แนวรับและเเนวต้านนั้นเป็นหลักในการเทรดพื้นฐานที่มีการใช้มากที่สุด เราลองมาดูกันว่าหลักการพื้นฐานของมันเป็นอย่างไร
ถ้าเราดููจากกราฟด้านบนเราจะเป็นเส้นซิกแซกที่เป็นรูปแบบของกราฟตลาดขาขึ้นหรือที่เราเรียกว่าตลาดกระทิง เมื่อเวลาที่ตลาดมีการปรับตัวขึ้นมันจะต้องมีการดึงกลับเสมอ โดยจุดสูงสุดก่อนที่มันจะปรับตัวดึงกลับจะถูกเรียกว่า “แนวต้าน” และก่อนที่ตลาดจะไปต่อจุดกลับตัวที่ต่ำที่สุดก่อนกราฟจะเด้งขึ้นนั้นเราจะเรียกมันว่า “แนวรับ”
แนวรับและแนวต้านนั้นจะเกิดขึ้นตลอดเวลาในตลาด ซึ่งแม้มันจะอยู่ในสภาพตลาดซบเซาหรือตลาดหมีแนวรับและแนวต้านก็ยังเกิดขึ้นเสมอ
หนึ่งในหลักการของแนวรับและแนวต้านคือการที่แนวรับจะกลายเป็นแนวต้านหรือแนวต้านจะกลายเป็นแนวรับเมื่อราคาของตลาดพุ่งขึ้นหรือลงนั้นทะลุเกินแนวรับและแนวต้าน
หนึ่งในเรื่องที่ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวรับและแนวต้านคือมันไม่ใช่หลักการทางวิทยศาสตร์เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยที่แนวรับหรือแนวต้านจะถูกทำลายและตลาดก็กลับตัวหลังจากนั้นไม่นาน ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นได้ในขณะที่ตลาดกำลังทดสอบแนวรับแนวต้านหรือบางทีมันอาจจะเป็นกับดัก (Trap)
ถ้าเราใช้กราฟแท่งเทียนเราจะเห็นช่วงทดสอบของแนวรับและแนวต้านในโซนสีเทา
ลองสังเกตุว่าแท่งเทียนนั้นจะตกลงมาใกล้แนวรับมากจนเหมือนกับว่ามันอาจจะทำลายโซนแนวรับซึ่งเป็นการทดสอบแนวรับของตลาด
แล้วทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแนวรับหรือแนวต้านถูกทำลาย ซึ่งที่จริงแล้วมันไม่มีคำตอบที่แน่นอนสำหรับคำถามนี้ บางคนอาจจะบอกว่าแนวรับและแนวต้านจะถูกทำลายเมื่อราคาของมันผ่านช่วงระดับนั้นไปแล้ว แต่ถ้าคุณถามนักเทรดที่มีประสบการณ์หละก็ คำตอบที่ได้คือมันไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
เราลองมาดูตัวอย่างด้านบนว่าเกิดอะไรเมื่อราคานั้นใกล้จะทะลุแนวรับ
.
อย่างที่คุณเห็นว่าราคานั้นปิดที่ใต้แนวรับแต่ราคากลับไต่ขึ้นต่อในทันที ซึ่งถ้าคุณขาย Bitcoin ไปในช่วงนั้นคุณอาจจะขายมันไปในตอนที่ราคาต่ำที่สุด
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับแนวรับและแนวต้าน