Bitazza Thailand Blog

Bitwise คาด Bitcoin อาจทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 2569

เขียนโดย Bitazza Team - 24 ธ.ค. 2025, 6:47:42

 

สัปดาห์ที่ 23 - 29 ธันวาคม 2568

Bitwise Asset Management คาดว่า Bitcoin จะไม่เคลื่อนไหวตามวัฎจักร 4 ปี และกลับไปทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 2569 ได้อีกครั้ง โดยแรงซื้อฝั่งนักลงทุนสถาบันอย่าง Morgan Stanley, Wells Fargo และ Merrill Lynch จะเป็นแรงหนุนสำคัญรวมถึงสภาพแวดล้อมด้านนโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตมากขึ้น

คาดการณ์ว่าหาก MSCI ตัดบริษัทกลุ่ม Digital Asset Treasury ออกจากดัชนี อาจมีเงินไหลออกจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซีประมาณ 10-15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากทั้งหมด 39 บริษัท โดยบริษัท Strategy รายเดียวอาจมีเงินไหลออก 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดหุ้นและตลาดคริปโต

CryptoQuant มองตลาดคริปโตเข้าสู่สภาวะตลาดหมีหลังความต้องการซื้อ Bitcoin (BTC) ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2568 โดยมีโอกาสที่จะลงไปทดสอบแนวรับ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ และแย่ที่สุดอาจลงไปทดสอบ 56,000 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นระดับ Realized Price

JPMorgan คาดว่า มูลค่าตลาดสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) จะยังไม่แตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 เพราะ Stablecoin เติบโตตามตลาดคริปโตมากกว่าการใช้งานจากระบบการเงินดั้งเดิม โดยอาจจะไปแตะ 500,000-600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2571 จากปีนี้ที่โตจาก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Visa เปิดให้สถาบันการเงินในสหรัฐใช้เหรียญ USDC ทำธุรกรรมการเงินผ่านเชน Solana อย่างเช่น การชำระหนี้ (Settlement) ให้กับ Visa เริ่มต้นที่ธนาคาร Cross River Bank และ Lead Bank มีแผนขยายใช้งานวงกว้างในปี 2569

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ร่วมกันเสนอร่างกฎหมายฉบับร่างใหม่ ยกเว้นภาษีกำไรขาดทุนจากธุรกรรม Stablecoin ไม่เกิน 200 ดอลลาร์สหรัฐ หากเป็นเหรียญที่ออกโดยผู้ออกที่ได้รับอนุญาตจากกฎหมาย GENIUS Act และผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังเสนอให้ผู้เสียภาษีสามารถเลื่อนการรับรู้รายได้จากรางวัลที่ได้จากการสเตกหรือ Mining ออกไปได้นานสูงสุด 5 ปีแทนที่จะต้องถูกจัดเก็บภาษีทันทีเมื่อได้รับรายได้ดังกล่าว

วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติรับรอง Michael Selig ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับตลาดอนุพันธ์ (Commodity Futures Trading Commission หรือ CFTC) อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดี Donald Trump และมีประสบการณ์ตรงด้านกฎหมายคริปโตโดยเฉพาะ

 

 

วิเคราะห์กราฟเทคนิค

 

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) ยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทางหลังขาดปัจจัยบวกใหม่ แนวรับยังต้องจับตาที่ระดับ 84,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากรับไม่อยู่ อาจลงไปได้ถึงระดับ 70,000 ดอลลลาร์สหรัฐ แต่หากยืนได้ มองเป็นโอกาสเข้าซื้อเก็งกำไร หากสามารถผ่าน 90,500 ดอลลาร์สหรัฐไปได้ จะมีเป้าหมายแนวต้านสำคัญที่ 94,500 ดอลลาร์สหรัฐ

  • แนวรับ: 2,600,000 บาท / 84,000 USD
  • แนวต้าน: 3,000,000 บาท / 94,500 USD




 

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) ราคาแทบไม่มีการเคลื่อนไหวจากปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในช่วงปลายปี แนวรับยังต้องจับตาที่ราคา 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นจุดเข้าซื้อสะสมได้ แนวต้านแรกที่ต้องผ่านให้ได้ คือ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มจึงจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง

  • แนวรับ: 85,000 บาท / 2,700 USD
  • แนวต้าน: 108,000 บาท / 3,500 USD





 

Uniswap (UNI)

Uniswap (UNI) ทำผลตอบแทน 22.17% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นแรงก่อนจะมีการพักตัวลง แนวรับสำคัญยังอยู่จุดต่ำสุดเดิมที่ 4.80 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากตรงนี้ให้ตัดขาดทุนไปก่อน เป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 6.51 ดอลลาร์สหรัฐ ผ่านไปได้จึงจะกลับตัวเป็นขาขึ้น

  • แนวรับ: 155 บาท / 4.80 USD
  • แนวต้าน: 206 บาท / 6.51 USD

 

 

 

Chiliz (CHZ)

Chiliz (CHZ) ทำผลตอบแทน 19.59% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคามีความผันผวนสูงต้องใช้ความระมัดระวังในการซื้อขาย หาจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ 0.032 ดอลลาร์สหรัฐ หากสามารถยืนได้ จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่จุดสูงสุดเดิม 0.039 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้ขายทำกำไรระยะสั้น

  • แนวรับ: 1.50 บาท / 0.032 USD
  • แนวต้าน: 2.10 บาท / 0.039 USD



จับกระแสการลงทุน

ตัวเลข CPI ที่ประกาศออกมา 2.7% ถือว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ทำให้เกิดแรงคาดหวังเชิงบวกที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีหน้าจากที่คาดว่าจะลดเพียงแค่ครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงเทขาย Bitcoin เข้ามาก่อนที่จะเกิดแรงซื้อกลับหลังความเชื่อมั่นในหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ กลับมา ทำให้แนวโน้มยังคงเป็นการเคลื่อนไหว Sideway ต่อไป
    
สัปดาห์นี้มีการประกาศตัวเลขคาดการณ์ GDP ไตรมาส 3 คาดว่า จะออกมาเติบโต 3.8% หากออกมาต่ำกว่านี้ อาจเพิ่มโอกาสที่ FOMC จะลดดอกเบี้ยมากกว่าหนึ่งครั้งเช่นกัน
    
ผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับเพิ่มดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งอาจทำให้เกิดการยกเลิก Yen Carry Trade ยังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตมากนัก นักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับการตัดสินใจของ MSCI ว่าจะถอดชื่อหุ้น Strategy ออกจากดัชนีหรือไม่
    
ภาพรวมตลาดสิ้นปีที่ปริมาณการซื้อขายต่ำและขาดปัจจัยใหม่ ๆ ตลาดอาจจะเคลื่อนไหว Sideway ต่อจนกว่าจะถึงปีใหม่ แต่หากมีปัจจัยบวกเข้ามาในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และคลายกังวลจากภาวะฟองสบู่หุ้นกลุ่ม AI อาจทำให้เกิด Santa Clause Rally และส่งผลบวกต่อคริปโต ยังเน้นลงทุนสะสมเหรียญขนาดใหญ่ต่อ

 

แหล่งอ้างอิง

 

คำเตือน

  • คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน