Bitazza Thailand Blog

ประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ ประกาศลาออก ส่งผลบวกต่อ Altcoin

เขียนโดย Bitazza Team - 26 พ.ย. 2024, 11:49:50

 

สัปดาห์ที่ 26 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม 2567

Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา (SEC) ประกาศว่า จะลาออกจากตำแหน่งในวันที่  20 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Donals Trump จะเข้าพิธีสาบานตนเพื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสมัยที่ 2 

ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาตัดสินใจชะลอการพิจารณาว่าจะอนุมัติ Franklin Templeton Crypto Index ETF หรือไม่ออกไปเป็นต้นปี 2568 เพื่อใช้เวลาพิจารณากฎระเบียบต่าง ๆ มากขึ้น โดยดัชนีดังกล่าวจะเป็นตัวชี้วัดตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในภาพรวมมากกว่าแค่การเคลื่อนไหวของ Bitcoin (BTC)

กองทุน IBIT ของ BlackRock เปิดให้ซื้อขายตราสารอนุพันธ์ออปชันส์ (Options) ของ Bitcoin เป็นรายแรก โดย Nathan McCauley ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Anchorage Digital กล่าวว่า การเริ่มต้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตของ Spot Bitcoin ETF แต่ยังทำให้นักลงทุนสถาบันมีเครื่องมือในการลงทุนมากขึ้น

MicroStrategy เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 51,780 BTC ที่ราคาเฉลี่ย 88,627 ดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่ารวม 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการเข้าซื้อที่มีมูลค่าสูงสุดของบริษัท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 16% ของจำนวน Bitcoin ที่ถืออยู่ทั้งหมด 331,200 BTC

ข้อมูลจาก Arkham Intelligence เปิดเผยว่า มีการสร้างเหรียญ USDT มูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐบนเชน Ethereum และอีก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ​บนเชน Tron โดยนับตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2024 เป็นต้นมา Tether ได้สร้างเหรียญ USDT แล้วประมาณ 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

VanEck ออกบทวิเคราะห์ มองเป้าหมายราคา Bitcoin ในขาขึ้นรอบนี้ที่ 180,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดการณ์ว่ากฎหมาย FIT21 ของสหรัฐอเมริกาจะช่วยหนุนตลาดคริปโทเคอร์เรนซี นอกจากนี้ ยังคาดว่าร่างกฎหมาย Stablecoin จะช่วยให้ธนาคารในสหรัฐอเมริกาสามารถออกสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ของตัวเองได้



วิเคราะห์กราฟเทคนิค

 

 

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) ราคาขึ้นมาใกล้เคียงระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐและเริ่มที่จะอ่อนแรงลง ประกอบกับที่ดัชนี RSI เริ่มส่งสัญญาณ Bearish Divergence คาดราคากำลังพักตัวเพื่อสะสมและปรับตัวขึ้นใหม่ แต่ Upside ค่อนข้างจำกัด ระวังแรงขายที่ระดับเหนือ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ส่วนแนวรับสัปดาห์นี้อยู่ที่ 92,000 ดอลลาร์สหรัฐ

  • แนวรับ: 2,700,000 บาท / 92,000 USD
  • แนวต้าน: 3,600,000 บาท / 100,000 USD 

 

 

Ethereum (ETH)


Ethereum (ETH) เริ่มเคลื่อนตัว Sideway แนวรับที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐค่อนข้างแข็งพอที่จะรองรับแรงขายได้ มองแนวโน้มยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านแรกที่ระดับ 3,600 ดอลลาร์สหรัฐ หากราคาลงมาที่แนวรับ สามารถใช้เป็นโอกาสเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวได้

  • แนวรับ: 105,000 บาท / 3,000 USD
  • แนวต้าน: 125,000 บาท / 3,600 USD


 

Stellar (XLM)

Stellar (XLM) ทำผลตอบแทน 101.10% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง ระวังการเข้ารอบการพักตัว ประเมินแนวรับอยู่ที่ 0.42 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดซื้อได้ ส่วนแนวต้านอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมที่ 0.65 ดอลลาร์สหรัฐ หากยังไม่ผ่าน ราคาอาจยังพักตัวต่อ

  • แนวรับ: 15 บาท / 0.42 USD
  • แนวต้าน: 23 บาท / 0.65 USD

 

 

The Sandbox (SAND)

The Sandbox (SAND) ทำผลตอบแทน 53.44% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้นในระยะยาว ขณะที่ราคาอาจมีการพักตัวลง จับตาแนวรับที่ 0.60 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากระดับนี้ ให้ชะลอการลงทุนไปก่อน แต่หากสามารถรับอยู่จะมีแนวต้านเป้าหมายที่ระดับสูงสุดเดิมที่ 0.90 ดอลลาร์สหรัฐ

  • แนวรับ: 22 บาท / 0.60 USD
  • แนวต้าน: 32 บาท / 0.90 USD

 

จับกระแสการลงทุน

ราคา Bitcoin (BTC) ขึ้นมาแตะระดับใกล้เคียง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐและเริ่มนิ่ง ดัชนี Bitcoin Dominance เริ่มปรับตัวลงทำให้มีการเก็งกำไรเหรียญทางเลือก (Altcoin) ขึ้นมาทีละกลุ่ม เริ่มตั้งแต่ Ethereum (ETH) ตามด้วยกลุ่มบล็อกเชนเลเยอร์ 1 (Blockchain Layer 1) และล่าสุดเป็นกลุ่ม GameFi และ Metaverse ขณะที่กลุ่มเหรียญมีมเริ่มที่จะให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดโดยรวม (Underperform) 

ในสัปดาห์นี้ จับตาวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เพราะจะมีการเปิดเผยรายละเอียดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) รอบที่ผ่านมา ต้องจับตาความคิดเห็นของคณะกรรมการฯ ต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

ในวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2567 จะมีการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ GDP ไตรมาส 3 ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 2.8% หากตัวเลขแสดงการเติบโต อาจมีผลต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี เนื่องจากเริ่มมีความเสี่ยงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะชะลอการลดดอกเบี้ยลง ล่าสุด FED Watch Tool แสดงโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งหน้าอยู่ที่ 52.7% ถือเป็นอัตราที่ลดลง ส่วนโอกาสที่จะคงดอกเบี้ยอยู่ที่ 47.3%

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน สามารถเริ่มเข้ามาเก็งกำไรใน Altcoin ได้จากกระแสเชิงบวกจากการลาออกของประธาน ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา (SEC) ซึ่งส่งผลดีต่อ Altcoin ประกอบกับราคา Bitcoin ที่นิ่งเริ่มมี Upside ที่จำกัดแต่ยังมีแรงซื้อผ่าน ETF เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยสลับกลุ่มซื้อขายจากเหรียญมีมมายังกลุ่ม Blockchain Layer 1 และ Layer 2 รวมถึงกลุ่ม GameFi เช่นเดียวกับเหรียญที่มีคดีความกับ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาอย่าง Ripple (XRP) 

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่ Bitcoin จะปรับฐานลงได้เช่นกันจากดัชนี RSI ที่เริ่มแสดงให้เห็น Bearish Divergence ควรสำรองเงินในพอร์ตไว้ 50% เพื่อเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลง


แหล่งอ้างอิง


คำเตือน


  • คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน