC สำหรับแพลตฟอร์มคริปโตฯ

  • ลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งาน
  • กรอกข้อมูลส่วนตัวตามคำแนะนำ
  • อัปโหลดเอกสาร KYC คือ บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต
  • ถ่ายเซลฟี่ตามที่ระบบกำหนด (บางแพลตฟอร์มอาจให้ถือกระดาษพร้อมวันที่ด้วย)
  • รอการตรวจสอบและยืนยันผลทางอีเมล/แจ้งเตือนในแอปฯ

 


ปัญหาที่พบบ่อยในการทำ KYC และวิธีแก้ไข

  • e-KYC ไม่ผ่าน ภาพเบลอ แสงน้อย หรือชื่อไม่ตรงกับเอกสาร ให้ลองถ่ายใหม่ในที่แสงดีและตรวจสอบความถูกต้อง
  • อัปโหลดเอกสารไม่ได้ ขนาดไฟล์ใหญ่เกินไป ให้ย่อขนาดหรือเปลี่ยนฟอร์แมตไฟล์
  • รอผลนาน ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของแพลตฟอร์ม

 


 

Bitazza มีข้อกำหนดในการ KYC อย่างไร

Bitazza มีระบบ e-KYC ที่ง่ายและรวดเร็ว เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อมและทำตามขั้นตอนผ่านแอปฯ ได้เลย โดยระบบจะใช้ AI ในการช่วยตรวจสอบเบื้องต้น และเจ้าหน้าที่จะตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อความแม่นยำ

 


KYC vs Non-KYC: ซื้อขายคริปโตฯแบบไหนดีกว่า?

เมื่อเริ่มเข้าสู่โลกคริปโตฯ หลายคนอาจลังเลว่าจะเลือกใช้งานแพลตฟอร์มที่ต้องทำ KYC หรือจะลองแบบ Non-KYC ไปเลยดี? ความต่างระหว่างสองแบบนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องเอกสาร แต่ส่งผลต่อทั้งความปลอดภัย ความสะดวก และสิทธิ์การใช้งานในหลายระดับ มาดูกันว่าแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง และแบบไหนที่เหมาะกับนักเทรดแบบคุณมากที่สุดมาดูกันเลย

แบบ KYC (ยืนยันตัวตน)

  • ความปลอดภัยสูง
  • ใช้ฟีเจอร์ได้ครบ เช่น ฝากถอน ซื้อขายเต็มจำนวน
  • ลดความเสี่ยงบัญชีถูกระงับ
  • ต้องใช้เอกสารส่วนตัว

แบบ Non-KYC (ไม่ยืนยันตัวตน)

  • สมัครง่าย ใช้งานเร็ว
  • จำกัดจำนวนการซื้อขาย/ถอนเงิน
  • เสี่ยงบัญชีถูกแบนหากมีการใช้งานผิดปกติ
  • เข้าถึงฟีเจอร์ได้น้อยกว่ามาก

 


A person is using a laptop with the word kfc on the screen

 

อนาคตของ KYC ในวงการคริปโตฯ

แม้ว่าในปัจจุบันการทำ KYC จะกลายเป็นมาตรฐานที่แพลตฟอร์มคริปโตฯ ส่วนใหญ่ใช้กันอยู่แล้ว แต่อนาคตของ KYC กำลังจะไปไกลกว่านั้น ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เราอาจจะได้เห็นระบบที่ทั้งปลอดภัยขึ้น สะดวกขึ้น และทำงานได้อัตโนมัติแบบไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป

  • การใช้ AI ตรวจสอบข้อมูลอัตโนมัติ
  • การเชื่อมโยงระบบ KYC ข้ามแพลตฟอร์ม (KYC once, use everywhere)
  • เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ biometric เช่น ลายนิ้วมือ/ใบหน้า

 


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ KYC 

  • KYC ใช้เวลากี่วัน?

โดยทั่วไปใช้เวลา 1-3 วันทำการ บางแพลตฟอร์มอาจเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง

  • ทำ KYC แล้วข้อมูลจะปลอดภัยไหม?

ถ้าเป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ เช่น Bitazza ข้อมูลจะถูกเก็บอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

  • ทำไมบางแพลตฟอร์มถึงไม่ต้องใช้ KYC?

บางแพลตฟอร์มเน้นความเป็นส่วนตัวสูง หรือเปิดให้ใช้งานแบบ Decentralized ที่ไม่ต้องยืนยันตัวตน แต่ก็จะมีข้อจำกัดและความเสี่ยงสูงกว่า

 


Conclusion

KYC คือกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้วงการคริปโตเติบโตอย่างปลอดภัยและยั่งยืน แม้จะต้องใช้เวลาทำบ้าง แต่ก็แลกมาด้วยความมั่นใจว่าเราจะได้ใช้งานแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มที่ ปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าอยากเทรดอย่างมั่นใจ ไม่โดนแบน ไม่เสี่ยงปัญหาเรื่องบัญชี บทความนี้ก็คงตอบชัดแล้วว่า... KYC ดีกว่าแน่นอน

 

 


คำเตือน

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด

 


อ้างอิง