สัปดาห์ที่ 9 - 15 กันยายน 2568
Ray Dalio เตือนวิกฤติหนี้ของสหรัฐอเมริกากำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อสถานะของดอลลาร์สหรัฐในฐานะเงินสกุลสำรองโลกและเป็นหนึ่งในปัจจัยหนุนราคาทองคำและคริปโทเคอร์เรนซีที่นักลงทุนมองว่าเป็นเครื่องเก็บรักษามูลค่า (Store Of Value) ช่วยลดความเสี่ยงการด้อยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แนะนักลงทุนแบ่งเงินบางส่วนทยอยสะสม
เว็บไซต์ BitcoinTreasuries.NET เปิดเผยว่า บริษัทมหาชนทั่วโลกสะสม Bitcoin รวมกันกว่า 1,000,698 BTC มูลค่ากว่า 111,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 5.1% ของซัพพลายทั้งหมด โดยผู้นำเทรนด์มาจากบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ข้อมูลยังชี้ว่า มีเพียง 5.2% ของซัพพลายที่ยังไม่ได้เข้าสู่ตลาดซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ Supply Shock ได้
วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาได้เผยร่างกฎหมาย Responsible Financial Innovation Act of 2025 ซึ่งเกี่ยวกับการจัดตั้ง Joint Advisory Committee on Digital Assets ระหว่างก.ล.ต. (SEC) และ CFTC ให้มีการทำงานร่วมกัน ตลอดจนการคุ้มครองนักพัฒนาโปรเจกต์ DeFi การชี้ชัดกฎเกณฑ์ของการแจกแอร์ดรอปและการแปลงเป็นโทเคน
ตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ของสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มการกำกับดูแลบริษัทมหาชนที่ระดมทุนเพื่อนำเงินไปซื้อคริปโตหลังเกิดกระแสนิยมในวงกว้าง โดยกำหนดว่าการเข้าซื้อต้องผ่านการโหวตจากผู้ถือหุ้น และบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น หากไม่ปฏิบัติตามอาจถูกพักการซื้อขายหรือถึงขั้นถอดออกจากตลาด
CryptoQuant เปิดเผยว่า ปริมาณ Ethereum (ETH) ที่อยู่บน Exchange Reserves ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี เหลือเพียงประมาณ 17.4 ล้าน ETH หลังจากเคยพุ่งสูงสุดที่ 28.8 ล้าน ETH ในเดือนกันยายน 2565 คาดว่ามาจากแรงซื้อของ ETF
Ethereum Foundation เตรียมขายเหรียญ Ethereum จำนวน 10,000 ETH คิดเป็นมูลค่า 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อระดมทุนสำหรับงานวิจัยและพัฒนา รวมถึงการบริจาคให้กับโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศของ Ethereum โดยจะทำการทยอยขายเป็นหลายคำสั่งเล็ก ๆ ผ่าน CEX เพื่อลดแรงกดดันต่อตลาด
Bitcoin (BTC) แนวโน้มเคลื่อนไหวออกข้างโดยมีแนวรับที่ 107,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ แนวโน้มมีโอกาสกลับตัวขึ้นต่อโดยมีเป้าหมายกลับไปที่จุดสูงสุดเดิม 124,000 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม หากหลุดแนวรับดังกล่าวอาจจะลงมาทดสอบได้ถึงระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Ethereum (ETH) แนวโน้มอยู่ในทิศทาง Sideway Down โดยใกล้จะลงมาทดสอบแนวรับ 4,050 ดอลลาร์ ถ้าไม่หลุดจากระดับนี้แนวโน้มมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้โดยมีเป้าหมายที่จุดสูงสุดเดิม 4,900 ดอลลาร์ คาดว่าแนวโน้มจะเคลื่อนไหวออกข้างสะสมพลังอีกสักระยะ
Zentry (ZENT) ทำผลตอบแทน 50.68% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มยังปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง แนวรับแรกที่ 0.0115 ดอลลาร์สหรัฐ หากสามารถยืนได้ถือรอขายทำกำไรที่แนวต้าน 0.0165 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากหลุดแนวรับให้ชะลอลงทุนไปก่อน
EigenLayer (EIGEN) ทำผลตอบแทน 20.77% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังฟื้นตัวกลับมาเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่ หาจังหวะซื้อที่แนวรับ 1.11 ดอลลาร์สหรัฐ และขายทำกำไรที่แนวต้าน 1.70 ดอลลาร์สหรัฐ หากสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ แนวโน้มมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
การประกาศตัวเลขอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) ออกมาต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก ทำให้ตลาดมีความคาดหวังว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) จะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ สะท้อนไปยังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลบวกต่อสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin และทองคำ
จับตาการประกาศตัวเลข CPI ในวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2568 ตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 2.7% แต่หากออกมาต่ำกว่าคาดจะส่งผลบวกต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเพราะเงินเฟ้อที่ไม่ได้เติบโตมากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคณะกรรมการนโยบายการเงินลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้และน่าจะมีการส่งสัญญาณออกมาในการประชุมสัปดาห์หน้า
เหรียญทางเลือก (Altcoin) ในกลุ่ม DeFi, RWA, สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) และเลเยอร์ 1 เป็นกลุ่มที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นตั้งแต่ต้นปี โดยสร้างผลตอบแทนในระดับ 38-45% ขณะที่กลุ่มเลเยอร์ 1, GameFi และ AI เกาะกลุ่มสร้างผลตอบแทนต่ำสุดในระดับติดลบ บ่งบอกว่าตลาดกำลังให้น้ำหนักการลงทุนไปยังเหรียญที่ได้แรงหนุนจากกฎหมาย GENIUS Act ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน: เน้นเหรียญที่อยู่ในกระแสของตลาดขณะที่ Downside ของ Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) มีจำกัดแม้จะมีเม็ดเงินไหลออกจาก ETF แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวล ตัวแปรสำคัญอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในช่วงเดือนนี้ให้จับตาใกล้ชิด
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
เรียนรู้เพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog