Bitazza Thailand Blog

จับตา FED ลดดอกเบี้ย หนุนตลาดคริปโตขาขึ้น

เขียนโดย Bitazza Team - 17 ก.ย. 2024, 10:35:15

 

สัปดาห์ที่ 17-23 กันยายน 2567

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Spot Bitcoin ETF มีเงินไหลเข้ารวม 263.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ไหลเข้าภายในวันเดียวที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมซึ่งมีเงินไหลเข้ามหาศาลอยู่ที่ 485.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ กองทุนยังมีเงินไหลเข้าทั้งหมดในสัปดาห์ที่แล้วรวม 403.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดีดตัวขึ้นจากสถานการณ์ที่มีเงินไหลเข้าสุทธิติดลบติดต่อกัน 2 สัปดาห์ 

MicroStrategy บริษัทผู้ให้บริการด้านซอฟต์แวร์และธุรกิจอัจฉริยะประกาศว่า ได้เข้าซื้อ Bitcoin (BTC) เพิ่มอีกประมาณ 18,300 BTC ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ราคาเฉลี่ย 60,408 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ถือครอง Bitcoin เพิ่มขึ้นรวมเป็น 244,800 BTC มูลค่ารวม 14,140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ราว 38,585 ดอลลาร์สหรัฐต่อ BTC

Matt Hougan ประธานฝ่ายการลงทุนของ Bitwise บริษัทจัดการสินทรัพย์ ระบุว่า ที่ปรึกษาด้านการเงินเปิดรับและแนะนำให้ลงทุนใน Spot Bitcoin ETF รวดเร็วมากกว่า ETF ใด ๆ ในประวัติศาสตร์ เพียงแต่กระแสการลงทุนถูกบดบังด้วยการลงทุนของนักลงทุนรายอื่น ๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Jim Bianco นักวิจัยด้านการลงทุนระบุผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า มีที่ปรึกษาด้านการเงินน้อยคนที่แนะนำให้ลูกค้าลงทุนใน Bitcoin ETF โดยเม็ดเงินที่ลงทุนใน Bitcoin ETF จำนวน 46,000 ล้านดอลลาร์ มีเม็ดเงินจากการแนะนำของที่ปรึกษาทางการเงินเพียง 1,450 ล้านดอลลาร์

ปริมาณการซื้อขายสเตเบิลคอยน์บนเชน Ethereum (ETH) พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,460,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายสเตเบิลคอยน์ยังเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจาก 650,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อต้นปีนี้ โดยมี Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) เป็นผู้นำในตลาด ขณะที่ Dai (DAI) มีปริมาณการซื้อขายแตะ 960,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าเติบโตมากที่สุด ตามมาด้วย PayPal USD (PYUSD) ของ Paypal 

Matthew Sigel หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck รายงานว่า Ethereum (ETH) อาจมีราคาพุ่งแตะ 12,000-22,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573 และอาจสร้างกระแสเงินสดอิสระ (free cash flow) ได้มากถึง 66,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในปีเดียวกัน

Grayscale Investments เปิดตัวกองทรัสต์ของ XRP ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเปิดให้กับนักลงทุนรายบุคคลและนักลงทุนสถาบันที่ผ่านการรับรอง รายงานของ Fox Business ระบุว่า การเปิดตัว Grayscale XRP Trust อาจปูทางไปสู่ Spot XRP ETF ในอนาคต

วิเคราะห์กราฟเทคนิค

 

 

Bitcoin (BTC)

Bitcoin (BTC) ปรับตัวลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแต่ยังสามารถยืนได้ต่อเนื่อง แม้ราคาปรับตัวลงแต่ Relative Strength Index (RSI) มีการสร้างโมเมนตัมที่จะกลับตัวเป็นขาขึ้น จับตาสัปดาห์นี้ราคามีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้านแรกที่ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้มีด่านทดสอบที่ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐและหากผ่านได้อีกมีโอกาสที่จะขึ้นต่อทดสอบจุดสูงสุดเดิม

  • แนวรับ : 1,760,000 บาท / 49,000 USD
  • แนวต้าน : 2,200,000 บาท / 65,000 USD

 

 

Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องและยังไม่เกิดจุดกลับตัวของราคา หากหลุดระดับ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ตัดขาดทุนไปก่อนเพราะแนวโน้มมีโอกาสลงต่อถึงระดับ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐ รอจุดกลับตัวของราคาเมื่อสามารถยืนเหนือแนวต้านที่ 2,750 ดอลลาร์สหรัฐได้อย่างต่อเนื่อง 

  • แนวรับ : 72,000 บาท / 2,100 USD
  • แนวต้าน : 96,000 บาท / 2,750 USD

 

 

Terra (LUNA)

Terra (LUNA) ทำผลตอบแทน 15.64% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังยกตัวเพื่อกลับตัวเป็นขาขึ้น ในระยะสั้นระวังจุดต่ำสุดที่ 0.300 ดอลลาร์สหรัฐ หากต่ำกว่าระดับดังกล่าวต้องตัดขาดทุนไปก่อน ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ระดับ 0.480 ดอลลาร์สหรัฐ ผ่านระดับนี้ไปได้จึงจะยืนยันการกลับตัว

  • แนวรับ : 10 บาท / 0.300 USD
  • แนวต้าน : 16 บาท / 0.480 USD



 

Sui (SUI)


Sui (SUI) ทำผลตอบแทน 15.60% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มระยะสั้นเคลื่อนไหวไซด์เวย์ โดยจะต้องผ่านแนวต้านที่ 1.177 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น ขณะที่แนวรับซึ่งใช้เป็นจุดซื้อ อยู่ที่ระดับ 0.7455 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าหลุดจากระดับนี้อาจลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม

  • แนวรับ: 26  บาท / 0.7455  USD
  • แนวต้าน: 44 บาท / 1.177 USD

จับกระแสการลงทุน 

ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมของสหรัฐอเมริกาประกาศออกมาอยู่ที่ 2.5% ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์โดยตรงอย่างทองคำซึ่งกลับไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ Bitcoin (BTC) ยังเคลื่อนไหวในระดับ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ตลาดกำลังจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่จะเกิดขึ้นในวันพุธที่ 18 กันยายนนี้ โดย FED Watch Tool ให้โอกาสที่จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ 0.50% หากเป็นไปตามตัวเลขนี้ อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดจากความกังวลว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่หากมีข้อสรุปให้ลดดอกเบี้ย 0.25% น่าจะส่งผลดีต่อราคา Bitcoin 

นักลงทุนอาจมีความกังวลต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาหาก Kamala Harris มีคะแนนนำ Donald Trump เนื่องจากนโยบายของพรรคเดโมแครตยังไม่มีความชัดเจนในการสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีเท่ากับนโยบายของพรรครีพับลิกัน อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มสูงที่สหรัฐอเมริกาจะผ่อนคลายกฎเกณฑ์เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีไม่ว่าพรรคใดจะชนะ ดังนั้น หาก Kamala Harris ชนะการเลือกตั้งจึงไม่น่าจะส่งผลลบต่อตลาดมากนัก แต่หาก Donald Trump ชนะจะส่งผลบวกต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างมาก

เดือนกันยายนยังคงเป็นช่วงเวลาสำหรับการทะยอยสะสม Bitcoin เพื่อเตรียมรับกับตลาดขาขึ้น แม้ระยะสั้นจะมีความผันผวน แต่แนวโน้มขาลงมีจำกัด สามารถเข้าสะสมได้ที่แนวรับตั้งแต่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นต้นไป

 

แหล่งอ้างอิง

 

คำเตือน

  • คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

 

หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน