Bitazza Thailand Blog

มูลค่าตลาดรวม Stablecoin ทะลุ 300,000 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก

เขียนโดย Bitazza Team - 8 ต.ค. 2025, 12:16:20

 

สัปดาห์ที่ 7 - 13 ตุลาคม 2568

มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ทะลุ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 46.8% ตั้งแต่ต้นปี ส่งสัญญาณว่ามีเม็ดเงินไหลเข้าในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้น โดยแรงผลักดันมาจากการที่สถาบันการเงินเริ่มมีการใช้งาน Stablecoin มากขึ้น

JPMorgan คาดการณ์ราคา Bitcoin อาจปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 165,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2568 อ้างอิงจากการเปรียบเทียบกับทองคำ ราคาของ Bitcoin ยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง รวมถึงความผันผวนของ Bitcoin ที่ลดลงจากการเข้ามาของนักลงทุนสถาบัน

Citigroup ปรับเพิ่มมุมมองคาดการณ์ราคา Ethereum (ETH) สิ้นปีนี้มาที่ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยหนุนจากนักลงทุนสถาบันเข้าซื้อต่อเนื่องตลอดจนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นแห่ลงทุน ส่วนเป้าหมายราคา Bitcoin ถูกปรับลดลงเหลือ 133,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังมองเป้าหมายในอีก 12 เดือนข้างหน้าที่ 181,000 ดอลลาร์สหรัฐ

Morgan Stanley แนะนำจัดพอร์ตลงทุนในคริปโตไม่เกิน 4% สำหรับนักลงทุนที่เน้นความสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง และลงทุน 2% สำหรับพอร์ตที่เน้นรักษาเงินต้น ปัจจุบัน Morgan Stanley มีที่ปรึกษาทางการเงิน 16,000 รายทั่วโลก ดูแลสินทรัพย์รวมกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

GMCI Memecoin Index แสดงข้อมูลดัชนีของกลุ่มเหรียญมีม (Memecoin) แทบไม่มีความเคลื่อนไหวและปรับตัวลงจาก 220 จุด จากจุดสูงสุด 600 จุด ในปีที่แล้ว บ่งบอกว่านักลงทุนรายย่อยเริ่มหันมามองหาโปรเจกต์ที่สามารถสร้างรายได้จริงอย่างเช่น Stablecoin, DeFi หรือ RWA 

ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกามีกำหนดตัดสินอนุมัติ ETF ของคริปโตจำนวน 16 รายการที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ นำโดย Solana (SOL), XRP และ Litecoin (LTC) อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์แสดงความกังวลว่าการที่รัฐบาล Shut Down อาจทำให้การตัดสินล่าช้าออกไป

 

 

วิเคราะห์กราฟเทคนิค

 

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) สามารถสร้างจุดสูงใหม่ได้สำเร็จ แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง เป้าหมายหลังจากนี้อยู่ที่แนวต้าน 135,000 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคาปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องอาจจะมีจุดที่ราคาพักตัว ประเมินแนวรับอยู่ที่ 121,000 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดซื้อได้

  • แนวรับ: 3,900,000 บาท / 121,000 USD
  • แนวต้าน: 4,200,000 บาท / 135,000 USD

 

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) ปรับตัวขึ้นตาม BTC โดยมีเป้าหมายที่แนวต้าน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิม หากผ่านไปได้ จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ 5,800 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวโดยมีแนวรับที่ 4,400 ดอลลาร์สหรัฐ โมเมนตัมยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง

  • แนวรับ: 142,500 บาท / 4,400 USD
  • แนวต้าน: 160,000 บาท / 5,000 USD



 

Coin98 (C98)

Coin98 (C98) ทำผลตอบแทน 35.42% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นแรงและมีการย่อตัวลง จับตาแนวรับที่ 0.0585 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดซื้อได้ แต่หากหลุดระดับดังกล่าวต้องตัดขาดทุนไปก่อน ส่วนเป้าหมายแนวต้านอยู่ที่ 0.0753 ดอลลาร์สหรัฐ ผ่านจุดนี้ไปได้แนวโน้มจะกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่

  • แนวรับ: 1.90 บาท / 0.0585 USD
  • แนวต้าน: 2.40  บาท / 0.0753 USD

 

 

Aptos (APT)

Aptos (APT) ทำผลตอบแทน 30.06% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่ หาจังวะซื้อที่แนวรับ 5.142 ดอลลาร์สหรัฐ และขายทำกำไระยะสั้นที่แนวต้าน 5.689 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านแนวราคาดังกล่าวไปได้ แนวโน้มจะกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่

  • แนวรับ: 162 บาท / 5.142 USD
  • แนวต้าน: 192 บาท / 5.689 USD

 

จับกระแสการลงทุน

ราคา Bitcoin (BTC) สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้สำเร็จจากการที่นักลงทุนหันมาลงทุนพร้อมกับทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการที่สหรัฐอเมริกาเกิดการ Shut Down และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะกลับมาดำเนินการตามปกติได้เมื่อไร 
 
ผลกระทบจากการ Shut Down อาจกระทบต่อการจ้างงานจนทำให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีความชัดเจนเรื่องการกลับมาเปิดดำเนินงานหน่วยราชการอีกครั้งอาจจะมีการ Sell On Fact เกิดขึ้น
 
เหตุการณ์สำคัญที่ต้องจับตาจะเกิดขึ้นในวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2568 นี้ จะมีการเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินและวันพฤหัสที่ 9 ตุลาคม ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) มีกำหนดขึ้นพูดนโยบายเศรษฐกิจ อาจจะมีการพูดถึงแนวทางนโยบายการเงินในอนาคต รวมถึงในวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม จะประกาศตัวเลขอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) คาดออกมา 52,000 ตำแหน่ง จากเดือนที่แล้ว 22,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม หากการ Shut Down ยังดำเนินอยู่อาจมีโอกาสที่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจะต้องเลื่อนออกไปอีก
 
แม้ราคา Bitcoin จะสร้างจุดสูงสุดใหม่แต่ Bitcoin Dominance ยังขยับขึ้นไม่มากและดัชนี Total3 ยังมีการปรับตัวขึ้น บ่งบอกว่ามีเหรียญทางเลือก (Altcoin) บางเหรียญที่ยังสร้างผลตอบแทนได้ดีแต่ต้องอาศัยการคัดเลือกที่มากขึ้น ขณะที่ Ethereum (ETH) ได้ปัจจัยบวกจากการที่ Grayscale เริ่มให้บริการการสเตกได้ จึงมีโอกาสกลับไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ 

กลยุทธ์การลงทุนเน้นไปที่ Ethereum และ Altcoin ที่มีโอกาสจะได้รับอนุมัติ ETF 

แหล่งอ้างอิง

 

 

คำเตือน

  • คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

อ่านบทความเพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog