สัปดาห์ที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2568
Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ระบุว่า ธนาคารสามารถให้บริการลูกค้าคริปโทเคอร์เรนซีได้อย่างสมบูรณ์หากสามารถบริหารความเสี่ยงได้ โดยกล่าวว่า เขาไม่ได้ต่อต้านนวัตกรรมเพียงแค่กฎระเบียบต่าง ๆ ต้องชัดเจน
Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป แสดงความคิดเห็นว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสาธารณรัฐเช็กจะนำ Bitcoin มาเป็นทุนสำรองตามที่ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ โดยมองว่า ทุนสำรองของธนาคารกลางควรต้องมีสภาพคล่อง ปลอดภัยและมั่นคง
ประเทศเอลซัลวาดอร์เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 2 BTC เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากปกติเข้าซื้อวันละ 1 BTC รวมแล้วถือครอง 6,055 BTC มูลค่ากว่า 612 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนหน้านี้ยังได้ยกเลิกกฎหมายที่บังคับให้ธุรกิจต้องรับชำระเงินด้วย BTC เพื่อแลกกับการขอเงินกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
MicroStrategy วางแผนเสนอขายหุ้นกู้แบบ Perpetual Strike Preferred Stock จำนวน 2.5 ล้านหน่วย โดยจ่ายปันผลในอัตราคงที่รายไตรมาสและผู้ถือหุ้นสามารถเลือกแปลงเป็นหุ้นสามัญของบริษัทได้ โดยจะนำรายได้สุทธิจากการเสนอขายหุ้นส่วนหนึ่งเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม
Tesla รายงานกำไร 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการถือครอง Bitcoin ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 รวมถึงประเมินมูลค่า Bitcoin ที่ถืออยู่ทั้งหมดที่กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 184 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากกฎเกณฑ์ใหม่ด้านบัญชีที่อนุญาตให้บริษัทสามารถบันทึกกำไรจากการถือ Bitcoin ลงในงบการเงินได้
Bitcoin (BTC) ปรับตัวลงแรงช่วงสุดสัปดาห์ จับตาแนวรับสำคัญที่ 89,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากระดับนี้ แนวโน้มอาจเปลี่ยนจากเคลื่อนที่ออกข้างเป็นขาลง ในระยะสั้นให้ชะลอลงทุนไปก่อน หากสามารถยืนได้และราคาฟื้นตัวผ่านแนวต้านที่ 106,000 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง
Ethereum (ETH) ปรับตัวลงแรง แนวโน้มระยะสั้นและระยะกลางเปลี่ยนเป็นขาลง จับตาแนวรับสำคัญที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากระดับนี้ โอกาสที่จะฟื้นตัวกลับเป็นไปได้ยาก หากสามารถทำได้ เป้าหมายแนวต้านจะอยู่ที่ 2,745 ดอลลาร์สหรัฐ ผ่านได้จึงจะสามารถกลับไปจุดสูงสุดเดิม
Stella (ALPHA) ทำผลตอบแทน 33.88% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แนวโน้มหลักยังเป็นขาลง จับตาแนวรับที่ 0.0335 ดอลลาร์สหรัฐที่เป็นจุดต่ำสุดเดิม หากหลุดระดับดังกล่าว อาจไม่มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้อีก หากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ จะมีเป้าหมายแนวต้านระยะสั้นที่ 0.0563 ดอลลาร์สหรัฐ
Lido DAO (LIDO) ทำผลตอบแทน 1.65% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มเคลื่อนไหวแบบออกข้าง โดยมีแนวรับที่ระดับราคา 1.40 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากระดับนี้จะเปลี่ยนเป็นขาลง เป้าแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1.945 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้มีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น
ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ออกมาคงดอกเบี้ยตามคาด แต่ถ้อยแถลงของประธานฯ ระบุว่า หากตัวเลขเศรษฐกิจที่ได้รับการเปิดเผยหลังจากนี้ไม่สร้างความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ อาจพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม 2568 นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิถุนายน
ราคา Bitcoin (BTC) ปรับตัวลงแรงหลังจาก Donald Trump สั่งเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจาก 3 ประเทศ ได้แก่ จีน แคานาดาและเม็กซิโก ทำให้เกิดความกังวลว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น ผลักดันให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น กดดันสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโทเคอร์เรนซีรวมถึงตลาดหุ้น
ตลาดให้ความสำคัญกับปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อ Bitcoin มากกว่านโยบายสนับสนุน Bitcoin และคริปโทเคอร์เรนซีที่แม้จะมีการประกาศออกมาจาก Donald Trump แต่ยังไม่เห็นการนำมาใ้ช้จริง ทำให้ในระยะสั้นตลาดยังคงมีความผันผวน แต่ในระยะกลางขึ้นไป แนวโน้มยังเป็นเชิงบวกหากนโยบายเริ่มปรับใช้จริง
ในวันศุกร์ 7 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีการประกาศตัวเลขตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) คาดว่าจะอยู่ที่ 154,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนที่ 256,000 ตำแหน่ง รวมถึงอัตราการว่างงาน คาดว่าอยู่ที่ 4.1% เท่ากับเดือนที่แล้ว หากตัวเลขเติบโตลดลง อาจทำให้ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคส่งผลบวกกับ Bitcoin อีกครั้ง จากโอกาสที่ FOMC จะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า
กลยุทธ์การลงทุนให้เน้นที่ Bitcoin เป็นหลัก ในภาพรวม เหรียญทางเลือก (Altcoin) ยังอ่อนแอกว่าตลาด รอจนตลาดผันผวนลดลง จึงมองโอกาสทยอยสะสมได้อีกครั้ง
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน