สัปดาห์ที่ 30 กันยายน - 6 ตุลาคม 2568
Deutsche Bank ระบุว่า ค่าความผันผวนของ Bitcoin (BTC) ในรอบ 30 วันลดลงแตะระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ บ่งบอกถึงการยอมรับจากนักลงทุนสถาบัน ประเมินว่าภายในปี 2573 ธนาคารกลางอาจถือทั้งทองคำและ Bitcoin บนงบดุลได้พร้อมกัน โดยประเทศตลาดเกิดใหม่อาจได้ประโยชน์จากการใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองจากสภาวะเงินเฟ้อสูง
คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ของสหรัฐอเมริกาอนุญาตใช้สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) เป็นหลักประกันสัญญาในการซื้อขายฟิวเจอร์สและสัญญาสวอปได้โดยตรงผ่านความร่วมมือกับ Circle, Coinbase, Ripple และ Crypto.com จุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสและช่วยลดความเสี่ยงผิดนัดชำระของผู้ซื้อขาย พร้อมตอบรับการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบการเงินดิจิทัล
Ethereum ที่ถูกเก็บไว้บนกระดานซื้อขาย CEX ลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2559 หลังเกิดกระแสการสะสมครั้งใหญ่จากสถาบันการเงินและกองทุนระดับโลก ตั้งแต่กลางปี 2563 โดยตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียว Supply ของ ETH ลดลงกว่า 20%
Spot Ethereum ETF มีการไหลออกของเงินลงทุนมูลค่ารวมเกือบ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มทำการซื้อขายเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ขณะที่ Spot Bitcoin ETF ประสบกับการไหลออกในระดับสูงเช่นกัน โดยสูญเงินลงทุนไปรวมกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์เดียว
คาซัคสถานเปิดตัวโครงการนำร่อง Stablecoin ในชื่อ Evo (KZTE) อิงกับสกุลเงินประจำชาติ Tenge ภายใต้โครงการ Sandbox ของธนาคารกลาง ร่วมกับ Solana และ Mastercard จุดมุ่งหมายสร้างสะพานเชื่อมระหว่างตลาดคริปโทเคอร์เรนซีกับภาคการเงินแบบดั้งเดิม
Bitcoin (BTC) ฟื้นตัวขึ้นแรงหลังปรับฐานมาต่อเนื่อง หากสามารถผ่านแนวต้านที่ 108,600 ดอลลาร์สหรัฐไปได้ แนวโน้มจะกลับสู่ทิศทางที่จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม แต่หากยังไม่ผ่าน แนวโน้มจะยังคงเคลื่อนไหว Sideway ต่อ โดยยังต้องจับตาที่แนวรับ 108,600 ดอลลาร์สหรัฐ
Ethereum (ETH) ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด 3,800 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้ระดับดังกล่าวเป็นแนวรับ หากหลุดจากระดับนี้ แนวโน้มจะปรับตัวลงต่อ ระยะสั้นราคาเตรียมทดสอบแนวต้านที่ 4,700 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้ จะกลับขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง
Synthetix (SNX) ทำผลตอบแทน 69.49% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคามีการผ่านแนวต้านสำคัญที่ 0.960 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้แนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่ ราคาดังกล่าวจะทำหน้าที่แนวรับสำคัญต่อไป หาจังหวะเข้าซื้อหากราคาไม่ต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว เป้าหมายแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1.280 ดอลลาร์สหรัฐ
Stargate Finance (STG) ทำผลตอบแทน 18.93% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคากำลังกลับตัวเป็นขาขึ้น ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อแบบ Buy On Dip ที่โซนราคา 0.1812 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากหลุดจากระดับนี้ ให้ตัดขาดทุนไปก่อน และขายทำกำไรที่แนวต้าน 0.2100 ดอลลาร์สหรัฐ
ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) ขึ้นพูดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมีเนื้อหาว่า พอใจกับการควบคุมดูแลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในตอนนี้แล้ว ตลาดตีความว่าอาจจะไม่มีการลดดอกเบี้ยต่ออีก 2 ครั้งในปีนี้ ประกอบกับตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ออกมาเติบโตกว่าคาดทำให้ตลาดคริปโตปรับฐานลงก่อนจะได้ผลบวกจากตัวเลข PCE ที่เพิ่มขึ้นไม่มากทำให้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
จับตาวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568 นี้ จะมีการประกาศตัวเลขอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) ตลาดคาดออกมาที่ 51,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจาก 22,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว หากตัวเลขออกมาน้อยกว่าคาดจะส่งผลบวกต่อตลาด เพราะจะทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) กังวลการจ้างงานจนต้องลดดอกเบี้ย
ในเดือนกันยายน Bitcoin (BTC) ยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกประมาณ 1% ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทุกปีที่มักจะติดลบ แต่เมื่อเข้าเดือนตุลาคมมักจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกปีต่อเนื่องจนถึงเดือนพฤศจิกายน
คาดว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะสามารถพ้นจากการ Shut Down ได้ ผลกระทบต่อคริปโตมีจำกัด กลยุทธ์การลงทุนเข้าสะสม Bitcoin, Ethereum (ETH) และเหรียญทางเลือก (Altcoin) ที่มีศักยภาพเพื่อรอการฟื้นตัวของตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยปัจจัยที่ต้องจับตาคือการอนุมัติ ETF ของ Altcoin รวมถึงการจัดตั้ง Bitcoin Strategic Reserve
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
Learn more on Bitazza Thailand Blog