สัปดาห์ที่ 23 - 29 กันยายน 2568
AnchorX บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) AxCNH ที่ผูกกับเงินหยวน โดยได้รับการสนับสนุนจากการปรับนโยบายของจีนที่เปิดรับ Stablecoin สำหรับตลาดระหว่างประเทศ โดยจะเข้ามาใช้งานในโครงการ Belt and Road Initiative ขณะที่ BDACS บริษัทโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัลประกาศเปิดตัว KRW1 ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ผูกกับเงินวอนเกาหลี
MetaMask เปิดตัว mUSD Stablecoin อย่างเป็นทางการผู้ใช้สามารถนำไปใช้จ่ายได้ผ่านแพลตฟอร์ม Stripe รวมถึงการโอนเหรียญและแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญอื่น ๆ ได้ โดยมีแผนที่จะเปิดใช้งาน mUSD ผ่าน MetaMask Card ในร้านค้าที่รับ Mastercard ได้ภายในสิ้นปีนี้
PayPal เปิดบริการให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) รวมถึง PayPal USD (PYUSD) และเหรียญอื่น ๆ ผ่านฟีเจอร์ P2P ได้โดยตรงผ่านฟีเจอร์ใหม่ PayPal Links ซึ่งจะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก ก่อนขยายไปสหราชอาณาจักร อิตาลี และประเทศอื่น ๆ ภายในปีนี้
ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกาเตรียมปรับปรุงเกณฑ์การอนุมัติ ETF คริปโตให้กระบวนการอนุมัติเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความเป็นระบบมากขึ้น คาดว่ามีผลบังคับใช้เร็วที่สุดในเดือนตุลาคมนี้ แต่ผู้จัดการกองทุน Bitwise เตือนว่า การมีกองทุนใหม่จำนวนมาก ไม่ได้หมายความว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าเสมอไป
Standard Chartered เผยรายงานล่าสุดระบุว่า Ethereum มีโอกาสจะได้ประโยชน์จากการเติบโตของบริษัทที่ลงทุนในคริปโตหรือ Digital Asset Treasury (DAT) มากกว่า Bitcoin และ Solana (SOL) เพราะสามารถสร้างรายได้จากการสเตกและกองทุนสำรองของ Ethereum ยังมีความมั่นคงและเป็นที่ยอมรับมากกว่า
บริษัทวิจัย K33 ระบุว่า 1 ใน 4 ของบริษัทมหาชนที่ถือ Bitcoin อยู่ในงบดุลมีมูลค่าตลาดต่ำกว่ามูลค่าของ Bitcoin ที่ถืออยู่จริง จะทำให้การออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุนซื้อ Bitcoin ยิ่งทำให้ผู้ถือหุ้นเสียเปรียบเพราะเป็นการขายหุ้นถูกกว่ามูลค่าจริง เพื่อเอาเงินไปซื้อ Bitcoin ซึ่งถือว่ามีผล Dilution ต่อผู้ถือหุ้นเดิม
Bitcoin (BTC) ปรับตัวลงแรง แนวโน้มระยะสั้นเป็นขาลง จับตาแนวรับ 107,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากระดับนี้ แนวโน้มขาขึ้นในภาพใหญ่จะกลายเป็นเคลื่อนไหวออกข้าง หากสามารถยืนเหนือราคานี้ได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ เป้าหมายแนวต้านแรกอยู่ที่ 118,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากยังไม่ผ่านอาจจะเคลื่อนไหวออกข้างอีกสักระยะ
Ethereum (ETH) ปรับตัวลงแรงหลุดแนวรับทำให้แนวโน้มระยะสั้นเคลื่อนไหวออกข้าง สามารถหาจังหวะซื้อได้ที่แนวรับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตัดขาดทุนหากแนวรับนี้รับไว้ไม่อยู่ เป้าหมายแนวต้านแรกอยู่ที่ 4,700 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้ จะกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม
Immutable (IMX) ทำผลตอบแทน 25.51% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวลงมาที่แนวรับ 0.600 ดอลลาร์สหรัฐ ที่เคยเป็นแนวต้านมาก่อน หาจังหวะเข้าซื้อได้ที่โซนราคาดังกล่าว จุดขายทำกำไรแรกอยู่ที่แนวต้าน 0.800 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้ จะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อ
PancakeSwap (CAKE) ทำผลตอบแทน 19.47% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคากำลังกลับตัวเป็นขาขึ้น หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวที่แนวรับ 2.40 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากรับไม่อยู่ให้ตัดขาดทุนไปก่อน เป้าหมายขายแนวต้านแรกที่ 3.10 ดอลลาร์สหรัฐ
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ลดดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% ตามคาดและส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีตอบรับเชิงบวกในระยะสั้นก่อนจะเริ่มมีแรงเทขายตามมา
มองการปรับฐานครั้งนี้ Downside จำกัดจากกระแสข่าวลือเรื่องแพลตฟอร์มซื้อขายแห่งหนึ่งถูกโจรกรรมสินทรัพย์ หาจังหวะในการเข้าซื้อได้ตามแนวรับ
ปัจจัยที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ วันอังคารที่ 23 กันยายน 2568 ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกามีกำหนดขึ้นพูดถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ จับตาถ้อยแถลงการณ์ที่อาจมีผลต่อนโยบายการเงินในอนาคต
ตลาดยังคงสลับกลุ่มเล่น เม็ดเงินมีการไหลไปเก็งกำไรในกลุ่ม DEX ตามโปรเจกต์ Aster ที่กำลังมาแรง ขณะที่ตั้งแต่เข้าสู่เดือนกันยายน ผลตอบแทนของเหรียญในกลุ่ม AI ทำได้สูงที่สุดอันดับหนึ่งที่ค่าเฉลี่ย 30% ขณะที่เหรียญในกลุ่ม RWA มีแรงเทขายออกมา
กลยุทธ์การลงทุน: เน้นขายทำกำไรระยะสั้นสำหรับเหรียญที่ถูกดันราคาขึ้นมาและสลับไปถือเหรียญที่มีการพักตัวลงมา แม้ตัวชี้วัดจะแสดงถึงการเข้า Altcoin Season แต่การปรับตัวขึ้นยังจำกัดเฉพาะกลุ่ม จึงต้องอาศัยการพิจารณาเลือกมากเป็นพิเศษ
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
อ่านบทความเพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog