Bitazza Thailand Blog

บริษัทในตลาดหุ้นทั่วโลกอาจเข้าลงทุน Bitcoin กว่า 330,000 ล้านดอลลาร์

เขียนโดย Bitazza Team - 7 พ.ค. 2025, 12:06:42

 

สัปดาห์ที่ 6 - 12 พฤษภาคม 2568

Bernstein เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนทั่วโลกอาจจัดสรรเงินลงทุนกว่า 330,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้าเพื่อซื้อ Bitcoin (BTC) เป็นทุนสำรองของบริษัท โดยมีความเป็นไปได้ที่บริษัทใหญ่ 10 อันดับแรกของสหรัฐอเมริกาอาจจัดสรรเงินลงทุนรวมกันว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
    
André Dragosch หัวหน้าฝ่ายวิจัยแห่งยุโรปของ Bitwise คาดการณ์ว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ เข้าซื้อ Bitcoin จะทำให้ราคาปรับตัวขึ้นแรงได้ โดยมีราคาเป้าหมายตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐจนถึงระดับสูงสุดที่ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ และอาจขึ้นไปแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2572 หาก Bitcoin ได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินระดับโลกอย่างต่อเนื่อง
    
Michael Taylor ได้ประกาศว่า Strategy สามารถสร้างผลตอบแทนจาก Bitcoin ได้ 13.7% และมีกำไรแล้วกว่า 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกปีนี้ พร้อมประกาศเพิ่มแผนระดมทุนเพิ่มเติมผ่านหุ้นสามัญ 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผ่านตราสารหนี้ 42,000  ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่ม ปัจจุบัน Strategy ถือครอง Bitcoin แล้วกว่า 553,555 เหรียญ มูลค่าราว 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีต้นทุนเฉลี่ยต่อเหรียญอยู่ที่ 68,459 ดอลลาร์สหรัฐ
    
กองทุนความมั่งคั่งแห่งรัฐอาบูดาบี ADQ, ธนาคาร First Abu Dhabi Bank และบริษัท International Holding Company (IHC) ร่วมมือกันเพื่อเปิดตัวเหรียญสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ที่ผูกมูลค่ากับเงินดิแรห์มซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของประเทศ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อรองรับการใช้งานการทำธุรกรรมระหว่าง machine-to-machine และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
    
รัฐบาลปักกิ่งประกาศแผนพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนภายใต้ชื่อ “แผนปฏิบัติการนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้บล็อกเชนของปักกิ่ง” ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่ปี 2568 นี้ต่อเนื่องถึงปี 2570 วางเป้าหมายใช้งานจริงในหลากหลายอุตสาหกรรมอย่างเช่น การแพทย์และสุขภาพ การศึกษา บริการทางการเงิน การคมนาคม ตลอดจนปัญญาประดิษฐ์
    
สหภาพยุโรปเตรียมบังคับใช้กฎหมายป้องกันการฟอกเงินฉบับใหม่ในปี 2570 โดยจะห้ามให้ธนาคาร สถาบันการเงินและผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการเหรียญประเภท Privacy Coin อย่าง Monero (XMR) หรือ Zcash (ZEC) เพื่อป้องกันการใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน


วิเคราะห์กราฟเทคนิค

 

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) ย่อตัวลงเล็กน้อยแต่แนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวที่แนวรับ 93,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 98,000 ดอลลาร์สหรัฐ ยังคงเป้าหมายที่การกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้

  • แนวรับ: 3,000,000 บาท / 93,000 USD
  • แนวต้าน: 3,300,000 บาท / 98,000 USD

 

 

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) เคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางในกรอบแคบหลังจากที่สามารถเบรคเส้นเทรนด์ไลน์ขากดออกมาได้ ยังต้องจับตาที่แนวรับ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นจุดเข้าซื้อและจุดตัดขาดทุน ขณะที่เป้าหมายแนวต้านอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากยังไม่สามารถผ่านจุดนี้ได้ แนวโน้มยังคงเคลื่อนไหวออกข้างต่อ

  • แนวรับ: 48,000 บาท / 1,500 USD
  • แนวต้าน: 72,000 บาท / 2,000 USD

 

 

Balancer (BAL)

Balancer (BAL) ทำผลตอบแทน 5.11% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังพยายามกลับตัวเป็นขาขึ้น การย่อตัวลงมาหากไม่หลุดแนวรับ 0.7450 ดอลลาร์สหรัฐยังคงสามารถฟื้นตัวต่อได้ ส่วนเป้าหมายแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1.4463 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านได้ถึงมองการฟื้นตัวต่อเนื่อง

  • แนวรับ: 24 บาท / 0.7450 USD
  • แนวต้าน: 48 บาท / 1.4463 USD

 

Convex Finance (CVX)

Convex Finance (CVX) ทำผลตอบแทน 4.67% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลยุทธ์เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว โดยมีแนวรับที่ 3.08 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากระดับนี้ให้ตัดขาดทุนไปก่อน ส่วนเป้าหมายแนวต้านอยู่ที่ 3.95 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดขายทำกำไรได้

  • แนวรับ: 70 บาท / 3.08 USD
  • แนวต้าน: 110 บาท / 3.95 USD

 

จับกระแสการลงทุน

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอเมริกาสัปดาห์ที่ผ่านมามีความย้อนแย้งในตัวเอง โดยตัวเลข GDP ไตรมาสแรกออกมาเติบโต -0.3% ต่ำกว่าที่คาดค่อนข้างมาก แต่ตัวเลขอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเคลื่อนไหวออกข้างเป็นหลัก
    
ขณะที่ปัจจัยลบทั้งการเลื่อนพิจารณา ETF ของเหรียญต่าง ๆ ออกไป รวมถึงผู้ว่าการรัฐแอริโซนาไม่อนุมัติจัดตั้งกองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของ Bitcoin ยังไม่ทำให้ตลาดปรับตัวลงมากนัก บ่งบอกถึงการฟื้นตัวที่เข้มแข็งโดยคาดหวังถึงการกลับไปสร้างจุดสูงสุดเดิมได้
    
สัปดาห์นี้มีเหตุการณ์สำคัญอยู่ที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันพุธที่ 7 พฤษภาคม คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% ตามที่ตลาดคาด แต่ต้องจับตาการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ถึงแนวโน้มประชุมครั้งถัดไปในเดือนมิถุนายนนี้ที่อาจส่งสัญญาณถึงการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาด
    
กลยุทธ์การลงทุนสามารถซื้อขาย Bitcoin (BTC) เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นได้ตามแนวรับ ยังมองโอกาสกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ และทยอยสะสมเหรียญทางเลือก (Altcoin) ที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ที่คาดหวังว่าจะฟื้นตัวได้ตาม Bitcoin 

 

แหล่งอ้างอิง

 

คำเตือน

  • คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

เรียนรู้เพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog