สัปดาห์ที่ 8-14 ตุลาคม 2567
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องเร่งรีบในการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วแม้ว่าในการประชุมครั้งล่าสุดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในครั้งเดียวและมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ล่าสุด Fed มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้รวมทั้งหมดเป็นการปรับลดลงที่ 0.50%
Ki Young Ju ผู้ก่อตั้ง CryptoQuant เปิดเผยว่า อัตรากำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของ Bitcoin (BTC)สำหรับนักลงทุนระดับวาฬที่ถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นเวลา 5 เดือนหรือน้อยกว่านั้นอยู่ที่ 1% เท่านั้น ซึ่งยังไม่จูงใจมากพอที่จะขายทำกำไร บ่งบอกว่าอาจยังไม่มีแรงเทขายหนักจากนักลงทุนกลุ่มนี้
Ethereum Foundation ได้ขายเหรียญ Ethereum (ETH) มูลค่ามากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ คิดเป็นจำนวนทั้งหมด 3,766 ETH โดย Ethereum Foundation วางแผนที่จะเปิดเผยรายงานทางการเงินในเร็ว ๆ นี้ท่ามกลางข้อสงสัยของคอมมูนิตี้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
Bitwise ยื่นเรื่องต่อ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาในการจดทะเบียน XRP ETF กองแรก โดยให้นิยามเหรียญ XRP ว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการเงินในยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม XRP ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการให้คำนิยามว่าเป็นหลักทรัพย์
ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกายื่นคำร้องอุทธรณ์ในคดี Ripple หลังจากที่ผู้พิพากษาได้ตัดสินในปีที่แล้วว่า การขาย XRP ของ Ripple ในตลาดรองไม่ถือเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ นำไปสู่การกดดันราคาเหรียญ XRP ปรับตัวลงแรงจากข่าวนี้
Grayscale Investments เปิดตัวกองทรัสต์สำหรับโทเคน AAVE ซึ่งเป็น DeFi Protocol ด้าน Lending ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ DeFi โดยมีมูลค่ารวมที่ล็อคไว้หรือ Total Value Locked (TVL) เกือบ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยโทเคน AAVE พุ่งกว่า 110% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
Bitcoin (BTC) ยังไม่ผ่านแนวต้านที่ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่การย่อลงมาและยืนได้ที่แนวรับ 62,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง หากสัปดาห์นี้ผ่านแนวต้านที่ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐได้ จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านแรกที่ 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมีเป้าหมายสำคัญที่ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Ethereum (ETH) แม้จะย่อตัวลงมาแต่ไม่มีการทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ 2,275 ดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวต่อ สัปดาห์นี้ยังคงต้องผ่านแนวต้านแรกที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อที่จะขึ้นทดสอบเป้าหมายหลักที่ระดับ 2,750 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งจะเป็นจุดกลับตัวสู่ขาขึ้นเต็มตัว
Apt (APT) ทำผลตอบแทน 13.94% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังฟื้นตัวสู่ขาขึ้น ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวโดยจับตาแนวรับแรกที่ 8 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้ายืนได้จะขึ้นไปทดสอบเป้าหมายแนวต้านที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากหลุดแนวรับให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน
Zentry (ZENT)
Zentry (ZENT) ทำผลตอบแทน 10.53% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง มีแนวรับสำคัญที่ระดับ 0.022 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้จุดดังกล่าวเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมา แต่ถ้ารับไม่อยู่ให้ตัดขาดทุนไปก่อน ส่วนแนวต้านเป้าหมายอยู่ที่ 0.028 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) และอัตราการว่างงานของสหรัฐอเมริกาประกาศออกมาอยู่ในระดับที่ไม่สร้างความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลบวกต่อ Bitcoin (BTC) อย่างไรก็ตาม ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มองว่าการลดดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งในการประชุมที่เหลือของปีนี้เหมาะสมกว่าการลดดอกเบี้ยลง 0.5% ประกอบกับข่าวสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอลทำให้ Bitcoin (BTC) ย่อตัวลงเล็กน้อย
สัปดาห์นี้ในวันพุธที่ 9 ตุลาคมจะมีการเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินและในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคมจะประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ Consumer Price Index (CPI) โดยคาดว่าจะออกมาที่ 2.3% ลดลงจากเดือนก่อนที่ 2.5%
แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะประกาศแนวทางการลดดอกเบี้ยแล้ว แต่ตัวเลข CPI ที่ออกมายังคงมีผลต่อตลาดอยู่ โดยหากเงินเฟ้อลดลงในระดับที่เหมาะสมจะช่วยหนุนตลาดหุ้นรวมถึงตลาดคริปโทเคอร์เรนซีให้เป็นไปในเชิงบวก
ยังมองว่า ดาวน์ไซด์ของ Bitcoin มีจำกัดการย่อลงมาเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ทางฝั่งเหรียญทางเลือก (Altcoin) ให้จับตาเหรียญที่มีการตั้งกองทรัสต์ โดย Grayscale มีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนในระดับสูงซึ่งมีตั้งแต่เหรียญในกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลุ่ม DeFi (Decentralized Finance) และกลุ่มบล็อกเชนเลเยอร์ 1 (Blockchain Layer 1)
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน