Share this
Bitcoin พุ่งกลับ AUM ของ Stablecoin สร้างสถิติใหม่

สัปดาห์ที่ 22-28 เมษายน 2568
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปีนี้มีเม็ดเงินไหลเข้า Gold ETF กว่า 21,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ความสนใจใน Bitcoin (BTC) ลดลงจากการที่นักลงทุนลดการเปิดสถานะในตลาด Futures ส่วน Spot Bitcoin ETF เผชิญกระแสเงินไหลออกติดต่อกัน 3 เดือน บ่งบอกว่านักลงทุนส่วนใหญ่มองทองคำในฐานะ Safe Haven มากกว่า Bitcoin
CoinGecko เปิดเผยมูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีไตรมาสแรกหายไป 18.6% หรือราว 633,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังขึ้นไปทำจุดสูงสุดของปีนี้หลังจาก Donald Trump ขึ้นดำรงตำแหน่ง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายรายวันลดลง 27.3% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม Bitcoin ยังคงได้รับความสนใจโดยส่วนแบ่งตลาด Bitcoin Dominance ปิดไตรมาสแรกที่ระดับ 59.1% สูงที่สุดนับแต่ปี 2564
The Block เปิดเผยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 7 วันของตลาดราคาสปอตบนแพลตฟอร์มใหญ่หลายแห่งลดลงมาเหลือเพียงกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2567 ขณะที่ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ETF ลดลงมาอยู่ที่ 1,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำที่สุดนับวันที่ตั้งแต่ 25 มีนาคมปีนี้
Rick Wurster ซีอีโอของ Charles Schwab แพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นอันดับต้น ๆของโลกเปิดเผยว่า กำลังวางแผนเปิดให้บริการซื้อขาย Bitcoin บนตลาดราคาสปอต ภายในเดือนเมษายน 2569 การตัดสินใจนี้มาจากความสนใจของลูกค้าที่มากขึ้นและสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบกำลังเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
Bitwise Crypto Market Review เปิดเผยว่า มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารของสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.18 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.5% จากไตรมาส 4 ของปีที่แล้วและแซงหน้าการทำธุรกรรมของ Visa บริษัทชำระเงินอันดับหนึ่งไปได้เล็กน้อย
Santiment รายงานค่าธรรมเนียมธุรกรรมบนเชน Ethereum ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.168 ดอลลาร์สหรัฐต่อธุรกรรม สะท้อนไปยังการใช้งานเชน Ethereum ที่ลดลง ทำให้ราคาในตลาดของ Ethereum ปรับตัวลงในทางเดียวกัน
วิเคราะห์กราฟเทคนิค

Bitcoin (BTC)
Bitcoin (BTC) มีการเบรคขาลงออกมาแล้วสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มโอกาสที่จะกลับตัวเป็นขาขึ้น จับตาแนวต้านต่อไป หากสามารถผ่าน 88,500 ดอลลาร์สหรัฐ ไปได้จะขึ้นทดสอบระดับ 92,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากยังไม่ผ่านอาจลงมาทดสอบแนวรับที่ 81,000 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาอาจจะเป็นแนวโน้มออกข้างต่อ
- แนวรับ: 2,700,000 บาท / 81,000 USD
- แนวต้าน: 3,100,000 บาท / 92,000 USD

Ethereum (ETH)
Ethereum (ETH) ขึ้นมาทดสอบเส้นขากดใกล้ที่จะเบรคช่วงขาลงออกไปเพื่อกลับตัวเป็นขาขึ้น ในระยะสั้นหากสามารถผ่านแนวต้าน 1,700 ดอลลาร์สหรัฐไปได้ จะขึ้นมาทดสอบเป้าหมายที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ การกลับตัวขาขึ้นจะมีความชัดเจนขึ้น แต่หากยังไม่ผ่านให้จับตาที่จุดต่ำสุดเดิมที่ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 48,000 บาท / 1,400 USD
- แนวต้าน: 72,000 บาท / 2,000 USD

Memecoin (MEME)
Memecoin (MEME) ทำผลตอบแทน 45.44% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคามีการพุ่งอย่างรวดเร็วและอยู่ในช่วงการพักตัว จับตาที่แนวรับ 0.001800 ดอลลาร์สหรัฐ หากรับไว้ได้จะยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่แนวต้านที่ 0.002834 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ: 0.65 บาท / 0.001800 USD
- แนวต้าน: 0.95 บาท / 0.002834 USD

Enjin Coin (ENJ)
Enjin Coin (ENJ) ทำผลตอบแทน 44.58% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นค่อนข้างเร็ว กลยุทธ์การซื้อขายให้รอราคาย่อตัวลงมาโดยมีแนวรับที่ 0.0814 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นจุดเข้าซื้อได้ โดยมีเป้าหมายแนวต้านที่ระดับ 0.1310 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านระดับนี้ได้แนวโน้มจะกลับตัวเป็นขาขึ้น
- แนวรับ: 2.80 บาท / 0.0814 USD
- แนวต้าน: 2.40 บาท / 0.1310 USD
จับกระแสการลงทุน
ราคาทองคำสร้างจุดสูงสุดใหม่ขณะที่ Bitcoin (BTC) ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงต้นสัปดาห์ จากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าทำจุดต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 คาดเป็นผลพวงที่บางประเทศมีการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกมา ประกอบกับความไม่มั่นใจในนโยบายภาษีตอบโต้ของ Donald Trump
สภาพคล่องใหม่ทั่วโลกอาจจะเป็นตัวขับดันราคาสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึง Bitcoin โดย Binance Research ระบุว่า สหรัฐฯ จะออกพันธบัตรมูลค่ากว่า 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 คิดเป็น 109% ของ GDP รวมถึงธนาคารในจีนมีการปล่อยกู้ใหม่กว่า 500 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สูงกว่าคาดถึง 20% และธนาคารกลางยุโรปลดดอกเบี้ยครั้งที่ 7 ภายใน 1 ปี เหลือระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2565 เพื่อประคองเศรษฐกิจจากแรงกดดันด้านภาษีตอบโต้
มีความเป็นไปได้ที่แรงกดดันจากนโยบายภาษีตอบโต้ของ Donald Trump จะผ่านจุดที่ผันผวนที่สุดไปแล้วจากท่าทีที่ค่อนไปทางการเจรจามากขึ้นในช่วงหลัง คาดเม็ดเงินจะเริ่มไหลมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีตอบโต้ในระดับต่ำอย่าง Bitcoin และทองคำ
กลยุทธ์การลงทุนยังเน้นสะสม Bitcoin ระยะกลางถึงยาวในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ จากสถิติในอดีต หนึ่งปีหลังเกิด Bitcoin Halving ราคาจะพุ่งอย่างแรงในเดือนกรกฎาคมและทำจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน ส่วนเหรียญทางเลือก (Altcoin) ยังไม่ถึงเวลาเหมาะสมในการถือระยะยาวหรือเก็งกำไรระยะสั้น คาดว่าเม็ดเงินจะไหลเข้าลงทุน Bitcoin เป็นหลักในช่วงแรกหลังตลาดฟื้นตัว
แหล่งอ้างอิง
- https://www.theblock.co/post/351137/jpmorgan-bitcoin-failed-to-benefit-safe-haven-flows-gold
- https://www.coingecko.com/research/publications/2025-q1-crypto-report?utm_campaign
- https://www.theblock.co/post/351318/crypto-exchange-volume-falls-to-6-month-low-as-traders-flee-spot-for-futures
- https://cointelegraph.com/news/charles-schwab-eyes-spot-bitcoin-trading-2026
- https://thedefiant.io/news/research-and-opinion/stablecoin-transactions-surpassed-visa-s-in-q1-bitwise
- https://cointelegraph.com/news/ethereum-fees-drop-five-year-low-user-lull
คำเตือน
- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
Share this
- Bitazza Blog (56)
- Crypto Weekly (38)
- DAO (15)
- Beginner (14)
- mission (11)
- ความปลอดภัย (11)
- บล็อกเชน (8)
- Learning Hub (6)
- การค้าขาย (6)
- หัวข้อเด่น (6)
- ตลาด (5)
- วิจัย (5)
- Security (3)
- Tether (USDt) (3)
- missions (3)
- เศรษฐศาสตร์ (3)
- Bitazza Insights (2)
- Campaigns (2)
- Token talk (2)
- Trading (2)
- เกี่ยวกับการสอน (2)
- Crypto รายสัปดาห์ (1)
- Disclosure (1)
- Educational (1)
- Featured (1)
- Stablecoin (1)
- TradingView (1)
- bitcoin (1)
- บิทาซซ่าบล็อกส์ (1)