Donald Trump กล่าวในงาน Bitcoin 2024 Conference ว่า มีความตั้งใจที่จะผลักดันให้สหรัฐฯ ขึ้นเป็นเมืองหลวงของอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี รวมถึงจะสร้างคลังสำรองสำหรับ Bitcoin และตั้งใจจะไม่ขาย Bitcoin ที่ถือครองอยู่ทั้งหมด เขาเชื่อว่า จะเป็นตัวเต็งในศึกการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อกลุ่มคนรักคริปโทเคอร์เรนซีและ Bitcoin
วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ Cynthia Lummis ประกาศในงาน Bitcoin 2024 Conference เช่นกันว่า จะเสนอร่างกฎหมายให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าซื้อ 1 ล้าน Bitcoin คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของปริมาณที่มีอยู่ทั้งหมด และจะถือครองไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 20 ปี คาดว่า หากร่างกฎหมายนี้ผ่าน จะใช้เวลา 5 ปีในการดำเนินการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ของรัฐบาล
ที่ปรึกษาของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Kamala Harris ได้ติดต่อบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีชั้นนำในสหรัฐฯ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณถึงนโยบายที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศ โดยบริษัทฯ ที่ได้รับการติดต่อไป เช่น Coinbase ธุรกิจตลาดรองซื้อขาย Circle ออกสเตเบิลคอยน์ และ Ripple Labs การชำระเงินผ่านบล็อกเชน
The State of Michigan Retirement System รายงานต่อก.ล.ต. สหรัฐฯ ว่า ได้ลงทุนใน ARK 21Shares Bitcoin ETF (ARKB) จำนวน 110,000 หุ้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน โดยมิชิแกนเป็นรัฐที่ 3 ในสหรัฐอเมริกา ที่จัดสรรสินทรัพย์ของกองทุนบำเหน็จบำนาญไปลงทุนใน Spot Bitcoin ETF ก่อนหน้านี้มีรัฐวิสคอนซินและเมืองเจอร์ซีย์ซิตี้
VanEck คาดว่าราคา Bitcoin จะพุ่งแรงแตะ 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีมาร์เก็ตแคป 61 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2593 จากการใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ รวมถึงใช้เพื่อชำระเงินทางการค้า โดยคาดว่า บางธนาคารกลางจะถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ในสัดส่วน 2.5% และใช้เพื่อชำระการค้าระหว่างประเทศสัดส่วน 10%
ก.ล.ต.สหรัฐฯ อนุมัติ Spot Bitcoin ETF ใหม่ของ Grayscale ที่ชื่อว่า Grayscale Bitcoin Mini Trust (BTC) ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมการจัดการ (management fee) ที่ 0.15% น้อยกว่าค่าธรรมเนียม Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ที่ออกมาก่อนหน้านี้ถึง 10 เท่า ซึ่งมีค่าธรรมเนียมต่อปี 1.5% ของมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM)
Blackrock เปิดเผยว่า นอกจาก Bitcoin และ Ethereum ลูกค้าให้ความสนใจในคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ ในระดับที่ต่ำและไม่คิดว่าจะมี spot ETF สำหรับคริปโทเคอร์เรนซีอื่นในเร็ว ๆ นี้ ตรงข้ามกับ Franklin Templeton ที่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ spot ETF ของคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ อย่าง Solana (SOL) โดยให้เหตุผลว่า มีการใช้งานที่แพร่หลายและมีเทคโนโลยีรองรับการทำธุรกรรมได้ในระดับสูง และก่อนหน้านี้ Franklin Templeton ก็ได้ออก Franklin Ethereum ETF (EZET) ลิสต์ในตลาดหุ้น CBOE BZX
Bitstamp ประกาศที่จะแจกจ่าย Bitcoin ให้กับเจ้าหนี้ของ Mt. Gox ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากได้รับการโอนทรัพย์สินจากทรัสตีของ Mt. Gox จำนวน 5,106 BTC
Bitcoin (BTC)
Bitcoin (BTC) มีความผันผวนสูงหลังขึ้นไปทดสอบระดับ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วมีแรงเทขายตามมา สัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะกลับไปทดสอบแนวต้านสำคัญ หากผ่านไปได้จะเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดขาขึ้น ประเมินแนวรับที่ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดเข้าซื้อได้ โดยเป้าหมายระยะกลางยังอยู่ที่จุดสูงสุดเดิม 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Ethereum (ETH)
Ethereum (ETH) ยังเผชิญแรงขายจากผู้ถือ Grayscale Ethereum Trust (ETHE) แต่ยังมีเม็ดเงินไหลเข้าใน Spot Ethereum ETF กองอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้แนวโน้มราคายังปรับตัวขึ้นไปได้ แนวรับในสัปดาห์นี้ไม่น่าต่ำกว่า 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ แนวต้านที่ 3,900 ดอลลาร์สหรัฐ ผ่านไปได้ แนวโน้มจะกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่
Book of Meme (BOME)
Book of Meme (BOME) ทำผลตอบแทน 20.29% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา กำลังที่จะทดสอบแนวต้านแรกที่ 0.0105 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้จะมีเป้าหมายแรกในการขายทำกำไรที่ 0.0125 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้ามีการย่อตัวลงต้องไม่หลุดระดับ 0.009737 ดอลลาร์สหรัฐ ถึงจะมีแนวโน้มขึ้นต่อ
1000Sats (SATS)
1000Sats (SATS) ทำผลตอบแทน 17.67% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังฟื้นตัวเป็นขาขึ้น กลยุทธ์ที่ใช้เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวไม่ต่ำกว่าระดับ 0.0002485 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้ายืนอยู่ได้รอขายทำกำไรที่แนวต้านแรกที่ 0.000377 ดอลลาร์สหรัฐ
การแถลงนโยบายส่งเสริมคริปโทเคอร์เรนซีของ Donald Trump และนักการเมืองคนอื่น ๆ ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดและน่าจะเป็นปัจจัยบวกระยะยาว เพราะแม้แต่ Kamala Harris จากพรรค Democrat ที่มีภาพลักษณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้แสดงจุดยืนส่งเสริมคริปโทเคอร์เรนซี ยังต้องทบทวนนโยบายใหม่ แม้ว่านโยบายของ Trump จะดูมีผลกระทบต่อตลาดรวมมากกว่า แต่เมื่อ Harris หันมาทางฝั่งส่งเสริมด้วย สะท้อนว่า การเมืองสหรัฐฯ หลังจากนี้จะออกหัวหรือก้อยก็จะส่งผลบวกต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
สัปดาห์นี้ยังมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 31 กรกฎาคม คาดว่า จะคงดอกเบี้ยตามคาด แต่จับตาฟังถ้อยแถลงหลังจากนั้น อาจมีการส่งสัญญาณถึงการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในเชิงบวก
การซื้อขาย Spot Ethereum ETF ในสัปดาห์แรกเป็นไปตามคาดคือ ยังมีแรงเทขายออกมาจาก Grayscale Ethereum Trust (ETHE) ซึ่งถือครองกว่า 3 ล้าน ETH อย่างไรก็ตามเมื่อ Grayscale ได้ออก Grayscale Bitcoin Mini Trust (BTC) ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำออกมา และเปิดให้สามารถโอนย้ายกองได้ น่าจะทำให้แรงเทขาย Ethereum ไม่มากนัก และยังมีแรงซื้อจากกองทุนอื่น ๆ ที่เป็นบวกมาช่วยสนับสนุน
เป็นไปได้ว่า สัปดาห์นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่จะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดยสัญญาณจะมาจาก Bitcoin สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 74,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปได้ จากปัจจัยบวกทั้งนโยบายหนุนคริปโทเคอร์เรนซีจากการเมืองสหรัฐฯ และแนวโน้มนโยบายการเงินผ่อนคลาย
กลยุทธ์การลงทุนเน้นทะยอยสะสม Bitcoin และ Ethereum ที่จะมีราคาเคลื่อนไหวโดดเด่นกว่าตลาดรวม (outperform) ในช่วงแรก จากนั้นค่อยมองหาเหรียญอื่น ๆ (altcoin) ที่จะมีโอกาสเติบโตสูง การย่อตัวลงของราคามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อตามแนวรับ
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน