สัปดาห์ที่ 12-18 พฤศจิกายน 2567
Cynthia Lummis วุฒิสมาชิกจากพรรคริพับลิกัน ยืนยันแผนการผลักดันให้สหรัฐอเมริกาจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin (BTC) ในเชิงยุทธศาสตร์ หลังพรรคริพับลิกันมีแนวโน้มได้รับเสียงข้างมากในวุฒิสภาในปี 2568 ซึ่งจะทำให้มีโอกาสผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้มากขึ้น
Geoff Kendrick นักวิเคราะห์จากธนาคาร Standard Chartered คาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปีนี้ ราคา Bitcoin จะพุ่งแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐก่อนวันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันหมดอายุของ Bitcoin Options บางส่วน รวมทั้งภายในวันที่ 20 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันที่ Donald Trump สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ราคา Bitcoin จะขึ้นไปแตะ 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Spot Bitcoin ETF ของ Blackrock หรือ iShares Bitcoin Trust (IBIT) มีสินทรัพย์สุทธิเกิน 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แซงหน้า iShares Gold Trust (IAU) ที่ลงทุนในทองคำโดยใช้เวลาเพียง 10 เดือน ขณะที่ IAU ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2548
Blackrock เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน Spot Ethereum ETF สูงสุดในรอบ 94 วัน รวมมูลค่า 60.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กองทุน Spot Ethereum ETF รายอื่น ๆ ก็มีเม็ดเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ Donald Trump ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง
ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาคำขอจัดตั้ง Spot Ethereum ETF ที่มีการใช้ตราสารอนุพันธ์ออปชัน (Option) ในการซื้อขายที่ยื่นโดย Bitwise และ Grayscale หากได้รับการอนุมัติ จะถูกลิสต์ให้ซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ NYSE American
Bitcoin (BTC) ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องจนสร้างจุดสูงสุดใหม่และชนแนวต้านเป้าหมายที่ 88,000 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มอาจเข้าสู่รอบย่อตัวจากการที่ RSI เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ประเมินแนวรับอยู่ที่ 77,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นจุดในการเข้าซื้อ โมเมนตัมยังสามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง หาจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวได้
Ethereum (ETH) ปรับตัวขึ้นแรงสามารถผ่าน Sideway ออกมาได้ แนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว แนวต้านแรกอยู่ที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากมีการพักตัวก่อน คาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถใช้เป็นจุดในการเข้าซื้อได้ โมเมนตัมยังคงเป็นขาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
Moo Deng (MOODENG) ทำผลตอบแทน 166.82% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การที่ราคาพุ่งแรงอาจเข้าสู่รอบการพักตัว คาดแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 0.33 ดอลลาร์สหรัฐ หากหลุดจากระดับนี้ให้ระวังแนวโน้มกลับตัวเป็นขาลง ส่วนแนวต้านเป้าหมายอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมที่ 0.55 ดอลลาร์สหรัฐ
Cardano (ADA) ทำผลตอบแทน 89.36% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพรวม หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาที่ระดับ 0.55 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าสามารถรับได้ จะมีแนวต้านเป้าหมายแรกที่ระดับ 0.70 ดอลลาร์สหรัฐ
ราคา Bitcoin (BTC) ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่หลัง Donald Trump ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและยังทำให้ราคาเหรียญทางเลือก (Altcoin) ปรับตัวขึ้นแรงด้วยเช่นกัน มีแนวโน้มสูงที่จะกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพรวมได้
คาดราคา Bitcoin สามารถเป็นขาขึ้นตลอดเดือนพฤศจิกายนก่อนจะเริ่มปรับฐานในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตาม มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้ออีกครั้งเพราะตลาดจะยังมีโมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องไปจนถึงพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายเดือนมกราคม 2568
หากราคา Bitcoin เริ่มนิ่งและดัชนี Bitcoin Dominance เริ่มคงตัวในระดับ 60% อาจจะเกิด Altcoin Season ขึ้นจากการซื้อเหรียญที่ปรับตัวลงแรงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสในการสะสมเหรียญทางเลือก (Altcoin) ที่มีพื้นฐานรองรับ
ในวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2567 จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.3% เท่ากับเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีกำหนดขึ้นพูดเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
แม้ตลาดจะให้ความสำคัญกับอัตราเงินเฟ้อและการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แต่มีความเป็นไปได้ว่าในยุคของ Donald Trump เงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาอาจจะเพิ่มสูงขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจนอาจทำให้การลดดอกเบี้ยช้าลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้เช่นกัน
แหล่งอ้างอิง
คำเตือน
หมายเหตุ มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน