Play to Earn คืออะไร? เกมเล่นแล้วได้เงินจริง มีอะไรน่าจับตาในปีนี้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีบล็อกเชนและ NFT ได้เข้ามาเปลี่ยนโฉมวงการเกม ทำให้เกิดรูปแบบเกมใหม่ ๆ ที่ดึงดูดผู้เล่นทั้งในแง่ความสนุกและโอกาสทางเศรษฐกิจ โลกของเกมดิจิทัลขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีเกมหลายแนวที่ได้รับความนิยม และสร้างชุมชนผู้เล่นที่แข็งแกร่ง

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจหลักการทำงาน สินทรัพย์ในเกม วิธีเลือกเกมที่น่าเชื่อถือ เกมยอดนิยม และแนวโน้มของ Play to Earn ในปีนี้ เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวมและเตรียมตัวเข้าร่วมโลกเกมยุคใหม่ได้อย่างมั่นใจ

Play to Earn คืออะไร?

Play to Earn หรือ P2E คือรูปแบบเกมดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถ สร้างรายได้จริงจากการเล่นเกม โดยแตกต่างจากเกมทั่วไปที่มุ่งเน้นเพียงความบันเทิง เกมประเภทนี้จะผสานเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) และ NFT (Non-Fungible Token) เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ไอเท็ม ตัวละคร หรือทรัพยากรภายในเกมมีมูลค่าในฐานะ สินทรัพย์ดิจิทัล ที่สามารถซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนได้จริง

รูปแบบการเล่นในเกม P2E มักจะมอบรางวัลให้ผู้เล่นในลักษณะของ โทเค็นหรือคริปโตเคอร์เรนซี เมื่อทำภารกิจสำเร็จ เอาชนะคู่ต่อสู้ หรือสะสมไอเท็มหายาก โทเค็นเหล่านี้สามารถนำไปใช้ต่อภายในเกม หรือนำไปซื้อขายในตลาดคริปโตเพื่อแปลงเป็นเงินจริงได้

สรุปคือ Play to Earn เป็นการผสมผสานระหว่าง ความสนุกจากการเล่นเกม และ โอกาสทางเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ทำให้เวลาและทักษะของผู้เล่นสามารถแปรเปลี่ยนเป็นรายได้จริง

Play to Earn มีหลักการทำงานอย่างไร

ก่อนที่จะเข้าใจว่าเกมแบบ Play to Earn (P2E) สามารถสร้างรายได้จริงได้อย่างไร เราควรมองภาพรวมว่าเกมเหล่านี้ถูกออกแบบมาโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นแกนหลัก ทำให้ทุกกิจกรรมภายในเกมไม่ว่าจะเป็นการสะสมไอเท็ม การทำภารกิจ หรือการแลกเปลี่ยนโทเค็น ล้วนมีมูลค่าที่สามารถตรวจสอบได้จริงในโลกดิจิทัล 

กลไกเหล่านี้คือหัวใจสำคัญที่เปลี่ยนเกมธรรมดาให้กลายเป็น “เศรษฐกิจเสมือน” ที่ผู้เล่นมีสิทธิ์ครอบครองและสามารถต่อยอดเป็นรายได้จริง

พื้นฐานของระบบ Play to Earn

หลักการสำคัญของเกม P2E คือการนำเทคโนโลยี บล็อกเชน (Blockchain) มาใช้เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของของไอเท็มและโทเค็นในเกม ทุกครั้งที่ผู้เล่นได้รับไอเท็มหรือรางวัล การบันทึกข้อมูลจะถูกจัดเก็บแบบถาวรและโปร่งใสบนเครือข่ายบล็อกเชน สิ่งนี้ทำให้ผู้เล่นมั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตนถือครองมีความปลอดภัยและไม่สามารถถูกปลอมแปลงได้

1. กลไกและกิจกรรมที่สร้างรายได้

รายได้จากเกม P2E เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผู้เล่นมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการทำภารกิจ การต่อสู้ การสะสม หรือแม้แต่การเทรด โดยรางวัลที่ได้รับส่วนใหญ่มีสองรูปแบบคือ โทเค็น (tokens) และ NFTs

• โทเค็นดิจิทัล: มักได้จากการทำเควสหรือชนะการต่อสู้ ใช้ซื้อขายหรือนำไปแลกเปลี่ยนเป็นคริปโตสกุลอื่นได้
• NFTs: อาจเป็นไอเท็มหายาก ตัวละคร หรือที่ดินเสมือน ซึ่งสามารถขายต่อในตลาด NFT Marketplace ได้

กิจกรรมเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นไม่ได้เพียงแค่สนุกกับเกม แต่ยังมีโอกาสสร้างรายได้จากความพยายามในเกมอีกด้วย

2. การแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริง

เมื่อผู้เล่นได้รับโทเค็นหรือ NFTs แล้ว ขั้นตอนสำคัญถัดมาคือการนำสินทรัพย์เหล่านี้ไป แลกเปลี่ยนเป็นเงินจริง ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและตลาดซื้อขายที่รองรับ เช่น ตลาดคริปโตหรือแพลตฟอร์ม NFT Marketplace ผู้เล่นสามารถถอนโทเค็นออกมาในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ หรือแปลงเป็นสกุลเงินปกติที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้

3. ระบบเศรษฐกิจแบบกระจาย

สิ่งที่ทำให้ Play to Earn แตกต่างจากเกมทั่วไปคือการมี เศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Economy) ที่ผู้เล่นมีสิทธิ์เต็มที่ต่อทรัพย์สินดิจิทัลในเกม ไอเท็มหรือโทเค็นไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนา แต่สามารถหมุนเวียนในตลาดเสรีได้จริง

• ผู้เล่นสามารถซื้อขายไอเท็มได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง
• ตลาดภายในและภายนอกเกมผสานเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีสภาพคล่องสูง
• บางเกมมีฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การถือครองที่ดินเสมือน (Virtual Land) ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากการพัฒนา ปล่อยเช่า หรือขายต่อ

สินทรัพย์ในระบบ Play to Earn ที่สามารถถือครองได้

ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดของทรัพย์สินในเกม Play to Earn (P2E) เราควรรู้ก่อนว่าแกนหลักคือ NFT (Non-Fungible Token) ซึ่งทำให้ของดิจิทัลในเกมกลายเป็นสิ่งที่ผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของจริงได้ เมื่อผูกกับบล็อกเชนก็ช่วยยืนยันความเป็นเจ้าของและสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างอิสระในตลาด นี่คือหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจ P2E ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นนำเวลาและความพยายามมาเปลี่ยนเป็นรายได้จริง

สินทรัพย์หลักที่พบในระบบ P2E ได้แก่:

1. ตัวละคร (Characters)

ในเกมหลาย ๆ แพลตฟอร์ม เช่น Axie Infinity ผู้เล่นสามารถถือครอง ตัวละครในรูปแบบ NFT ที่มีคุณสมบัติเฉพาะและแตกต่างกันแต่ละตัว เช่น Axies ใน Axie Infinity ซึ่งผู้เล่นสามารถสะสม แข่งขัน หรือผสมพันธุ์เพื่อสร้างตัวละครใหม่ที่มีมูลค่าได้

คุณสมบัติที่โดดเด่นของตัวละคร NFT:

• แต่ละตัวมีลักษณะเฉพาะ (uniqueness) และเกรดต่าง ๆ
• ใช้ในการต่อสู้, ทำภารกิจ หรือแข่งขัน
• สามารถซื้อ ขาย หรือเทรดในรูปแบบ NFT ตามมูลค่าตลาด
  
  

2. ไอเท็มในเกม (Items)

ไอเท็มภายในเกม เช่น อาวุธ ชุดแฟชั่น หรือไอเท็มตกแต่งตัวละคร สามารถถูกสร้างให้อยู่ในรูปแบบ NFT เพื่อให้ผู้เล่นสามารถถือครองได้อย่างแท้จริง 

ตัวอย่างเช่น ไอเท็มที่ถูกซื้อขายบนตลาด NFT ของ Decentraland หรือเกมอื่น ๆ ลักษณะของไอเท็มเหล่านี้มีความหลากหลาย ทั้งในเชิงความสวยงามที่ใช้แสดงเอกลักษณ์ของผู้เล่น และในเชิงประโยชน์ที่ส่งผลต่อกลไกการเล่นเกม 

อีกทั้งยังมีมูลค่าในตลาดที่ถูกกำหนดตามความหายากและคุณลักษณะเฉพาะของแต่ละไอเท็ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนหรือเก็งกำไรได้ตามความต้องการ

3. ที่ดินเสมือน (Virtual Land)

อีกหนึ่งสินทรัพย์ที่มีความสำคัญมากในเกมแนว metaverse เช่น Decentraland, The Sandbox หรือ Axie Infinity คือ ที่ดินเสมือนในรูปแบบ NFT ที่ผู้เล่นสามารถซื้อ ขาย ปรับแต่ง หรือปล่อยเช่าได้ตามต้องการ

จุดเด่นของที่ดินเสมือน:

• บทบาทของที่ดินแตกต่างกัน เช่น ใช้สร้างที่อยู่อาศัย, พื้นที่จัดกิจกรรม, หรือทำฟาร์มหรือพื้นที่ผลิตทรัพยากร
• สร้างรายได้แบบ passive เช่น ปล่อยเช่าหรือสร้างธุรกิจภายในเกม
• บางกรณี ราคาที่ดินสูงมาก เช่น Axie Infinity บางแปลงเคยถูกขายในราคาหลายล้านดอลลาร์

ข้อดีและข้อเสียของ Play to Earn

Play to Earn (P2E) คือแนวเกมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จริงผ่านกิจกรรมภายในเกม เช่น การต่อสู้ การสะสม หรือการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อรวมกับเทคโนโลยีบล็อกเชน สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ ทำให้เกิดข้อดีหลายประการ แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม

ข้อดีของ Play to Earn

• โอกาสสร้างรายได้จริงจากการเล่นเกม: 

เกม P2E เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้รับเหรียญคริปโตหรือ NFT ที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้ เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากกิจกรรมบันเทิงที่เคยเป็นเพียงงานอดิเรก

• ความเป็นเจ้าของสมบูรณ์ของสินทรัพย์ดิจิทัล: 

ผู้เล่นถือครองตัวละคร ไอเท็ม หรือที่ดินเสมือนในรูปแบบ NFT อย่างแท้จริง สามารถขายหรือย้ายไปยังแพลตฟอร์มอื่นได้อย่างอิสระ

• การเข้าถึงและความร่วมมือระหว่างผู้เล่นทั่วโลก: 

P2E มีแนวโน้มเข้าถึงง่ายและไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มใด ส่งผลให้เกิดชุมชนเกมที่แอคทีฟและมีความร่วมมือสูง ผู้เล่นร่วมแบ่งปันภารกิจหรือเป้าหมายร่วมกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีพลังและน่าสนใจยิ่งขึ้น

• กระตุ้นการพัฒนาทางด้านเกมและระบบเศรษฐกิจเสมือน (GameFi):
  ตลาด P2E ส่งเสริมให้เกมและเทคโนโลยีบล็อกเชนเติบโตไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง DAO, การลงทุนในแพลตฟอร์ม หรือสกุลเงินในเกมที่หลากหลาย

ข้อเสียของ Play to Earn

• ค่าเริ่มต้นสูงและเป็นอุปสรรคในการเข้าร่วม:
  เกมหลายเกมต้องการให้ผู้เล่นซื้อ NFT หรือโทเค็นก่อนเข้าร่วม ซึ่งอาจมีราคาสูงจนทำให้ผู้เล่นทั่วไปเข้าถึงยาก
  
  
• ความผันผวนของราคาและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ:

มูลค่าของโทเค็นและ NFT มักผันผวนตามตลาดคริปโต ทำให้ผู้เล่นเผชิญกับความเสี่ยงเรื่องมูลค่าตกลงอย่างรวดเร็ว

• ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย:

ระบบบล็อกเชนอาจเผชิญกับปัญหาเรื่องความปลอดภัย เช่น การแฮกหรือฟิชชิง ขณะที่กฎหมายเกี่ยวกับคริปโตและ NFT ยังไม่ได้ชัดเจนในหลายประเทศ

เกม Play to Earn ยอดนิยม

โลกของเกม Play to Earn (P2E) มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมแต่ละเกมต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในแง่ของ รูปแบบการเล่น (gameplay), ระบบตัวละคร, และ โอกาสในการสร้างรายได้ การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละเกมจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเลือกเกมที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่น และตัดสินใจเข้าร่วมในเศรษฐกิจเสมือนจริงได้อย่างรอบคอบ

1. Axie Infinity

Axie Infinity เป็นเกมแนวสะสมและต่อสู้ด้วยสัตว์เลี้ยงดิจิทัลที่เรียกว่า "Axies" ซึ่งแต่ละตัวเป็น NFT ผู้เล่นสามารถซื้อ ขาย และผสมพันธุ์ Axies เพื่อสร้างตัวละครใหม่ที่มีความสามารถเฉพาะตัว ระบบการต่อสู้เป็น turn-based strategy ซึ่งผู้เล่นต้องวางแผนการใช้การ์ดโจมตีและป้องกัน

ความน่าสนใจของเกม:

• Axies แต่ละตัวมีสกิลและสถิติที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดกลยุทธ์การต่อสู้ที่หลากหลาย
• มีทั้งโหมด PvE (ต่อสู้กับ AI) และ PvP (ต่อสู้กับผู้เล่นอื่น)
• ระบบเศรษฐกิจในเกมให้ผู้เล่นสร้างรายได้ผ่าน SLP token และการขาย Axies บนตลาด NFT
• รองรับการถือครอง NFT อย่างแท้จริงด้วยบล็อกเชน Ronin sidechain เพื่อลดค่าธรรมเนียม

2. The Sandbox

The Sandbox เป็นโลกเสมือนที่ผู้เล่นสามารถสร้างและแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองได้ ผู้เล่นสามารถสร้างที่ดินดิจิทัล (LAND), สร้างมินิเกม หรือสร้างประสบการณ์เชิงโต้ตอบต่างๆ

ความน่าสนใจของเกม:

• ระบบ Game Maker ช่วยให้ผู้เล่นสร้างเกมและกิจกรรมบน LAND โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
• สามารถซื้อขาย LAND และไอเท็ม NFT เพื่อสร้างรายได้
• เกมสนับสนุนการร่วมมือกับแบรนด์ดัง เช่น Adidas, The Smurfs, Atari เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะ
• มีชุมชนผู้สร้างเนื้อหา (Creators) ที่พัฒนาสิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

3. Decentraland

Decentraland เป็นโลกเสมือนที่สร้างบน Ethereum Blockchain ผู้เล่นสามารถซื้อที่ดิน (LAND) สร้างประสบการณ์ หรือจัดกิจกรรมสังคม เช่น คอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า และกิจกรรมทางธุรกิจ

ความน่าสนใจของเกม:

• ระบบ DAO Governance ให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจพัฒนาเกม
• สามารถสร้างและปรับแต่งตัวละคร NFT (Avatar) พร้อมอุปกรณ์และชุดแฟชั่น
• ระบบเศรษฐกิจในเกมใช้เหรียญ MANA สำหรับซื้อขาย LAND และไอเท็ม NFT
• สนับสนุนกิจกรรมสังคมและธุรกิจเสมือนจริง ทำให้โลกเกมมีชีวิตชีวา

4. Gods Unchained

Gods Unchained เป็นเกมการ์ดดิจิทัลที่ผู้เล่นสะสมและถือครองการ์ด NFT แต่ละใบมีความสามารถและคุณสมบัติแตกต่างกัน ผู้เล่นสามารถสร้างชุดการ์ด (deck) ของตัวเองเพื่อวางแผนกลยุทธ์ในการต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น 

ระบบการเล่นเป็นแบบ ผลัดกันเล่น (turn-based) ซึ่งผู้เล่นต้องเลือกการ์ดที่จะใช้โจมตีหรือป้องกันอย่างรอบคอบ การตัดสินใจในแต่ละเทิร์นมีผลต่อผลลัพธ์ของเกม ทำให้เกมเน้น การวางแผนและคิดเชิงกลยุทธ์ มากกว่าการพึ่งดวง

ความน่าสนใจของเกม:

• การ์ดแต่ละใบเป็น NFT ที่ผู้เล่นถือครองและสามารถซื้อขายได้
• การสร้างเด็คและวางแผนกลยุทธ์เป็นหัวใจสำคัญของการเล่น
• ผู้เล่นสามารถรับรางวัลเป็น GODS token และการ์ด NFT ที่สามารถแลกเปลี่ยนในตลาดได้จริง
• เกมเหมาะกับผู้เล่นที่ชอบความท้าทายและการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ 

วิธีเลือกเกม Play to Earn ที่น่าเชื่อถือ

การเลือกเกม P2E ที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผู้เล่นจะลงทุนเวลาและเงินในรูปแบบ NFT หรือโทเค็น หากเลือกเกมที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัพย์สิน ดังนั้นควรพิจารณาหลักเกณฑ์ต่อไปนี้

1. ดูทีมพัฒนาและพันธมิตร

ความน่าเชื่อถือของเกมเริ่มจากทีมผู้พัฒนาและพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ทีมที่มีประสบการณ์และโปรไฟล์ชัดเจนมักสร้างเกมที่มีระบบมั่นคงและความปลอดภัยสูง 

นอกจากนี้ การมีพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น แพลตฟอร์ม NFT, บล็อกเชน, หรือแบรนด์ที่มีชื่อเสียง จะช่วยยืนยันว่าเกมมีความน่าเชื่อถือและมีแนวโน้มเติบโต

2. ตรวจสอบ Tokenomics

Tokenomics คือระบบเศรษฐกิจของเกม การเข้าใจ Tokenomics จะช่วยให้ผู้เล่นเห็นภาพความยั่งยืนของเกม เช่น การกำหนดจำนวนโทเค็น การกระจายโทเค็นอย่างเป็นธรรม แรงจูงใจของผู้เล่นในการสะสม NFT หรือรับรางวัล และความโปร่งใสของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ใช้ในเกม

3. ดูชุมชนผู้เล่น (Community)

ชุมชนที่เข้มแข็งมักสะท้อนถึงความมั่นคงของเกม ผู้เล่นสามารถตรวจสอบกิจกรรมของชุมชนบนโซเชียลมีเดียหรือ Discord ดูว่ามีการแลกเปลี่ยน NFT การจัดกิจกรรม หรือการให้คำแนะนำกับผู้เล่นใหม่หรือไม่ ชุมชนที่สนับสนุนซึ่งกันและกันและให้คำติชมอย่างสร้างสรรค์มักเป็นสัญญาณว่าเกมมีระบบการจัดการที่ดี

4. อ่านรีวิวและติดตามข่าวสาร

การรีวิวจากผู้เล่นจริงและสื่อคริปโตช่วยให้เข้าใจข้อดีข้อเสียของเกม และเห็นภาพความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ผู้เล่นควรติดตามการอัปเดตเกมอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเปิดตัว NFT ใหม่ การอัปเกรดระบบ หรือการแก้ไขปัญหา 

แนวโน้มและอนาคตของ Play to Earn

ในปี 2025 ตลาดเกม Play to Earn (P2E) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย Market.us รายงานว่าขนาดตลาด P2E จะเพิ่มขึ้นจาก 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 เป็น 26.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034 ในขณะที่ Business Research Insights คาดการณ์ว่าตลาดเกม NFT P2E จะเติบโตจาก 1.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 เป็น 7.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033

แม้ว่าตลาด P2E จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความท้าทายที่ต้องเผชิญ เช่น การลดลงของการลงทุนและการปิดตัวของเกมบางเกมในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 ตามรายงานของ DappRadar ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการพัฒนาเกมที่มีคุณภาพและยั่งยืน

ในอนาคต คาดว่าเกม P2E จะมีการพัฒนาในหลายด้าน เช่น การนำ AI มาปรับปรุงประสบการณ์การเล่น การขยายตัวของเกมบนแพลตฟอร์มมือถือ และการสร้างระบบเศรษฐกิจภายในเกมที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า P2E จะยังคงเป็นส่วนสำคัญของวงการเกมดิจิทัลในปีต่อๆ ไป

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Play to Earn

• Play to Earn คืออะไร และต่างจากเกมทั่วไปยังไง?
  

Play to Earn (P2E) คือเกมที่ผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จากการเล่นเกม ผ่านการถือครองหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น NFT หรือโทเค็นภายในเกม ต่างจากเกมทั่วไปตรงที่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนเวลาและความพยายามในการเล่นเป็นมูลค่าจริงได้

• เกม Play to Earn ที่น่าเล่นในปี 2025 มีเกมอะไรบ้าง?

เกม P2E ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมในปี 2025 ได้แก่

• • Axie Infinity: Axie Infinity ยังคงเป็นเกม P2E ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปี 2025 โดยมีผู้เล่นมากกว่า 1 ล้านคน และระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งผ่านการสะสม การผสมพันธุ์ และการต่อสู้ของสัตว์เลี้ยง NFT 
  • Gods Unchained: เกมการ์ดดิจิทัลที่เน้นกลยุทธ์ ผู้เล่นสามารถสะสมและใช้การ์ด NFT เพื่อแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่น 
  • The Sandbox: เกมโลกเสมือนที่ให้ผู้เล่นสร้างและแลกเปลี่ยนที่ดิน NFT รวมถึงสร้างสรรค์ประสบการณ์ต่าง ๆ ภายในเกม 
  • Illuvium: เกม RPG แบบโอเพ่นเวิลด์ที่เน้นการสำรวจและการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตในโลกแฟนตาซี ผู้เล่นสามารถจับและฝึก Illuvials ซึ่งเป็น NFT ที่มีคุณสมบัติและความสามารถเฉพาะตัว
  • Big Time: เกมแอ็กชันผจญภัยที่ผู้เล่นสามารถสำรวจโลกต่าง ๆ ต่อสู้กับศัตรู และสะสมไอเท็ม

• รายได้จาก Play to Earn ต้องเสียภาษีไหม?

รายได้จากการเล่นเกม Play to Earn (P2E) ในประเทศไทยถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากมีรายได้รวมจากแหล่งต่าง ๆ เกิน 120,000 บาทต่อปี

Conclusion

เกม Play to Earn (P2E) เป็นแนวเกมที่ให้ผู้เล่นสนุกพร้อมมีโอกาสสร้างรายได้จากการเล่น ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลและ NFT ที่สามารถถือครองและแลกเปลี่ยนได้ แม้มีโอกาสและศักยภาพสูง ผู้เล่นควรพิจารณาเลือกเกมอย่างรอบคอบและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือข้อกำหนดต่าง ๆ

โดยรวมแล้ว P2E เป็นมิติใหม่ของวงการเกม ทำให้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนเวลาและความพยายามเป็นมูลค่าจริง หากรู้จักวางแผนและบริหารความเสี่ยง เกมเหล่านี้ก็สามารถเป็นทั้งความบันเทิงและช่องทางสร้างรายได้ที่น่าสนใจในอนาคต

คำเตือน

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด

อ้างอิง

• Chain.link
• kraken.com
• coinfantasy.io
• binance.com
• osl.com