Bitazza Thailand Blog

JPMorgan เปิดทางลูกค้าลงทุน Bitcoin แล้ว

เขียนโดย Bitazza Team - 28 พ.ค. 2025, 12:01:45

 

สัปดาห์ที่ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2568

Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan Chase ยอมเปิดทางให้ลูกค้าสามารถลงทุน Bitcoin (BTC) ได้แล้ว โดยจะไม่มีการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าเอาไว้เอง  แม้ว่าตัวเขาเองจะยังไม่ยอมรับใน Bitcoin และยังไม่เห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ 
    
Bitwise คาดว่า ความต้องการลงทุนใน Bitcoin จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนสถาบันอย่างเช่น บริษัทมหาชน รัฐบาลประเทศต่าง ๆ และ Bitcoin ETF จะมีเงินไหลเข้ามากถึง 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2568 และเพิ่มอีก 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2569
    
มูลค่าการซื้อขายรวมของ Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสัปดาห์ที่มีการซื้อขายสูงที่สุดในปี 2568 นี้ โดยมีเม็ดเงินไหลเข้ารวม 2,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสัปดาห์ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 โดยกองทุน IBIT ยังครองแชมป์มูลค่าซื้อขายสูงสุด
    
Wall Street Journal รายงานว่า กลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกานำโดย JPMorgan Chase, Bank of America, Citigroup, Wells Fargo กำลังพิจารณาโปรเจกต์สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ร่วมกันเพื่อแข่งขันกับแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาด
    
สภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัสโหวตผ่านร่างกฎหมายจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์ของรัฐ โดยตอนนี้กฎหมายคลังสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์มีถึง 47 ฉบับที่ถูกยื่นพิจารณาใน 26 รัฐ
    
สภานิติบัญญัติของฮ่องกงลงมติผ่านร่างกฎหมาย “Stablecoins Bill” รับรองให้ผู้ที่ต้องการออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงกับสกุลเงินเฟียตจะต้องขอใบอนุญาตจาก ธนาคารกลางฮ่องกงเสียก่อน มีผลบังคับใช้ภายในปี 2568 นี้


วิเคราะห์กราฟเทคนิค

 

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้สำเร็จก่อนจะมีการพักตัวลงมา แม้ดัชนี RSI จะเข้าเขตปริมาณการซื้อมากเกินไป (Overbought) แต่โมเมนตัมยังสาารถผลักดันราคาขึ้นต่อไปได้ เป้าหมายแนวต้านอยู่ที่ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากมีการปรับฐานลงมา แนวรับ 98,000 ดอลลาร์สหรัฐสามารถใช้เป็นจุดเข้าซื้อได้

  • แนวรับ: 3,300,000 บาท / 98,000 USD
  • แนวต้าน: 3,900,000 บาท / 120,000 USD

 

 

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) พักตัวเคลื่อนไหวออกข้างเพื่อที่จะสะสมพลังในการปรับตัวขึ้นต่vอ จับตาแนวรับระยะสั้นที่ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดซื้อได้ หากสามารถผ่านแนวต้านที่ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐไปได้ จะขึ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 2,900 ดอลลาร์สหรัฐ

  • แนวรับ: 76,000 บาท / 2,200 USD
  • แนวต้าน: 96,000 บาท / 2,900 USD

 

 

Worldcoin (WLD)

Worldcoin (WLD) ทำผลตอบแทน 23.76% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังกลับตัวเป็นขาขึ้น หาจังหวะเข้าซื้อแบบเพื่อราคาลดลง (Buy On Dip) ตัดขาดทุนหากราคาหลุดระดับ 1.055 ดอลลาร์สหรัฐ ขายทำกำไรระยะสั้นได้ที่แนวต้าน 1.657 ดอลลาร์สหรัฐ

  • แนวรับ: 36 บาท / 1.055 USD
  • แนวต้าน: 52 บาท / 1.657 USD

 

Artificial Superintelligence Alliance (FET)

Artificial Superintelligence Alliance (FET) ทำผลตอบแทน 21.78% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้นในระยะสั้น ตัดขาดทุนหากหลุดระดับ 0.700 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1.060 ดอลลาร์สหรัฐ หาจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง

  • แนวรับ:  25 บาท / 0.700 USD
  • แนวต้าน: 34 บาท / 1.060 USD

 

จับกระแสการลงทุน

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีย่อตัวเล็กน้อยในช่วงสุดสัปดาห์จากข่าวที่สหรัฐอเมริกาจะขึ้นอัตราภาษีตอบโต้กับสหภาพยุโรป 50% ทำให้มีแรงเทขายเกิดขึ้น แต่ภาพรวมไม่ทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวเสียไป ก่อนที่ Donald Trump จะประกาศเลื่อนมาตราการดังกล่าวออกไปทำให้ราคากลับมาฟื้นตัว
    
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ของสหรัฐอเมริกาปรับตัวสูงต่อเนื่อง ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจะช่วยหนุนราคา Bitcoin (BTC) อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังต้องระมัดระวังการเกิดความผันผวนในตลาดการเงินโดยเฉพาะการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพราะอาจมีผลต่อราคา Bitcoin ในช่วงสั้น
    
สัปดาห์นี้เหตุการณ์สำคัญอยู่ที่การจัดงาน Bitcoin Conference 2025 ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคมนี้ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและที่ปรึกษาทำเนียบขาวเข้าร่วมงานนี้พร้อมเพรียง จับตาความคืบหน้าของการซื้อ Bitcoin ของรัฐบาลกลางที่จะช่วยหนุนราคา
    
วันพุธ 28 พฤษภาคมนี้จะมีการเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐอเมริกา (FOMC) ครั้งล่าสุด จับตาความเห็นของกรรมการต่อนโยบายดอกเบี้ย และวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคมนี้ มีประกาศผลคาดการณ์จีดีพีไตรมาสแรก คาดออกมาติดลบ 0.3% จากเดิมที่โต 2.4% หากออกมาตามคาด ระยะสั้นจะส่งผลต่อราคา Bitcoin เชิงลบ แต่อาจเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะลดดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด
    
กลยุทธ์การลงทุน ให้เน้นสะสมเหรียญทางเลือก (Altcoin) ที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) ขนาดใหญ่ที่มีโอกาสเติบโตจากนโยบายด้านคริปโทเคอร์เรนซีของสหรัฐอเมริกาอย่าง Ethereum (ETH), Ripple (XRP), Solana (SOL), Sui (SUI) ส่วน Bitcoin ให้หาจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัว

 

แหล่งอ้างอิง

คำเตือน

  • คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

เรียนรู้เพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog