Share this
Bitwise คาด Bitcoin อาจมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2578
สัปดาห์ที่ 2 - 8 กันยายน 2568
Bitwise คาดการณ์ว่า Bitcoin (BTC) อาจมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2578 อ้างอิงจากแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบันและข้อจำกัดของซัพพลาย และคาดว่า Bitcoin จะสร้างผลตอบแทนเติบโตทบต้นต่อปี (CAGR) ถึง 28.3% ในทศวรรษหน้า ซึ่งสูงกว่าสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างหุ้น (6.2%) พันธบัตร (4.0%) และทองคำ (3.8%)
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดว่า ราคา Bitcoin ในปัจจุบันยังมีมูลค่าต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับทองคำจากการที่ความผันผวนของ Bitcoin ร่วงลงสู่ในระดับต่ำสุดตลอดกาลจากเดิมที่ความผันผวนของ Bitcoin เคยอยู่ที่ราว 60% เมื่อต้นปี ปัจจุบันได้ลดลงเหลือเพียง 30% เท่านั้น โดยราคาที่เหมาะสมของ Bitcoin ควรอยู่ที่ 126,000 ดอลลาร์สหรัฐในสิ้นปีนี้จึงจะมีสถานะเทียบเท่าทองคำในตลาดการลงทุนภาคเอกชน
BlackRock’s iShares ETF ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือ Bitcoin และ Ethereum (ETH) รายใหญ่ที่สุด ใกล้เคียงแพลตฟอร์มซื้อขายยักษ์ใหญ่อย่าง Coinbase และ Binance โดยถือครอง ETH แล้วกว่า 3.6 ล้าน ETH หากแนวโน้มยังมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิคาดว่าจะสามารถแซง Coinbase ได้ภายในปี 2568 นี้
Standard Chartered ประเมินว่า Ethereum และบริษัทที่ถือครอง ETH ในรูปแบบ Ethereum Digital Asset Treasury (DAT) ยังคงมีมูลค่าที่ต่ำเมื่อเทียบกับศักยภาพในการเติบโตโดยบริษัทเอกชนที่ถือครอง ETH ได้ซื้อสะสมไปแล้วราว 2.6% ของซัพพลายในระบบ ขณะที่ Spot ETH ETF ซื้อไปอีก 2.3% รวมเป็นกว่า 4.9% ของซัพพลาย ETH ทั้งหมด ที่หายไปจากตลาดในเวลาไม่ถึง 3 คาดว่าบริษัทเหล่านี้อาจถือครองรวมกันได้ถึง 10% ของซัพพลาย ETH ทั้งหมด
CryptoQuant รายงานว่า มีการฝากเหรียญสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) กว่า 1.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเข้ามายังแพลตฟอร์ม Binance เป็นการส่งสัญญาณเตรียมพร้อมสำหรับการซื้อคริปโตรอบใหม่ ขณะเดียวกันยังมีการถอนเหรียญ Ethereum มูลค่าเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐออกจาก Binance
Bitfinex ระบุว่า ตลาดคริปโตปัจจุบันยังคงมีความระมัดระวังมากกว่าความกล้าเสี่ยงแม้ยังมีเงินลงทุนไหลเข้าสู่ตลาด แต่แรงซื้อไม่ได้รุนแรงเหมือนรอบก่อนที่ราคา Bitcoin ทำจุดสูงสุด ส่งผลให้สภาวะตลาดเหรียญทางเลือก (Altcoin) ยังคงซบเซา โดยปัจจัยที่จะหนุนตลาดคริปโตคือการอนุมัติ ETF สำหรับ Altcoin
Zhou Xiaochuan อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางจีนออกมาแสดงความคิดเห็นว่า Stablecoin อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรและก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อระบบการเงินหากไม่มีการกำกับดูแลที่รัดกุม และความจำเป็นในการใช้ Stablecoin อาจถูกประเมินสูงเกินจริง
วิเคราะห์กราฟเทคนิค
Bitcoin (BTC)
Bitcoin (BTC) แนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาลง โดยมีเป้าหมายแนวรับถัดไปที่ 105,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากไม่สามารถยืนอยู่ได้ จะลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นการเสียภาพขาขึ้น หากสามารถยืนอยู่ได้ยังมีโอกาสกลับไปทดสอบแนวต้านจุดสูงสุดเดิมที่ 124,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 3,400,000 บาท / 105,000 USD
- แนวต้าน: 4,000,000 บาท / 124,000 USD
Ethereum (ETH)
Ethereum (ETH) แนวโน้มระยะสั้นเป็น Sideway Up ยังไม่มีการลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ มีแนวรับสำคัญที่ 4,260 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดซื้อได้ โดยมีเป้าหมายที่จุดสูงสุดเดิม 4,900 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากยืนไม่อยู่ แนวโน้มจะเสียภาพขาขึ้น
- แนวรับ: 132,000 บาท / 4,260 USD
- แนวต้าน: 160,000 บาท / 4,900 USD
Zentry (ZENT)
Zentry (ZENT) ทำผลตอบแทน 21.83% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาดีดตัวขึ้นหลังลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 0.0070 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับนี้เพราะแนวโน้มจะเป็นขาลงต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายขายทำกำไรระยะสั้นที่ 0.0100 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 0.22 บาท / 0.0070 USD
- แนวต้าน: 0.34 บาท / 0.0100 USD
POL (POL)
POL (POL) ทำผลตอบแทน 17.83% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาเริ่มมีการยกตัวสูงขึ้นจากจุดต่ำสุด จับตาแนวรับที่ 0.23 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดซื้อได้ เป้าหมายขายทำกำไรอยู่ที่แนวต้าน 0.31 ดอลลาร์สหรัฐ หากสามารถผ่านไปได้แนวโน้มจะกลับตัวเป็นขาขึ้น
- แนวรับ: 6.00 บาท / 0.23 USD
- แนวต้าน: 10.50 บาท / 0.31 USD
จับกระแสการลงทุน
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซียังอยู่ในระยะพักตัว แต่ภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้นโดย Ethereum (ETH) ยังคงเป็นผู้นำตลาด นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) ที่จะตัดสินเรื่องอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้
ปัจจัยที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้อยู่ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) ตลาดคาดออกมาที่ 84,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า หากตัวเลขยังชะลอตัวอาจเพิ่มโอกาสในการลดดอกเบี้ย
ผลประกอบการของ Nvidia ออกมาเติบโตกว่าคาด แต่ตลาดให้น้ำหนักกับการที่รายได้จากธุรกิจ Data Center ออกมาเติบโตน้อยกว่าคาดเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ทำให้เป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรวมถึงตลาดคริปโต
สถิติย้อนหลังเดือนกันยายนมักจะเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริการวมถึงราคา Bitcoin ทำผลงานได้ไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อาจไม่เหมือนเดิมหาก Fed ลดดอกเบี้ยอาจส่งผลบวกต่อตลาด
กลยุทธ์การลงทุนเน้นสะสมเหรียญที่มีพื้นฐานรองรับและอยู่ในกระแสของสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) เพื่อลงทุนระยะกลางถึงยาว เลี่ยงการเก็งกำไรระยะสั้นจนกว่าตลาดจะมีข่าวดีที่ชัดเจน
แหล่งอ้างอิง
- https://cointelegraph.com/news/dollar1-3m-bitcoin-by-2035-bitwise-thinks-so
- https://www.theblock.co/post/368653/jpmorgan-says-current-bitcoin-price-too-low-sees-upside-to-126000-by-year-end
- https://cointelegraph.com/news/blackrock-btc-etf-balance-flips-coinbase-is-eth-next
- https://cointelegraph.com/news/binance-stablecoin-inflows-bitcoin-price
- https://cointelegraph.com/news/altcoin-season-crypto-etfs-factor-may-delay-analysts
- https://www.theblock.co/post/368550/former-china-central-bank-chief-stablecoin
คำเตือน
- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
เรียนรู้เพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog
Share this
- ธันวาคม 2025 (14)
- พฤศจิกายน 2025 (12)
- ตุลาคม 2025 (20)
- กันยายน 2025 (18)
- สิงหาคม 2025 (22)
- กรกฎาคม 2025 (37)
- มิถุนายน 2025 (33)
- พฤษภาคม 2025 (27)
- เมษายน 2025 (41)
- มีนาคม 2025 (22)
- กุมภาพันธ์ 2025 (33)
- มกราคม 2025 (9)
- ธันวาคม 2024 (10)
- พฤศจิกายน 2024 (8)
- ตุลาคม 2024 (9)
- กันยายน 2024 (9)
- สิงหาคม 2024 (15)
- กรกฎาคม 2024 (2)
- มิถุนายน 2024 (46)
Subscribe by email

พบกับ Mantle (MNT) สะพานเชื่อมการเงินดั้งเดิมเข้ากับยุคใหม่บน Ethereum

พบกับ Monad (MON) สาย DeFi ที่มุ่งปิดข้อจำกัดการขยายตัวของ Ethereum

พบกับ MemeCore (M) บล็อกเชนเลเยอร์ 1 ตัวขับเคลื่อนยุค Meme 2.0

พบกับ Spark (SPK) ตัวจัดสรรเงินทุนบนเชน ผู้อยู่เบื้องหลัง DeFi, CeFi และ RWA

พบกับ Kite (KITE) โทเคนเพื่อ AI Agent อิสระ

พบกับ Morpho (MORPHO) DeFi ด้านการปล่อยกู้ที่ตอบโจทย์ทั้งฝ่ายให้กู้และฝ่ายกู้

พบกับ Ether.fi (ETHFI) ทางเลือกใหม่ของการสเตก ETH ที่ยังเอาไปใช้ต่อได้

พบกับ Plasma (XPL) บล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่เน้นการชำระเงินด้วย Stablecoin

สหรัฐฯ เตรียมยกระดับแผนส่งเสริมคริปโตต้นปี 2569

