สัปดาห์ที่ 17 - 23 มิถุนายน 2568
Eric Balchunas นักวิเคราะห์อาวุโสด้าน ETF จาก Bloomberg ระบุว่า ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกาจะอนุมัติ ETF ที่อ้างอิงกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะที่ ETF ของ Solana และฟีเจอร์ในการจ่ายผลตอบแทนจากการสเตกมีโอกาสได้รับการอนุมัติสูงถึง 90% โดยมีกำหนดการตัดสินใจภายในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
Paul Atkins ประธาน ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา ออกโรงสนับสนุนการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตัวเอง (Self Custody) รวมถึงสนับสนุนระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) พร้อมระบุว่า นโยบายของ ก.ล.ต. ชุดเก่าใช้อำนาจศาลในการตัดสินคดีเกี่ยวกับคริปโตมากเกินไป
ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านทำให้เม็ดเงินลงทุนสุทธิใน Spot Ethereum ETF ติดลบเป็นวันแรกในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่ไหลเข้าเป็นบวกต่อเนื่องถึง 19 วันติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม มูลค่าสินทรัพย์สุทธิรวมของกองทุนแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัว ปัจจุบันอยู่ที่มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Spot Bitcoin ETF ยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิต่อเนื่อง
Spot Bitcoin ETF กำลังจะสร้างสถิติใหม่ มียอดซื้อขายสะสมแตะเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในเวลาไม่ถึง 18 เดือนหลังเปิดตัวในเดือนมกราคม 2567 โดยกองทุน IBIT เป็น ETF ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยใช้เวลาเพียง 341 วัน ในการแตะ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เร็วกว่าสถิติเก่าอย่าง SPDR Gold Shares (GLD) ที่ใช้เวลากว่า 1,691 วัน
Bitwise เปิดเผยว่า Bitcoin มีแนวโน้มพุ่งทะลุ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้ โดยมีมูลค่า Fair Value อยู่ที่ 230,000 ดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยหนุน คือ หนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยภาระดอกเบี้ยสุทธิจะพุ่งถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 ทำให้นักลงทุนมองว่า Bitcoin จะสามารถป้องกันความเสี่ยงจากภาวะรัฐล้มละลายได้ในระยะยาว
Walmart และ Amazon เปิดเผยว่า กำลังศึกษาแนวทางการออกสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ของตัวเองเพื่อใช้ในธุรกิจหากกฎหมาย Genius ACT มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ โดยจะนำมาใช้เพื่อเป็นระบบชำระเงินทางเลือก ลดการพึ่งพาบัตรเครดิตและธนาคาร
สภาแห่งชาติเวียดนามมีมติอนุมัติกฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล นับว่าเป็นครั้งแรกที่จะให้การยอมรับคริปโตในประเทศ หลังจากนี้ รัฐบาลเวียดนามจะมีการออกข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขการดำเนินธุรกิจ การจำแนกประเภทสินทรัพย์และกลไกกำกับดูแลโดยละเอียดต่อไป
Bitcoin (BTC) ปรับตัวลงแรงจากข่าวสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล แต่การไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ทำให้แนวโน้มยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยแนวรับแรกอยู่ที่ 102,000 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวรับสำคัญอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมาย คือการขึ้นไปทดสอบ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Ethereum (ETH) ขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐแล้วยังไม่ผ่าน การปรับตัวลงมาไม่ต่ำกว่า 2,200 ดอลลาร์สหรัฐ มองเป็นโอกาสเข้าซื้อเพื่อที่จะเบรคผ่านแนวต้านและกลับตัวขาขึ้นไปที่เป้าหมายแรก 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้มองถึงเป้าหมายระยะกลางที่ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Kaia (KAIA) ทำผลตอบแทน 16.06% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเก็งกำไรขึ้นมารับข่าวกฎหมายสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ในเกาหลีใต้ หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไม่ต่ำกว่าระดับ 0.1454 ดอลลาร์สหรัฐ แนวต้านเดิมอยู่ที่ 0.1814 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นจุดขายทำกำไรระยะสั้น
Maker (MKR) ทำผลตอบแทน 15.41% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มเริ่มที่จะเป็นขาขึ้นในช่วงระยะสั้น หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวที่แนวรับแรก 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หาจังหวะขายทำกำไรที่แนวต้านแรก 2,400 ดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non Farm Payroll) ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย อาจยังไม่ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจมาลดดอกเบี้ยในการประชุมวันพุธที่ 18 มิถุนายน 2568 นี้ แต่อาจส่งสัญญาณเชิงบวกออกมาได้ซึ่งจะช่วยผลักดันตลาดคริปโทเคอร์เรนซี
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างอิหร่านและอิสราเอลทำให้ราคา Bitcoin และตลาดคริปโตปรับตัวลดลง แต่มองว่าเป็นผลกระทบในช่วงเวลาสั้นเท่านั้นและไม่ได้ส่งผลต่อการปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีปัจจัยบวกจากการผ่านกฎหมายสนับสนุน Stablecoin และความชัดเจนของการส่งเสริมคริปโตของสหรัฐอเมริกาเป็นแรงหนุน
เริ่มมีกระแสถึงการอนุมัติ ETF ของเหรียญทางเลือก (Altcoin) ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ ประกอบกับผลตอบแทนของ Ethereum (ETH) เทียบกับ Bitcoin ที่กำลังฟื้นตัวขึ้นเป็นสัญญาณว่า Altcoin กำลังมีผลตอบแทนสูงกว่าตลาดโดยเฉลี่ยมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนยังเน้นสะสม Bitcoin ตามแนวรับ รวมถึง Ethereum และ Altcoin ที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากนโยบายของ Donald Trump โดยเฉพาะกลุ่มบล็อกเชนเลเยอร์ 1 รวมถึง DeFi และกลุ่มที่ใช้ในการชำระเงิน ขณะที่เหรียญซึ่งมีฐานดำเนินงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาก็อาจจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาเช่นกัน
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
เรียนรู้เพิ่มเติมบน Bitazza Thailand Blog