สัปดาห์ที่ 17-23 ธันวาคม 2567
BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกแนะนำ ให้จัดสรรการลงทุนใน Bitcoin (BTC) เป็นสัดส่วน 1-2% ในพอร์ต แม้ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นแต่ผลตอบแทนที่ได้รับถือว่าคุ้มค่าและอยู่ในระดับเดียวกับการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ทั้ง 7 (Magnificent 7)
VanEck คาดว่า จุดสูงสุดในระยะกลางของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ก่อนจะปรับตัวลงและขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลอีกรอบในช่วงสิ้นปีเดียวกัน โดย Bitcoin มีจุดสูงสุดของราคาอยู่ที่ 180,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ Ethereum (ETH) อยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Solana (SOL) และ Sui (SUI) จะมีราคาแตะ 500 และ 10 ดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ
David Solomon ซีอีโอของ Goldman Sachs กล่าวว่า เขาจะประเมินการตัดสินใจลงทุนใน Bitcoin และ Ethereum ใหม่หากกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกามีความชัดเจนมากขึ้น
Ray Dalio แนะนำให้ลงทุนใน Bitcoin และทองคำ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทหนี้ (Debt Asset) อย่างเช่น พันธบัตร เนื่องจากปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้นในระบบการเงินโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและจีนที่สินทรัพย์ประเภทที่จับต้องได้ (Hard Asset) สามารถป้องกันความเสี่ยงได้
ผู้ถือหุ้น Microsoft ลงมติไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้เพิ่ม Bitcoin เข้าสู่งบดุลของบริษัทในระหว่างการประชุมประจำปีของบริษัท โดยให้เหตุผลว่า ได้พิจารณาข้อเสนอนี้อย่างรอบคอบแล้วและความผันผวนของราคาเป็นปัจจัยที่นำมาพิจารณาในการประเมินการลงทุน
มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) สร้างจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุระดับ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 13% ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยเม็ดเงินบางส่วนไหลไปลงทุนใน DeFi Lending Protocol ส่งผลให้มูลค่ารวมที่ถูกล็อคไว้ (TVL) แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้าจุดสูงสุดเดิมที่ 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในตลาดขาขึ้นรอบที่แล้ว
DefiLlama รายงานเม็ดเงินลงทุนใน Ethereum Liquid Staking มีมูลค่ารวมที่ถูกล็อคไว้ (TVL) เพิ่มขึ้นเกือบ 6,000% ในปี 2567 โดยขึ้นมาแตะระดับ 17,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Bitcoin (BTC) พุ่งแตะระดับ 106,000 ดอลลาร์สหรัฐตามเป้าหมาย ทำให้ยกเป้าแนวต้านต่อไปที่ระดับ 118,000 ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนี RSI ยังคงมีโมเมนตัมที่จะทำให้ราคาเป็นขาขึ้นได้ต่อเนื่อง แต่ระวังแรงเทขายจากกลุ่มผู้ที่ถือมาตั้งแต่ราคาต่ำ ส่วนแนวรับอยู่ที่ระดับ 92,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Ethereum (ETH) มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 4,900 ดอลลาร์สหรัฐ หากราคา Bitcoin เริ่มเคลื่อนไหวออกข้าง หาจังหวะเข้าซื้อที่ราคาไม่ต่ำกว่าระดับ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มราคาในภาพรวมกลับตัวเป็นขาขึ้นแล้ว ประกอบกับแรงซื้อผ่าน Spot Ethereum ETF ยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่องช่วยหนุนราคา
Aave (AAVE) ทำผลตอบแทน 39.46% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพรวม มีเป้าหมายแนวต้านที่ระดับ 420 ดอลลาร์สหรัฐ กลยุทธ์หาจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัว แนวรับแรกอยู่ที่ระดับ 300 ดอลลาร์สหรัฐ หากสามารถยืนเหนือราคานี้ได้มองเป็นโอกาสซื้อ
Chainlink (LINK) ทำผลตอบแทน 23.76% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังกลับตัวขาขึ้นในภาพรวม เป้าหมายแนวต้านอยู่ที่ 33 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแนวรับที่สามารถหาจังหวะเข้าซื้อได้อยู่ที่ระดับ 27 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม หากหลุดจากระดับนี้อาจเสียโมเมนตัมขาขึ้นได้
แม้ผู้ถือหุ้น Microsoft ไม่ได้อนุมัติให้เข้าลงทุนใน Bitcoin (BTC) แต่ตลาดไม่ได้คาดหวังกับข่าวนี้มาก่อนหน้า ทำให้การปรับฐานลงอยู่ในระดับจำกัด นอกจากนี้ การที่ Donald Trump ประกาศว่าจะเข้าซื้อ Bitcoin เพื่อเป็น Strategic Reserve ทันทีหลังเข้ารับตำแหน่งทำให้ราคา Bitcoin พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Bitcoin Dominance ยังคงไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ดัชนี Total3 ไม่มีการทำจุดต่ำสุดใหม่ คาดเหรียญทางเลือก (Altcoin) ยังทำผลตอบแทนได้ดีกว่า Bitcoin ต่อไป แต่การ Liquidate ตลาดครั้งใหญ่ในช่วงสัปดาห์ก่อนอาจทำให้รายย่อยยังลังเลที่จะกลับเข้าตลาด จำเป็นต้องเลือกกลุ่มเหรียญที่ผลตอบแทนดีกว่าตลาดเป็นหลัก
มูลค่ารวมที่ถูกล็อกไว้ (TVL) ของ DeFi กลับมาสร้างจุดสูงสุด คาดว่าเหรียญในกลุ่มนี้จะสร้างผลตอบแทนดีกว่าตลาดในช่วงหลังจากนี้ ทั้งเหรียญ DeFi จากรอบก่อนและเหรียญที่มาในรอบนี้ รวมถึงกลุ่ม Liquid Staking และ ReStaking ที่ทำผลตอบแทนได้ดี
หลังจากสัปดาห์นี้ ตลาดอาจจะเริ่มมีปริมาณการซื้อขายน้อยลงจากนักลงทุนสถาบันที่จะชะลอการซื้อขายลง ทำให้ราคา Bitcoin อาจจะเคลื่อนไหวขึ้นแบบ Sideway
กลยุทธ์การลงทุนทยอยสะสม Ethereum (ETH) รอจังหวะเม็ดเงินหันมาลงทุนแทน Bitcoin ที่ราคาเคลื่อนไหวเริ่มจำกัด ซื้อขายเก็งกำไรในเหรียญกลุ่ม DeFi และสะสมกลุ่มบล็อกเชนเลเยอร์ 1 (Blockchain Layer 1) ที่แนวโน้มกลับมาขาขึ้นในภาพรวม
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน