Share this
เงินเฟียต (Fiat Money) คืออะไร? เข้าใจเงินที่เราใช้ในชีวิตประจำวันง่าย ๆ

ปัจจุบัน เงินเฟียต (Fiat Money) คือ ระบบการเงินที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายที่สุดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร, ปอนด์อังกฤษ, เยนญี่ปุ่น หรือสกุลเงินหลักอื่น ๆ
เงินเฟียต แตกต่างจากระบบที่ผูกมูลค่ากับทองคำหรือโลหะมีค่า เพราะไม่ได้มีสินทรัพย์จริงค้ำประกัน แต่มูลค่าของมันมาจากความเชื่อมั่นในรัฐบาลผู้ออก และเสถียรภาพของเศรษฐกิจ การใช้เงินเฟียตทำให้รัฐบาลและธนาคารกลางสามารถ ควบคุมปริมาณเงิน อัตราดอกเบี้ย และสภาพคล่อง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น
ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ควรพึงรู้ บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจว่าระบบเงินเฟียตนั้น คืออะไร แตกต่างจากสกุลเงินที่ผูกกับทองหรือคริปโตเคอร์เรนซีอย่างไร มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง รวมทั้งกลไกในการใช้งานเงินเฟียตในระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างไร
เงินเฟียต (Fiat Money) คืออะไร
เงินเฟียต (Fiat Money) คือ สกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล โดยไม่ได้มีสินทรัพย์อย่างทองคำค้ำประกัน ข้อดีของเงินเฟียตคือช่วยให้ธนาคารกลางควบคุมเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพราะสามารถกำหนดปริมาณการพิมพ์เงินได้ โดยปัจจุบันสกุลเงินกระดาษส่วนใหญ่ถือเป็นเงินเฟียต เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นต้น ถึงอย่างนั้น เงินเฟียตก็มีความเสี่ยงเชน่กันในกรณีที่รัฐบาลพิมพ์เงินมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง (Hyperinflation)
ใครเป็นผู้ออกเงินเฟียต
เงินเฟียต คือสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล ซึ่งไม่ได้มีสินทรัพย์จริงอย่างทองคำหรือเงินเป็นหลักค้ำประกัน แต่มี มูลค่ามาจากความเชื่อมั่นในรัฐบาลผู้ออก
มูลค่าของเงินเฟียตขึ้นอยู่กับ ความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์-อุปทาน และ เสถียรภาพของรัฐบาล มากกว่ามูลค่าของสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน

สกุลเงินเฟียต มีอะไรบ้าง
ตัวอย่างของสกุลเงินเฟียตนั้นมีหลายสกุล ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยูโร (EUR) ปอนด์อังกฤษ (GBP) เยนญี่ปุ่น (JPY) เลกแอลเบเนีย (ALL) หรือรูปีอินเดีย (INR) ล้วนเป็นตัวอย่างของ เงินเฟียต ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ได้รับการรับรองโดยรัฐบาลผู้ออก ทำให้มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ถึงอย่างนั้น เสถียรภาพดังกล่าวก็ไม่ได้ถือว่าแน่นอนเสมอไป
ตัวอย่างกรณีเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นในประเทศซิมบับเว ช่วงต้นทศวรรษ 2000 เมื่อธนาคารกลางซิมบับเวเริ่ม พิมพ์เงินจำนวนมหาศาล เพื่อตอบสนองต่อปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าในช่วงนั้นค่าเงินซิมบับเวสูญเสียมูลค่ากว่า 99.9% ราคาสินค้าพุ่งสูงจนประชาชนต้อง หอบถุงเงินเต็ม ๆ เพื่อซื้อของจำเป็นเพียงเล็กน้อย ในที่สุดรัฐบาลต้องออกธนบัตร 100 ล้านล้านดอลลาร์ซิมบับเว ทำให้ประชาชนหันไปใช้สกุลเงินต่างประเทศ แทนเงินซิมบับเวอย่างแพร่หลาย
เงินเฟียตมีหลักการใช้งานอย่างไรในระบบเศรษฐกิจ
โดยทั่วไปแล้ว กลไกของการใช้งานเงินเฟียตในระบบเศรษฐกิจสามารถอธิบายออกมาเป็นข้อย่อย ๆ ได้ ดังนี้
- เงินเฟียต คือสกุลเงินที่รัฐบาลกำหนดมูลค่า และประชาชนยอมรับใช้ในการแลกเปลี่ยนแม้ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน
- รัฐบาลบังคับใช้เงินเฟียตผ่านการจัดเก็บภาษี ทำให้ประชาชนต้องยอมรับสกุลเงินนี้เพื่อใช้ชำระหนี้และทำธุรกรรม
- เงินเฟียตต่างจากตัวกลางแลกเปลี่ยนในอดีต อย่างเหรียญโลหะมีค่าหรือธนบัตรที่แลกเป็นทองคำ/เงินได้ ปัจจุบันเงินเฟียตไม่สามารถแลกคืนเป็นสินทรัพย์จริง
- มูลค่าของเงินเฟียตขึ้นอยู่กับอุปสงค์-อุปทาน และเสถียรภาพของรัฐบาลผู้ออก มากกว่ามูลค่าของสินทรัพย์ที่ค้ำประกัน

ข้อดีและข้อเสียของเงินเฟียต
โดยทั่วไปแล้ว สินทรัพย์อย่างเงินเฟียตก็มีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดีของเงินเฟียต
- สกุลเงินเฟียต (Fiat Currencies) ยังเป็นสินทรัพย์หลักที่ผู้คนใช้จ่าย โดยเงินเฟียตเริ่มได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 20 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลและธนาคารกลางต้องการป้องกันเศรษฐกิจจากผลกระทบของ วัฏจักรธุรกิจที่มีทั้งช่วงขาขึ้นและขาลงอย่างรุนแรง
- เงินเฟียตไม่ใช่ทรัพยากรที่มีจำกัดเหมือนทองคำ ทำให้ธนาคารกลางควบคุมปริมาณเงินได้มากกว่า ซึ่งช่วยให้บริหารตัวแปรทางเศรษฐกิจสำคัญได้ เช่น การปล่อยสินเชื่อ สภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ย และความเร็วในการหมุนเวียนของเงิน ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐหรือ Fed มีเป้าหมายหลัก 2 อย่างคือ ควบคุมอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งการใช้เงินเฟียตช่วยให้ทำตามเป้าหมายนี้ได้ง่ายขึ้น
- เงินเฟียตยังถือว่าเป็นสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเงินเฟียตยังตอบโจทย์ต่อการเป็นบทบาทหลักของระบบเศรษฐกิจ เช่น เก็บรักษามูลค่า ใช้เป็นหน่วยวัดมูลค่า และอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยน อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบเรื่อง Seigniorage คือต้นทุนการผลิตต่ำเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ผูกกับสินทรัพย์อย่างทองคำ
ข้อเสียและข้อจำกัดของเงินเฟียต
- เคยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ วิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ในปี 2007 และการล่มสลายทางการเงินที่ตามมานั้น ทำให้ความเชื่อที่ว่าธนาคารกลางสามารถป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงหรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ได้ด้วยการควบคุมปริมาณเงินนั้นถูกตั้งคำถาม
- อาจเสถียรน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ผูกกับทองคำ โดยสกุลเงินเหล่านั้นมักมีความเสถียรมากกว่าเงินเฟียต เพราะปริมาณทองคำมีจำกัด จึงควบคุมการเพิ่มหรือลดปริมาณเงินได้ง่ายกว่า
เปรียบเทียบเงินเฟียตกับสินทรัพย์ประเภทอื่น
เมื่อเปรียบเทียบเงินเฟียตกับสินทรัพย์ประเภทอื่นนั้น สามารถอธิบายความแตกต่างได้ ดังนี้

เงินเฟียตเทียบกับคริปโตเคอร์เรนซี
- ความเป็นส่วนตัว
- การทำธุรกรรมด้วยเงินเฟียตสามารถติดตามย้อนกลับไปยังผู้ทำธุรกรรมได้หลายวิธี เช่น ผ่านธนาคารหรือผู้ให้บริการทางการเงิน ต่างจากธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่ตรวจสอบได้บน ล็อกเชนสาธารณะ แต่จะเห็นเพียงที่อยู่กระเป๋าเงินของผู้ส่งและผู้รับ โดยไม่แสดงตัวตนจริง
- การระบุต้นทางของธุรกรรมคริปโตทำได้ยากกว่าเงินเฟียต
- การโอนเงินระหว่างประเทศ
- การโอนเงินเฟียตระหว่างประเทศมักช้าและมีค่าธรรมเนียมสูง เพราะต้องผ่านตัวกลาง เช่น ธนาคารหรือผู้ให้บริการโอนเงิน ส่วนคริปโตสามารถทำธุรกรรมข้ามประเทศได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
- คริปโตใช้ Smart Contracts เพื่อทำธุรกรรมอัตโนมัติบนบล็อกเชน โดยไม่ต้องพึ่งบุคคลที่สาม
- ความปลอดภัย
- เงินเฟียตมีทั้งในรูปแบบดิจิทัลและเงินสด โดยเงินสดมักเก็บไว้ในธนาคารและได้รับการปกป้องจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
- เสี่ยงเจอโจรกรรมเงินสดได้
- ในขณะที่คริปโตเคอร์เรนซี แม้ลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมแบบเงินสด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านการแฮ็กและการถูกขโมย Private Key ซึ่งหากสูญหาย มักไม่สามารถกู้คืนได้

เงินเฟียตเทียบกับเงินที่ผูกกับทองคำ (Gold Standard)
- พื้นฐานของมูลค่า มูลค่าเงินเฟียตไม่ได้อ้างอิงกับสินทรัพย์จริง แต่เกิดจากความเชื่อมั่นและ การประกาศให้เป็นเงินชำระหนี้ตามกฎหมายโดยรัฐบาล ส่วนเงินที่ผูกกับทองคำสามารถ แลกเป็นทองคำจริงได้ตามสัดส่วนที่กำหนด
- กลไกการกำหนดมูลค่า เงินเฟียตผันผวนตามกลไกตลาดและอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินใน Forex Market ส่วน Gold Standard คงที่ตามปริมาณทองคำสำรอง ทำให้มีความผันผวนน้อยกว่า
- การค้าระหว่างประเทศ ระบบเงินเฟียตจะชำระเงินด้วยสกุลเงินกระดาษผ่านระบบธนาคารและตลาดการเงิน ในขณะที่ Gold Standard ใช้ทองคำจริงในการชำระหนี้การค้าระหว่างประเทศ
- ดุลการค้าและทองคำสำรอง ดุลการค้าไม่ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณสินทรัพย์ค้ำประกัน เพราะเงินเฟียตไม่ได้ผูกกับทองคำแต่ Gold Standard จะได้รับผลกระทบในกรณ๊ที่ประเทศที่ เกินดุลการค้าจะสะสมทองคำเพิ่ม ส่วนประเทศที่ขาดดุลจะสูญเสียทองคำสำรอง
- ความยืดหยุ่นของนโยบายการเงิน เงินเฟียตมีความยืดหยุ่นสูง ธนาคารกลางสามารถควบคุม ปริมาณเงิน อัตราดอกเบี้ย และสภาพคล่องได้ง่าย ส่วน Gold Standard มีความยืดหยุ่นต่ำ เพราะการออกเงินต้องสอดคล้องกับ ปริมาณทองคำสำรอง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเงินเฟียต
-
เงินเฟียตมีมูลค่าจริงหรือไม่
เงินเฟียตมีมูลค่าเพราะได้รับการรับรองจากความเชื่อมั่นและความไว้วางใจต่อรัฐบาลผู้ออก แตกต่างจาก เงินที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันหรือธนบัตรที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นโลหะมีค่าได้ นั่นก็เพราะรัฐบาลกำหนดให้ประชาชนต้องชำระภาษีด้วยเงินเฟียต หากไม่ทำตามจะถูกลงโทษปรับหนักหรือจำคุก ทำให้ผู้คนยอมรับเงินเฟียตในการแลกเปลี่ยน ซึ่งแนวคิดนี้เรียกว่า Chartalism นอกจากนี้ยังมี ทฤษฎีเครดิต (Credit Theory) ที่มองว่า เงินทุกชนิดเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์หนี้และเครดิต แม้เงินจะไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ก็ยังสามารถคงมูลค่าได้
-
เงินเฟ้อเกี่ยวข้องกับเงินเฟียตอย่างไร
ภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงอาจเกิดขึ้นได้เมื่อประเทศพิมพ์เงินของตนเอง แต่ส่วนใหญ่ประเทศพัฒนาแล้วมักเผชิญภาวะเงินเฟ้อในระดับปานกลาง ซึ่งเงินเฟ้อในระดับต่ำกลับเป็นปัจจัยบวก เพราะกระตุ้นให้ผู้คนนำเงินไปลงทุนหรือใช้จ่าย แทนการปล่อยทิ้งไว้ให้มูลค่าลดลง การมีสกุลเงินที่แข็งค่าและเสถียรถือเป็นภารกิจสำคัญของธนาคารกลาง เพราะค่าเงินที่อ่อนตัวรวดเร็วส่งผลเสียต่อการค้าและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทั้งนี้ ภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงมักไม่ได้เกิดจากการพิมพ์เงินเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงกับปัญหาเศรษฐกิจจริง และ/หรือความไม่มั่นคงทางการเมืองเป็นหลัก
-
คริปโตเคอร์เรนซีเป็นเงินเฟียตหรือไม่
คริปโตเคอร์เรนซีไม่ถือเป็นเงินเฟียต เพราะเงินเฟียตคือสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล และมีมูลค่าเกิดจากการกำหนดโดยกฎหมาย ในขณะที่คริปโตเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ ซึ่งมูลค่ามาจากบล็อกเชนของตัวเองและอุปสงค์ในตลาด ไม่ได้มีรัฐบาลหรือหน่วยงานกลางใด ๆ ค้ำประกัน คริปโตจึงยังคงเป็นอิสระจากการควบคุมของธนาคารกลางและนโยบายการเงิน ซึ่งแตกต่างจากเงินเฟียตโดยสิ้นเชิง
Conclusion
เงินเฟียต (Fiat Money) คือหัวใจของระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ที่ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นทางนโยบายการเงิน และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม เช่น ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง (Hyperinflation) หรือการสูญเสียความเชื่อมั่นในสกุลเงิน
การทำความเข้าใจหลักการทำงานของเงินเฟียตและบทบาทของธนาคารกลาง จะช่วยให้เรามองเห็นทั้งข้อดีและข้อจำกัดของระบบนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในยุคที่โลกการเงินกำลังเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และมีสินทรัพย์ดิจิทัล เข้ามาท้าทายบทบาทของเงินเฟียตมากขึ้น ความรู้เรื่องนี้จึงสำคัญต่อทั้งการใช้เงินในชีวิตประจำวัน และการตัดสินใจลงทุนในอนาคต
คำเตือน
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการเงินแต่อย่างใด
อ้างอิง
Share this
Subscribe by email

เงินเฟียต (Fiat Money) คืออะไร? เข้าใจเงินที่เราใช้ในชีวิตประจำวันง่าย ๆ

Buy on Dip คืออะไร? กลยุทธ์ซื้อเมื่อราคาตกที่นักลงทุนคริปโตต้องรู้

DEX คืออะไร? รู้จักกระดานเทรดแบบไร้คนกลาง จุดเด่นและข้อควรรู้

Pi Coin น่าลงทุนไหม? สำรวจความเสี่ยงและโอกาสในปี 2025

Litecoin คืออะไร? ทำไมถึงถูกขนานนามว่า “เงินดิจิทัล” คู่กับ Bitcoin

อัปเดตอันดับเหรียญคริปโตมาแรง ปี 2025 | เหรียญไหนน่าลงทุน?

การกระจายพอร์ตการลงทุนคืออะไร ทำได้ง่าย พอร์ตเสี่ยงน้อย เติบโตระยะยาว

พบกับ Aerodrome Finance (AERO) เสาหลักแห่งสภาพคล่องสำคัญของระบบนิเวศ Base

พบกับ Virtuals Protocol (VIRTUAL) ตัวช่วยสร้าง AI Agents อิสระได้แบบไม่ต้องเขียนโค้ด
